รวบหัวหน้าแก๊งกำถั่วหนีหมายจับ เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

รวบหัวหน้าแก๊งกำถั่วหนีหมายจับ เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

รวบหัวหน้าแก๊งกำถั่วหนีหมายจับ เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2561 พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.กก3 บก.ป. พ.ต.อ.ธีรพัฒน์ ธารีไทย ผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์  อำนวยการให้ พ.ต.ท.ประทีป ชูศรี สว.กก.3 บก.ป., ร.ต.อ.ธินินทร์ เทพชารี รอง สว.กก.3 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำหมายจับ 508/2 ที่ จ./2552 คดีที่ 0423/2552 สภ.บางพลี ที่ 203/2552

เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 320 หมู่ 10 บ้านดงบ่อ ต.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ทำการจับกุมตัวนาย นายวัชรพงศ์ หรือเสี่ยโทน อายุ 55  ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งถือเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อำเภอยางตลาด

โดยเจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาล จ.สมุทรปราการเข้าทำการชี้แจง ด้านผู้ต้องหามีอารมณ์ไม่พอใจพูดจาเสียงดังดื่มสุรา เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัวไปที่กองกำกับสืบสวนภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนที่จะส่งตัวไปที่ สภ.บางพลี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สืบทราบว่าเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2552 ที่หมู่ 10 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นางบุญล้อม ศรีอินทร์มนต์ ผู้กล่าวหา ได้ให้การว่า ผู้ต้องหาได้มาที่บ้านพักอาศัย โดยบอกว่าจะพาเพื่อนชาวไต้หวันมาซื้อบ้านของผู้กล่าวหาในราคา 4 ล้านบาท และพูดว่าเมื่อวานได้เสียพนันไป 3 ล้านบาทไม่รู้ว่าโดนโกงรึเปล่า

จากนั้นจึงได้โทรหาเพื่อนอีกคนให้มาสอนวิธีการโกงเล่นพนันกำถั่วให้ผู้กล่าวหาดู โดยใช้เมล็ดฟักทองแทนถั่ว จนผู้กล่าวหาพอเข้าใจเล่นได้แล้วต่อมาผู้ต้องหาอีกคนได้ขับรถเบนซ์ป้ายแดงถือกระเป๋าสีดำเดินเข้ามาในบ้านได้เปิดกระเป๋าให้ดูว่ามีเงินสดจำนวน 6 ล้านบาทอยู่ในกระเป๋า

พร้อมกับท้าทายให้ผู้กล่าวหาร่วมเล่นพนันด้วยจนหลงเชื่อร่วมเล่นพนันด้วย โดยทั้งหมดบอกว่าให้เอาเงินคนละ 4 ล้านบาท มาลงหุ้นกัน แต่ผู้กล่าวหามีเงินจำนวน 1 ล้านบาท ผู้ต้องหาจึงพานั่งรถไปเบิกเงินสดจำนวน 1 ล้านบาทที่ธนาคารและเดินทางกลับบ้านที่บ้าน

โดยให้ผู้กล่าวหาเป็นเจ้ามือและใช้การเขียนจำนวนเงินลงในแผ่นกระดาษไว้สำหรับแทงพนัน โดยแทงกันครั้งละเป็นแสน ถึง 2-3 ล้านบาท และมีการจดบันทึกไว้ว่าใครได้เสียเท่าไหร่

โดยเล่นกันตั้งแต่เวลา 15.00 - 16.00 น.พบว่าผู้ต้องหา 2 คนและผู้กล่าวหาเป็นหนี้พนันกำถั่ว โดยให้เอาเงินมาวางรวมกัน ผู้กล่าวหาได้นำเงินจำนวน 1 ล้านบาท ไว้ในกระเป๋าวางเอาไว้ก่อนการเล่นการพนันแล้วได้ถูกผู้ต้องหาเป็นคนเอาเงินไป

โดยบอกว่าผู้กล่าวหายังเป็นหนี้ ที่ค้างชำระอีก 3 ล้านบาท หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งหมดพากันหลบหนีไป ผู้กล่าวหาทราบว่าถูกหลอกเอาเงินไป จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกง 

โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 คนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ขอศาลอนุมัติหมายจับตั้งแต่ปี 2552 แต่ผู้ต้องหาทั้งหมดได้หลบหนีไป จนทางเจ้าหน้าที่สืบทราบมาว่านายวัชรพงศ์ หรือเสี่ยโทน ได้มาอาศัยอยู่ที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์

ซึ่งถือเป็นผู้มีอิทธิพลกว้างขวางในพื้นที่สูง โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการขยายผลเครือข่ายและทราบว่าภรรยายังมีหมายจับอีกด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ขอหมายค้นบ้านจากศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อตรวจสอบภายในบ้านอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook