“แจ็ค หม่า” ให้ - ได้ อะไรจากไทย? ถึงต้องเข้าพบ “บิ๊กตู่”

“แจ็ค หม่า” ให้ - ได้ อะไรจากไทย? ถึงต้องเข้าพบ “บิ๊กตู่”

“แจ็ค หม่า” ให้ - ได้ อะไรจากไทย? ถึงต้องเข้าพบ “บิ๊กตู่”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อ นายแจ็ค หม่า (Mr. Jack Ma) ประธานกรรมการบริหารบริษัทอาลีบาบาและคณะผู้บริหาร เดินทางมาเยือนประเทศไทย และเข้าพบ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และหัวหน้า คสช. แล้วยังเข้าพบ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหาทางร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทย และ Alibaba Group  เพื่อประกาศแผนการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC

หลังจากพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีไปเล็กๆ น้อยๆ พอหอมปากหอมคอแล้ว ก็มีการลงนามกับกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงท่องเที่ยว ส่วนจะลงทุนกันเรื่องอะไร อย่างไรบ้างนั้น มาฟังรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงเล่าให้ฟังแบบ Sanook! Sanook! กันดีกว่า  

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นายวีระศํกดิ์ โควสุรัตน์ อธิบายที่กระทรวงท่องเที่ยว เรื่องการลงนามกับอาลีบาบาอย่างสนุกสนานว่า

ทางอาลีบาบา จะมอบชุดข้อมูลของประชาชนชุดหนึ่ง ที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวเมืองรองของประเทศไทยมาให้ แล้วทางไทย ก็มีหน้าที่ทำข้อมูล ทำรีวิวท่องเที่ยว ไปนำเสนอต่ออาลีบาบา เพื่อให้ได้ทำงานร่วมกัน

2ทำเนียบรัฐบาลนายแจ็ค หม่า และ พล.อ.ประยุทธ์

รัฐมนตรีวีระศักดิ์ ยังย้ำว่า "ไทยไม่ได้ต้องการข้อมูลทั้งหมดที่ทางอาลีบาบามี ไทยต้องการแค่กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่มีคุณภาพเท่านั้น  จึงขอยืนยันว่าไทยต้องการนักท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานให้กระจายตัวออกไปท่องเที่ยวเมืองรอง ไม่ใช่ติดอยู่แต่เมืองดังๆ อย่างเช่น กรุงเทพ เชียงใหม่ หรือ ภูเก็ต"

ขณะที่นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เล่าให้ฟังว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้เกิดจากการที่นายแจ็ค หม่า แสดงเจตนาที่จะสนับสนุนไทย เพราะเห็นว่าประเทศไทยกำลังจะปรับปรุงเศรษฐกิจ ไปสู่ยุคดิจิตอล ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมก็ต้องการความร่วมมือในการพัฒนาผู้ประกอบการไทย ทั้ง SME และ Start up หรือผู้ประกอบการรายใหม่นั้นเอง

3

ตรงนี้เองอาลีบาบาจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาลงพื้นที่ทำงานคู่กับกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าไปตามสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด นำความรู้พื้นฐานที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเข้าไปสอนประชาชนให้สามารถใช้เป็นและให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ขณะที่เรื่องเกษตรกร ก็จะมีการทำแอปพลิเคชั่นส่งทุเรียนไทยถึงมือผู้บริโภคในจีนได้โดยตรง และอาลีบาบายังจะเข้ามาช่วยในเรื่องค้าขายข้าวอีกด้วย

ส่วนเรื่อง Smart Digital นั้น อาลีบาบา เตรียมตั้งศูนย์ใหญ่ที่จังหวัดฉะเชิงเทราบนพื้นที่ 100 – 150 ไร่ อย่างไรก็ดีศูนย์นี้จะเป็นศูนย์รวมสินค้าทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยมีโอกาสเอาของไปรวมแล้วทางอาลีบาบาก็ส่งตรงไปยังประเทศจีนได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook