จนท.ศูนย์วิจัยผลผลิตป่าไม้ เข้าป่าถูกอุ้มหายกลายเป็นศพ

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2561 เวลา 09.00 น. นายจเรศักดิ์ นันตะวงศ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ ได้ลงพื้นที่จุดที่พบรถของนายการุณ วันสว่าง จนท.ศูนย์วิจัยผลผลิตป่าไม้ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่

ซึ่งประกอบด้วย หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.3 ขุนยวม , เจ้าหน้าที่หน่วยอุทยาน ฯ , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนยวม , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอขุนยวม , ตชด.ร้อย 336 และ กองร้อยทหารพรานที่ 3605 กรมทหารพรานที่ 36

โดยได้มีการจัดกำลังแบ่งออกเป็น 5 ชุด ออกเดินเท้าปูพรม กระจายกันค้นหา บริเวณลำห้วยสอตือ ต่อมาเมื่อเวลา 10.15 น.  จนท.ชุดตรวจค้นได้พบศพนายการุณ วัยสว่าง  อยู่ห่างจากสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเวียงหล้าไปทางหัวห้วยสะตือประมาณ  2  กม.

ขณะนี้กำลังลำเลียงศพออกมาเพื่อส่งไปชันสูตรศพที่โรงพยาบาลขุนยวม สำหรับเรื่องของการหายตัวไปของนายการุณ วันสว่าง จนท.ศูนย์วิจัยผลิตผลป่าไม้ เริ่มแรกเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2561 นางอรุณ ทิพาคำ ภรรยา ได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ปรานต์ ขาสัก รอง สว.( สอบสวน ) สภ.ขุนยวม ว่า

นายการุณ วันสว่าง ซึ่งเป็นสามีได้โทรมาบอกก่อนหน้านี้ว่าได้ถูกกลุ่มบุคคลประมาณ 10 กว่าคน พร้อมอาวุธปืน  ควบคุมตัวไว้ขณะที่นายการุณฯ เข้าไปในป่าดอยเวียงหล้า

ทางเจ้าหน้าที่จึงพากันออกติดตามตัวพบร่องรอยการพักอาศัยอยู่ในป่า บริเวณพื้นที่ป่าดอยเวียงหล้า ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน พบรถจักรยานยนต์ และพบอุปกรณ์ช๊อตปลา

สืบเนื่องจากวันที่ 21 เม.ย.61 นายการุณ  วัยสว่าง ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ม.3 ได้ออกไปสำรวจพืชสมุนไพร และของป่า ณ ห้วยกองมู ห้วยสาขาห้วยแห้ง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เงาและป่าแม่สำเพ็ง เขตติดต่อระหว่างหมู่ที่ 1 บ้านขุนยวม และหมู่ 3 บ้านแม่สุรินทร์ ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน

เวลา 09.00 น.ได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับภรรยาแต่ภรรยาไม่ได้รับสาย เวลา ประมาณ 14.00 น ได้ติดต่อมาทางโทรศัพท์มาอีกครั้ง แจ้งว่าหลงป่าและถูกควบคุมตัว ขอให้ไปแจ้งกับ จนท.ให้ไปช่วยเหลือภรรยาจึงได้ไปแจ้ง จนท.เทศบาลขุนยวม และตำรวจ สภ.ขุนยวมและได้ให้ตำรวจพูดคุยทางโทศัพท์กับผู้ควบคุมตัว

สุดท้ายตำรวจถามว่าต้องการอะไรไม่มีการตอบรับและสัญญาณการใช้โทรศัพท์ถูกตัดไป เวลาประมาณ 15.00 น. พี่สาวนายการุณฯ ได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับนายการุณอีกครั้งหนึ่ง

นายการุณฯ แจ้งว่า ถูกชาย 4– 5 คน ควบคุมตัวเข้าไปในป่าลึก และไม่เข้าใจภาษาที่ชายกลุ่มดังกล่าวใช้สื่อสารกันจากนั้นก็ขาดการติดต่อไปก่อนจะพบเป็นศพดังกล่าว