สมจิตร-มนัสออกทวงโบนัสอีกรอบ
ฮีโร่นักชกเหรียญทองโอลิมปิก 2008 "ปักกิ่งเกมส์" สมจิตร จงจอหอ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกแปลกใจที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จ่ายค่าตอบแทนโบนัสอัดฉีด ในการสร้างผลงานของนักกีฬาไทยล่าช้ามาก เพราะตามระเบียบ กกท. นักกีฬาไทยที่ทำผลงานได้เหรียญจาก การแข่งขันระดับนานาชาติ โดยเฉพาะรายการชิงแชมป์โลก ต้องได้รับเงินสวัสดิการโบนัสรางวัลจากภาครัฐบาล ที่จ่ายผ่านกกท. แต่ปรากฏว่า นักกีฬาหลายคน ตั้งตารอรับเงินดังกล่าวมานานเป็นปีก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้รับเงินแต่อย่างไร
สมจิตร กล่าวต่อว่า เรื่องนี้กระทบถึง นักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ที่ไปแข่งขัน มวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์โลก ที่ชิคาโก สหรัฐ เมื่อเดือนพ.ย. ปี พ.ศ. 2550 ในรายการ ไไอบ้า เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ 2007" ซึ่งเป็นรายการคัดเลือกตัวไปแข่งขันโอลิมปิก 2008 "ปักกิ่งเกมส์" โดยการชกครั้งนั้นตนกับ นน บุญจำนงค์ ได้เหรียญเงิน ต้องได้รับเงินคนละ 5 แสนบาท อีกคนคือ อำนาจ รื่นเริง ได้เหรียญทองแดง ต้องได้รับเงิน 3 แสนบาท รวมยอดเงินของ 3 นักชก 1.3 ล้านบาท แต่ตอนนี้ศึกมวยรายการนี้กำลังจะชกกันอีก ระหว่าง 1-12 ก.ย.นี้ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี นักชกก็ยังไม่ได้รับเงินส่วนนี้
ฮีโร่ปักกิ่งเกมส์ สมจิตร จงจอหอ กล่าวอีกว่า ตนไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน แต่เห็นใจน้องๆ คนอื่นมากกว่า เพราะเขาต้องการใช้เงิน มีภาระที่ต้องรับผิดชอบ และก็รอมานานมากเกือบจะ 2 ปีแล้ว เงินส่วนนี้เป็นสิทธิของเขาที่ต้องได้ จึงอยากฝากผู้ใหญ่ช่วยประสานงาน และเร่งรัดให้ด้วย ด้าน มนัส บุญจำนงค์ นักชกประวัติศาสตร์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2004 "เอเธนส์เกมส์" และเหรียญเงินโอลิมปิก 2008 "ปักกิ่งเกมส์" ได้ออกมาเรียกร้องแทนน้องชาย นน บุญจำนงค์ ว่า อยากให้ผู้ใหญ่ช่วยดำเนินการด้วย เพราะนักมวยต้องการใช้เงิน ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจึงได้ชักช้านัก เพราะอีกไม่กี่เดือนก็ครบ 2 ปีเต็มแล้ว
จากเรื่องนี้ นางรุ่งทิวา รอดโพธิ์ทอง หัวหน้างานสวัสดิการและกองทุนกีฬา หน่วยงานในสังกัด กกท. กล่าวว่า ตอนนี้มีเงินค้างจ่ายนักกีฬาที่ได้เหรียญรางวัลกว่า 20 ล้านบาท สาเหตุไม่ได้เกิดจากการทำงานล่าช้าของกองทุนกีฬา แต่ติดขัดที่รายการที่นักกีฬาไปแข่งขันนั้นอยู่ในส่วนของงบกลาง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ออกมา จึงขอให้นักกีฬารอไปก่อน และเมื่อเงินออกมาแล้วจะรีบนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร เพื่อจะได้อนุมัติเบิกจ่ายต่อไป.