สาวไม่ห่วงสวย สักชื่อ "ยาที่แพ้" ติดแขน ช่วยชีวิตครั้งเดียวก็ถือว่าคุ้ม

สาวไม่ห่วงสวย สักชื่อ "ยาที่แพ้" ติดแขน ช่วยชีวิตครั้งเดียวก็ถือว่าคุ้ม

สาวไม่ห่วงสวย สักชื่อ "ยาที่แพ้" ติดแขน ช่วยชีวิตครั้งเดียวก็ถือว่าคุ้ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"รอยสักช่วยชีวิต" สาวเชียงใหม่ลงทุนสักชื่อยาที่แพ้ติดแขน ช่วยแจ้งทีมแพทย์กรณีหมดสติ เผยแพ้ยาจนช็อกเข้าไอซียูมาแล้ว เชื่อรอยสักช่วยชีวิตได้แค่ครั้งเดียวก็คุ้ม

(25 เม.ย.) นางสาวศิริอร กาสุยะ อายุ 32 ปี หรือ น้องแอน เจ้าของร้านตัดผม ”ตัดเพลิน” ในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โชว์รอยสักที่ท่อนแขนซ้าย ซึ่งเป็นรอยสักที่แปลกและแตกต่างจากรอยสักที่ผู้ชื่นชอบศิลปะการสักบนเรือนร่างนิยม เพราะเป็นรอยสักตัวอักษรภาษาอังกฤษขนาดเล็กเรียงเป็นแถวสวยงาม พร้อมโลโก้ถ้วยทรงสูงที่มีงูพันรอบ

รอยสักข้อความบรรทัดแรก บอกว่า โปรดสนใจข้อความนี้ ส่วนบรรทัดถัดมา จะอธิบายว่า แพ้ยาชนิดใดบ้าง และอาการที่แพ้ยาไล่ตั้งแต่เบาไปหาหนัก ตั้งแต่เป็นผื่น มีอาการหนาวสั่น หน้าบวม หายใจไม่ออก ส่วนบรรทัดสุดท้าย เป็นข้อความข้อร้องให้แพทย์ใช้ยาในการรักษาอย่างระมัดระวังในกรณีที่หมดสติ ส่วนโลโก้ถ้วยที่มีงูพันรอบ คือสัญลักษณ์ทางวิชาชีพเภสัชกรรม ที่เป็นสักลักษณ์สากล ที่เรียกว่า Bowl of Hygeia (โบล ออฟ ไฮเจีย ) เป็นรูปงูศักดิ์สิทธิ์ พันรอบถ้วยยาของเทพีไฮเจีย (Hygeia) ถือเป็นเทพีแห่งเภสัชกรรม

นางสาวศิริอร บอกว่า รอยสักดังกล่าวเป็นข้อความภาษาอังกฤษที่บอกว่า ตนเองมีอาการแพ้ยาชนิดใดบ้าง ส่วนโลโก้ถ้วยถือเป็นสัญลักษณ์สากลทางเภสัชกรรม สาเหตุที่ตัดสินใจสักเพราะเป็นคนแพ้ยากลุ่มยาแก้อักเสบ และยาฆ่าเชื้อ ก่อนหน้านี้แพทย์ให้ตนเองพกบัตรประจำตัวว่าแพ้ยาอะไร แต่เมื่อคิดทบทวนหากเกิดกรณีที่ตนเองหมดสติจากอุบัติเหตุ หรืออาการเจ็บป่วยอื่นๆ ก็ไม่สามารถที่จะนำบัตรที่พกติดตัวแจ้งกับแพทย์หรือพยาบาลที่ทำการรักษาได้

ล่าสุดตนเองเกิดอาการแพ้ยารุนแรงจนถึงขั้นช็อกต้องนอนรักษาตัวในห้องไอซียูมาแล้ว ซึ่งแพทย์ก็แจ้งว่า อาการแพ้ยาจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หากเกิดอุบัติเหตุจนหมดสติเมื่อแพทย์เห็นว่ามีแผลก็จะฉีดยาที่ป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ในขณะที่แพทย์หรือพยาบาลอาจไม่ได้ตรวจสอบกระเป๋าที่พกติดตัว หรือกระเป๋ากระเด็นหายไประหว่างเกิดอุบัติเหตุ จึงไม่ทราบว่าคนไข้มีอาการแพ้ยาชนิดซึ่งอาจทำให้เกิดการรักษาที่ผิดพลาดขึ้น

แม้รอยสักนี้จะไม่สวยงามเหมือนรอยสักทั่วไป และต้องติดตัวไปตลอดชีวิต แต่ก็เชื่อว่าหากสามารถช่วยชีวิตเราได้เพียงครั้งเดียวก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook