เปิดใจครอบครัว "น้องสโนว์" 2 ปียังฝันร้าย จำเลยยื่นอุทธรณ์โทษประหาร

เปิดใจครอบครัว "น้องสโนว์" 2 ปียังฝันร้าย จำเลยยื่นอุทธรณ์โทษประหาร

เปิดใจครอบครัว "น้องสโนว์" 2 ปียังฝันร้าย จำเลยยื่นอุทธรณ์โทษประหาร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากคดีฆาตกรรม น.ส.ฤดีวัลย์ พลประสิทธิ์ หรือ น้องสโนว์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถูกคนร้ายตามถีบรถจักรยานยนต์ล้ม ก่อนจะทุบตีทำร้าย และพยายามข่มขืน แต่เหยื่อฮึดสู้จนถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2558 ที่ริมถนนบ้านสีถาน-โนเมือง ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์

>>เด็กสาวสู้โจรรอดข่มขืนแต่เจ็บสาหัส วอนบริจาคเลือดช่วย

ซึ่งคดีนี้มีการจับกุมและส่งฟ้อง นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน ต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธและต่อสู้คดีมาโดยตลอด กระทั่งศาลจังหวัดกาฬสินธุ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ให้ประหารชีวิตนายกฤติเดช และให้ชดใช้ค่าสินไหม 2,390,000 บาท ซึ่งแม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะผ่านมานานกว่า 2 ปี 4 เดือนแล้ว ครอบครัวน้องสโนว์ยังคงไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิต เนื่องจากเป็นการพรากชีวิตคนในครอบครัวไปอย่างที่ไม่มีวันหวนกลับ และต้องต่อสู้คดีเพื่อให้น้องสโนว์ได้รับความเป็นธรรม

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เข้าไปสอบความเป็นอยู่ของครอบครัวน้องสโนว์ ซึ่งพบกับนายกฤษณ์ นางลำไย พลประสิทธิ์ พ่อแม่น้องสโนว์ และน.ส.ภัทรานิตย์ พลประสิทธิ์ พี่สาวน้องสโนว์ ซึ่งยังคงใช้ชีวิตปกติประจำวัน ซึ่งนางลำไย พลประสิทธิ์ ยังคงยึดอาชีพขายกระเป๋าและรองเท้าที่ตลาดนัด อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด ทางด้านพี่สาวน้องสโนว์ได้นำภาพถ่ายน้องสาวทั้งจากภาพที่ล้างอัดมาแล้ว และภาพเก่าในเฟซบุ๊กของน้องสโนว์กว่า 200 ภาพมาติดไว้ข้างฝาผนังบ้าน 

นางลำไย พลประสิทธิ์ กล่าวว่า แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2558 และน้องสโนว์เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 258 ซึ่งเวลาผ่านมานานกว่า 2 ปี กับอีก 4 เดือนแล้ว แต่คนในครอบครัวทุกคนก็ไม่เคยลืม เพราะเป็นเหมือนฝันร้ายที่เกิดขึ้นทุกวัน และยังจำเหตุการณ์ได้ดี ซึ่งทุกๆ วันที่ไปขายกระเป๋าและเสื้อผ้าจะขับรถผ่านจุดต่างๆ โดยเฉพาะหน้าโรงเรียน และจุดเกิดเหตุคนร้ายทำร้ายร่างกายน้องสโนว์ยิ่งทำให้คิดถึงลูกสาว ซึ่งทุกวันนี้ทำได้เพียงดูภาพถ่ายของน้องสโนว์ที่พี่สาวนำมาติดไว้ข้างฝาบ้าน และมีบ่อยครั้งที่ตนฝันเห็นลูกมาเยี่ยม และมาคอยถามข่าว

ทั้งนี้ครอบครัวนั้นได้ทำบุญให้น้องสโนว์เป็นประจำ โดยเฉพาะวันเกิด และวันที่น้องเสียชีวิต พร้อมทั้งคอยปลอบใจกันและกัน เพื่อที่จะเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไป ซึ่งตนก็ยังคงแต่งชุดขาวไว้ทุกข์กับลูกสาวตลอดชีวิตเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม หากน้องสโนว์ไม่ประสบกับเหตุการณ์ร้ายและเสียชีวิต ป่านนี้ก็คงศึกษาอยู่วิทยาลัยพยาบาล จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ตั้งใจหวัง โดยเฉพาะความฝันที่อยากเป็นพยาบาลช่วยเหลือผู้คน

ด้าน น.ส.ภัทรานิตย์ พลประสิทธิ์ พี่สาวน้องสโนว์ กล่าวว่า หลังจากน้องสาวจากไปตนคอยดูแล ปลอบใจพ่อแม่ เพื่อไม่ให้เกิดความเหงา ซึ่งขณะนี้ยังดีเพราะมีหลานสาว 2 คน ไว้คอยเป็นเพื่อนให้กับพ่อและแม่ ทั้งนี้มีบางคืนและบ่อยครั้งเห็นแม่ตื่นขึ้นมานั่งร้องไห้ เพราะคิดถึงน้องสโนว์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพียงได้แค่ปลอบใจกันและกันเท่านั้น พร้อมกับนำภาพของน้องที่ถ่ายและล้างเก็บไว้ ซึ่งมีตั้งแต่ภาพถ่ายตั้งแต่ตอนเด็กจนถึงก่อนเสียชีวิต เพื่อให้น้องสโนว์ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเสมอ และให้แม่กับพ่อได้ดูเวลาคิดถึงน้อง

น.ส.ภัทรานิตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับในส่วนของคดีนั้นขณะนี้ทราบว่าจำเลยนั้นยื่นอุทธรณ์ในคำตัดสิน ซึ่งก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และเชื่อว่าบาปกรรมนั้นมีจริง ใครทำอะไรไว้ก็จะได้รับผลนั้น อีกทั้งยังเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรม แต่ในส่วนของการชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งนั้น ขณะนี้ครอบครัวยังไม่ได้รับการชดใช้แต่อย่างใด และไม่ทราบว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

>> ศาลชั้นต้นสั่งประหารชีวิต อดีตผู้ใหญ่บ้านฆ่าน้องสโนว์

ขณะที่ ร.ต.อ.อิทธิศักดิ์ วชิระพิภัทร์กุล อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากศาลจังหวัดกาฬสินธุ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ให้ประหารชีวิตนายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหม 2,390,000 บาท เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ต่อมาจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 และทางสำนักงานอัยการจังหวัดได้ยื่นแก้อุทธรณ์จำเลยเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งขณะที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ภาค 4

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook