นำ4ผู้ต้องหาลอบสังหารองคมนตรีทำแผน

นำ4ผู้ต้องหาลอบสังหารองคมนตรีทำแผน

นำ4ผู้ต้องหาลอบสังหารองคมนตรีทำแผน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จงรัก รอง ผบ.ตร. นำตัว 4 ผู้ต้องหาคดีลอบสังหาร องคมนตรี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวมายืนดู พร้อมสาปแช่งผู้ก่อเหตุนับร้อยคน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 เม.ย.52 พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันชัย ถนัดกิจ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชิษณุพงษ์ ยุกตะทัต ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.สมชัย อินตาพวง ผกก.สภ.พระประแดง ได้ นำตัว นายคมิก หรือเหน่ง สุขกาญจนกาศ อายุ 33 ปี นายภาณุพาศ รัตนาไพบูลย์ หรือ กอล์ฟ อายุ 32 ปี นายศักดิ์ชาย หรือแบ๊งค์ แซ่ลิ้ม อายุ 29 ปี และ พ.ต.เทียนชัย เมืองจันทึก นายทหารสังกัดกองทัพบก ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุพยายามฆ่าองคมนตรีมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพรวมจำนวน 4 จุด

โดย จุดแรกเป็นบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 109/6 ซอยสุขสวัสดิ์ 66 หมู่ที่ 19 ต.บางพึ่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี โดยพ.ต.เทียนชัย ขับรถกระนิสสัน สีบรอนด์ทอง รุ่น ฟรอนเทียรมากับนายคนิก หรือเหน่ง เพื่อชี้เป้าเตรียมที่จะก่อเหตุ จุดที่ 2 นายเหน่งพานายกอล์ฟ มาดูทะเบียนรถและบ้านพักองคมนตรี

จาก นั้นจุดที่ 3 นายกอล์ฟ ขี่จยย. มากับนายแบ๊งค์ เพื่อจะลงมือสังหารองค์มนตรี แต่ไเจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบพระประแดง จึงขับรถกลับไป วันต่อมาซึ่งเป็นจุดที่ 4 นายกอล์ฟกับนายแบ๊งค์ ได้ซ้อน จยย.กันมาอีกแต่เจอเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ บริเวณปากซอยแยกสุขสวัสดิ์ 66 แยกที่ 8 ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายจะก่อเหตุ และได้นำรูปภาพของ นายชาญชัย และรูปรถประจำตำแหน่งขององคมนตรี มาเผาเพื่อทำลายหลักฐานที่ บริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 66

โดย การทำแผนประกอบคำรับสารภาพใช้เวลาประมาณ 30 นาที มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยป้องกันเหตุจำนวน กว่า 60 นาย ทั้งนี้ ขณะทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณด้านหน้าบ้านพักของ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ องคมนตรี ได้ยืนดูการทำแผนอยู่ภายในบ้านพักตลอดเวลา และมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ กว่า 100 คน แต่ไม่มีเหตุร้ายใดๆเกิดขึ้น หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนรีบขึ้นรถกลับไปที่โรงพัก

พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้กล่าวหลังจากทำแผนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการ และวันนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งผู้ต้องหาสามารถชี้จุดที่เกิดเหตุและจุเชื่อมโยงได้ถูกต้อง และได้ให้คำรับสารภาพทุกประการ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะใช้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไปตามขั้นตอน ส่วนทางด้าน น.อ.จักรกฤษ ที่ผู้ต้องหาซัดทอดนั้นอยูระหว่างการดำเนินการนำตัวมามอบตัวและจะมีการสอบ สวนตามขั้นตอนต่อไป

และในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบ สวนขยายผลไปเรื่อยๆ และถ้าหากมีพยานหลักฐานยืนยันไปถึงผู้ใดก้จะดำเนินการปตามกฎหมาย และวันนี้จะนำตัวผุ้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ และพนักงานสอบสวนจะค้านการให้ประกันตัวหากว่าให้ประกันตัวไปแล้วผู้ต้องหา อาจจะหลบหนี หรือจะไปทำลายหลักฐาน และที่สำคัญผู้ต้องหาถ้าประกันตัวไปอาจจะไม่ปลอดภัยของตัวผู้ต้องหาเอง เป็นไปได้สูงอาจถูกฆ่าตัดตอน เพราะฉะนั้นการอยู่ในคุกสบายกว่าและปลอดภัยกว่า

ต่อมาเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ได้มีเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสอบสวน ภ.1 ได้นำตัว น.อ.จักรกฤษ หรือเสธเป๊ก เสขะนันท์ สังกัดกองทัพเรือ ที่ผู้ต้องหาซักทอดว่าเป็นผู้ว่าจ้างลอบฆ่าองคมนตรี ได้เดินทางมาที่ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วยนายทหารพระรัฐธรรมนูญ โดยมีรถของตำรวจภูธรภาค 1 และสารวัตรทหารเรือ จำนวนหลายคันเพื่อป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดหมาย หลังจากนั้นพล.ต.อ.จงรัก รอง ผบ.ตร.ได้นำตัว น.อ.จักรกฤษ เข้าสอบเครียดภายในห้อง โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และนายทหารรัฐธรรมนูญ ร่วมฟังการสอบสวนครั้งนี้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทั้งผู้สอบและผู้ถูกสอบ โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

หลังจากนั้น พล.ต.อ.จงรัก ได้ออกมาเปิดเผยว่า เบื้องต้น น.อ.จักรกฤษ ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธ ไม่เป็นประโยชเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามการจับตัวมาในครั้งนี้ฝ่ายสืบสวนมีข้อมูลจึงได้ขออนุมัติออก หมายจับ ส่วนนายแจ๊ค ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามที่จะติดตามตัวมาให้ได้ ส่วนจะมีนักการเมืองมีส่วนร่วมด้วยหรือไม่นั้น ตำรวจต้องสอบสวนไปตามพยานหลักฐานตามที่ผู้ต้องหามีความสนิทสนมกับนักการ เมือง เราจะไปพิสูจน์ว่านักการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และในการมาช่วยราชการทุกคนก็มาช่วยได้ และท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน ส่วนผู้ต้องหาจะมาก่อเหตุวางเพลิงธนาคาร 10 แห่ง โดยไม่ระบุว่าเป็นธนาคารใดบ้างนั้น จาการการสอบสวนว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับคนผู้ก่อเหตุได้ก่อน ทำให้เหตุการณ์ร้ายจึงไม่เกิดขึ้น ส่วนที่จะมีคนที่บงการที่สูงขึ้นกว่านี้อีกไหมนั้น ต้องอยู่ที่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน เพราะนาวาเอกไม่ได้ให้การ

ต่อ มาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา ที่เป็นพลเรือน 3 คน และนายทหาร 2 คน ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ท่ามกลางความคุ้มกันอย่างแน่นหนา ต่อมาเมื่อเดินทางมาถึงศาลสมุทรปราการ พ.ต.เทียนชัย เมืองจันทึก และ น.อ.จักรกฤษ เสขะนันทร์ ได้ยื่ประกันตัว แต่หัวหน้าศาลจังหวัดสมุทรปราการ ไม่อนุญาติให้ประกันตัว และนำตัวส่ง เรือนจำสมุทรปราการต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook