"เสี่ยเปรมชัย" ยืนยันไม่ได้ฆ่าเสือดำ แค่ไปนอน ตื่นมาก็เข้าป่า

"เสี่ยเปรมชัย" ยืนยันไม่ได้ฆ่าเสือดำ แค่ไปนอน ตื่นมาก็เข้าป่า

"เสี่ยเปรมชัย" ยืนยันไม่ได้ฆ่าเสือดำ แค่ไปนอน ตื่นมาก็เข้าป่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ได้ตอบคำถามผู้ถือหุ้น ระหว่างการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ถึงข้อสังเกตเรื่องคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียน หลังจากตกเป็นผู้ต้องหาในคดีล่าเสือดำในทุ่งใหญ่นเรศวรว่า ตนยืนยันไม่ได้กระทำความผิดในกรณีดังกล่าว และขณะนี้ยังทำหน้าที่บริหารงานในตำแหน่งประธานบริหารของบริษัทต่อไป

ทั้งนี้ นายเปรมชัย ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุดังกล่าว ตนไปถึงเย็นวันเสาร์และได้ไปนอนพัก ก่อนจะตื่นเช้าและได้เดินทางเข้าไปทุ่งใหญ่ฯ จนมาถูกจับในเย็นวันเดียวกัน พร้อมโดนกักขัง 2 วัน 2 คืน ไม่สามารถติดต่อใครได้ เพราะถูกยึดโทรศัพท์ หลังจากออกมาก็เจอกับนักข่าวเป็นร้อย ส่วนภาพที่ปรากฏในสื่อ คิดว่าทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้เป็นผู้ส่ง

พร้อมกล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวที่ระบุว่า บริษัทอิตาเลียนไทยฯ ได้ถูกขึ้นบัญชีดำ หรือ แบล็คลิสต์ จากภาครัฐในการเข้าประมูลหรือรับงานโครงการใดๆ หลังจากเกิดกรณีดังกล่าวนั้น โดยตนได้โทรศัพท์สอบถามทุกกรมทุกกระทรวง ก็มีแต่คนเห็นใจรวมถึงลูกค้ารายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็ไม่พบว่ามีใครหรือหน่วยงานใดขึ้นแบล็คลิสต์

ทั้งยังขอให้ตั้งใจทำงานด้วย ส่วนงานที่อยู่ระหว่างเจรจาและรอเซ็นสัญญาก็ยังเป็นไปตามปกติ ไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด รวมถึงการเจรจากับธนาคารพาณิชย์ ข้าราชการ ก็ยังมีการติดต่อกันตามปกติเช่นกัน

ทางด้าน นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้โพสต์ข้อความต่อว่านายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในการร่วมกันล่าสัตว์ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก หลังจากมีข่าวว่า นายเปรมชัย ได้ออกมาปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่า "ผมไม่ได้ทำ ผมก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ได้โทรสอบถามทุกกรมทุกกระทรวงแล้ว มีแต่คนเห็นใจ"

โดยนายศศิน มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับคำว่า ถามคนในทุกกรม ว่าโทรไปหาใคร และถามใคร ซึ่งบุคคลที่ว่าเห็นใจอย่างไร พร้อมเรียกร้องให้ออกมาแสดงตัวตน อีกทั้งยังมองว่าการที่นายเปรมชัย ออกมาพูดเช่นนี้ น่าจะเป็นเพราะนายเปรมชัย มั่นใจในคอนเนคชั่นของเขา และยังมั่นใจในสิ่งที่ทนายความเตรียมทางสู้ในด้านเทคนิคกฎหมายในกระบวนการที่ผ่านมาเมื่อสองเดือนกว่าๆ ซึ่งหากนายเปรมชัยไม่ได้ทำจริง ก็อยากให้เจ้าตัวออกมาเปิดเผยเหตุการณ์ทั้งหมดให้สังคมได้รับรู้ เพื่อให้สัมคมเป็นผู้ตัดสินว่าจะเชื่อในสิ่งที่พูดหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook