เด็กหญิง ป.6 น้อยใจพ่อแม่ ขึ้นไปยืนขอบตึกดาดฟ้าโรงพยาบาล
ระทึกกลางโรงพยาบาล หญิงยืนอยู่บนดาดฟ้า หวั่นจะฆ่าตัวตาย นักจิตเวชเข้าเกลี่ยกล่อมได้สำเร็จ พบเป็นเพียงเด็กหญิงนักเรียนชั้น ป.6 มีปัญหากับครอบครัว และน้อยใจพ่อแม่ไม่รัก
เมื่อคืนวานนี้ (26 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลกว่า พบหญิงคนหนึ่งแอบขึ้นไปยืนอยู่บนดาดฟ้าชั้น 9 ของโรงพยาบาล สร้างความแตกตื่นแก่ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาเข้ามาดูและติดตามเหตุการณ์จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องกั้นแนวบริเวณโดยรอบอาคารเพื่อความปลอดภัยของทุกคน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้ประสานขอกำลังเบาะลมพร้อมรถยกช่วยเหลือสนับสนุนในจุดเกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงคนดังกล่าวให้ได้รับความปลอดภัย จากเทศบาลนครพิษณุโลกและ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 พิษณุโลก
ขณะเดียวกัน ทางโรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลกได้ส่งแพทย์พยาบาลนักจิตเวช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปหาผู้หญิงคนดังกล่าว ที่ยืนอยู่บริเวณริมระเบียงดาดฟ้าด้านใน แต่ก็สร้างความหวาดเสียวทุกครั้งที่เห็นผู้หญิงคนดังกล่าวยังไม่กลับลงมาจากขอบอาคาร
ขณะเดียวกันไทยมุงก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ หลายคนพยายามส่องไฟฉายขึ้นไปเพื่อหวังที่จะได้มองเห็นว่าหญิงคนที่ขึ้นไปยืนบนดาดฟ้าคนนี้เป็นใครมาจากไหน กระทั่งอีกราวๆ 1 ชั่วโมงต่อมา ผู้ที่ขึ้นไปเกลี่ยกล่อมได้ส่งสัญญาณและใช้วิทยุสื่อสารแสดงให้คนข้างล่างได้ทราบว่าสามารถช่วยเหลือเอาไว้ได้ด้วยความปลอดภัยแล้ว
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเพียงเด็กหญิงนักเรียน อายุ 13 ปีเท่านั้น สาเหตุที่ขึ้นมาบนดาดฟ้าชั้น 9 ของโรงพยาบาลนี้ เพราะมีปัญหาทะเลาะกับพ่อแม่ ล่าสุดพ่อแม่ให้กลับบ้าน แต่กลัวไม่กล้ากลับ เพราะกลัวว่า พ่อแม่จะตีและน้อยใจคิดว่าพ่อแม่ไม่รัก จึงได้พูดคุยและปลอบเด็กคนนี้ เมื่อได้สติจึงยินยอมกลับบ้าน
เจ้าหน้าที่จึงได้นำพาเด็กลงไปอีกทางหนึ่งกลับไปส่งที่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเด็กคนนี้มีบ้านอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เกิดเหตุ โดยเด็กคนนี้ไม่ได้เป็นผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่าขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าได้อย่างไร
ล่าสุด พลตำรวจตรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ที่มาร่วมติดตามเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ได้ทำการพูดคุยกับทางโรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก หลังจากควบคุมสถานการณ์ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้กำชับให้ทางโรงพยาบาลหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นมาอีกโดยเด็ดขาด