วอร์รูมมหาดไทยสรุปยอดเสื้อแดงแค่หมื่น
นศ.วปอ.จวกแกนนำคนเสื้อแดงดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง ขอให้คนไทยสามัคคี เรียกร้องพลังเงียบออกมาแสดงจุดยืน ปชป.ออกแถลงการณ์ เรียกร้อง 6 ข้อ ระบุให้ จนท.อดทน อดกลั้น ใช้กม.จัดการผู้ทำผิด ให้แกนนำเสื้อแดงยุติปลุกมวลชนละเมิดกฎหมาย ปิดกั้นจราจร วอนสื่อเสนอข่าวรอบคอบ
(9เม.ย.) ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงมหาดไทย (ศปก.มท.) ได้รายงานยอดผู้ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงโดยสรุปถึงเวลา 14.00 น.ของวันที่ 9 เม.ย. พบว่ายอดผู้ชุมนุมที่หน้าบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ลานพระบรมรูปทรงม้า และหน้าทำเนียบรัฐบาล มีจำนวน 11,500 คน
นอกจากนี้การดาวกระจายไปที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ มียอดผู้ชุมนุม 1,200 คน หน้ากระทรวงต่างประเทศ ยอดประมาณ 700 คน หน้าศาลรัฐธรรมนูญ ยอดประมาณ 700 คน และหน้ากองบัญชาการกองทัพบกประมาณ 800 คน ส่วน ที่จ.เชียงใหม่ มีกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยอดผู้ชุมนุมที่หน้าโรงแรมวโรรส แกรนด์ พาเลซ อ.เมือง จ.เชียงใหม่จำนวน 50 คน
วปอ.จวกเสื้อแดงดึงสถาบันมาเกี่ยวข้อง
เมื่อเวลา 14.00น. ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันประเทศทั้งในอดีตและปัจจุบัน นำโดย นายขจัดภัย บุรุษพัฒน์ อดีตเลขาการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นักศึกษา วปอ.รุ่น 30 ได้แถลงการณ์ร่วมต่อการแสดงความห่วงใยในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงว่า ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และประชาชนทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสถาบันหลักของชาติ
ทั้งนี้นักศึกษาวปอ.เห็นว่า ไม่บังควรเอาสถาบันมากล่าวอ้างเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนหรือกลุ่มบุคคล ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
"อยากขอให้ประชาชนสามัคคีทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมาย และต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับที่สังคมกำหนดไว้ รวมทั้งยังเห็นว่าสังคมไทยอยู่ร่วมกันได้บนความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ต้องไม่แตกแยกจนนำไปสู่การใช้ความรุนแรง ต้องมีความสมัครสมานและสามารถเปลี่ยนความคิดด้วยความเป็นไทย เพื่อหาข้อยุติที่ยอมรับกันได้ จึงขอเรียกร้องประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีความห่วงใยต่อบ้านเมืองรวมกันแสดงเจตนาเพื่อให้เกิดความสงบสุขในประเทศโดยเร็ว รวมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนที่ยังเก็บตัวเงียบให้ลุกขึ้นมาแสดงเจตนาอย่างใดอย่างหนึ่งว่าไม่ต้องการความขัดแย้งในขณะนี้ " นายขจัดภัย กล่าว
ปชป.ออกแถลงการณ์ร้องเสื้อแดงอย่าปิดกั้นจราจร
พรรคประชาธิปัตย์ออกแถลงการณ์ ดังนี้
ตามที่มีกลุ่มบุคคลดำเนินการเคลื่อนไหวชุมนุมกดดันให้ประธานองคมนตรี องคมนตรี นายกรัฐมนตรี รวมถึงบุคคลอื่นๆลาออกจากตำแหน่ง โดยนำมวลชนผู้เข้าร่วมชุมนุมออกปฏิบัติการปิดถนนเส้นทางจราจร และปิดล้อมสถานที่สำคัญเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังประกาศข่มขู่ว่าจะเพิ่มระดับความรุนแรงในการเคลื่อนไหวมากขึ้นเรื่อยๆ สร้างความหวาดวิตกกังวล และความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมากในขณะนี้นั้น
พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รู้สึกห่วงใยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะการชุมนุมได้เกินเลยขอบเขตของกฎหมายและเกิดความเสียหาย กระทบต่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป จึงขอเรียกร้องต่อกลุ่มฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องดังนี้
1)ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ ใช้ความอดทน อดกลั้นในการคลี่คลายสถานการณ์ โดยให้เร่งรัดการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม และดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างทันท่วงที โดยตระหนักถึงความสงบสุขของสังคมส่วนใหญ่เป็นสำคัญ ทั้งนี้ต้องไม่เป็นฝ่ายใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา
2)ขอให้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมยุติการนำพามวลชนออกปฏิบัติการละเมิดต่อกฎหมาย หรือขัดต่อหลักการประชาธิปไตย โดยเฉพาะการใช้สิทธินอกรัฐธรรมนูญที่กำลังล่วงเกินไปกระทบต่อสิทธิของบุคคลอื่นอย่างร้ายแรงในขณะนี้
3)ขอให้ผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการชุมนุมเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นแกนนำที่เปิดเผยตัว หรืออยู่เบื้องหลัง ตระหนักในกติกาประชาธิปไตย ที่จะช่วยกันควบคุมไม่ให้การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำผิดกฎหมาย อันจะฉุดรั้งให้สถานการณ์บ้านเมืองเลวร้ายลง กระทบต่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
4)ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการปิดกั้นการจราจรในเส้นทางที่ประชาชนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณที่มีโรงพยาบาลตั้งอยู่ เนื่องจากเกิดความเดือดร้อนและกระทบต่อชีวิตของผู้ป่วยและผู้เกี่ยวข้องมากขึ้นทุกที
5)ขอเรียกร้องไปยังสื่อสารมวลชนทุกแขนงให้ตระหนักในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ประเทศกำลังอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง และล่อแหลม อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกติกาประชาธิปไตย ดังนั้นการนำเสนอข่าวสารใดๆจึงต้องรอบคอบ ระมัดระวังไม่ให้เกิดความโน้มเอียง หรือตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีต่อระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การนำเสนอข่าวสารที่มุ่งเน้นให้เกิดความสงบสุข และความเข้าใจอันดีในสังคมเป็นสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องในแวดวงสื่อสารมวลชนพึงให้ความสำคัญสูงสุด
6)ขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ร่วมกันติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และร่วมกันระงับยับยั้งไม่ให้ผู้ใดก่อความรุนแรงใดๆขึ้นในประเทศของเรา
ทั้งนี้ผู้บริหารของพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีหน้าที่รับผิดชอบด้านต่างๆ รวมถึงสมาชิกพรรคทั่วประเทศ พร้อมจะยืนอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ เพื่อธำรงความถูกต้อง ตามหลักนิติธรรม และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พรรคประชาธิปัตย์
9 เมษายน 2552