ตั้ง 2 ข้อหา "รถแห่" ทับเด็ก 5 ขวบตายคางานบุญ ญาติเข้าใจเป็นอุบัติเหตุ

ตั้ง 2 ข้อหา "รถแห่" ทับเด็ก 5 ขวบตายคางานบุญ ญาติเข้าใจเป็นอุบัติเหตุ

ตั้ง 2 ข้อหา "รถแห่" ทับเด็ก 5 ขวบตายคางานบุญ ญาติเข้าใจเป็นอุบัติเหตุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจตั้ง 2 ข้อหา "รถแห่งานบุญ" ทับเด็ก 5 ขวบตายขณะโปรยทาน ญาติไม่เรียกร้องเงินเยียวยาเข้าใจเป็นอุบัติเหตุ

(30 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุ รถไถลากพ่วงเครื่องเสียงแห่งานบุญประเพณีประจำปี ของชาวบ้านคับพวง ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ทับเด็กเสียชีวิต คือ เด็กชายกมลดนัย อายุ 5 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 4 บ้านคับพวง ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2561 ภายในวัดโพธิ์ชัยบ้านคับพวง ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ขณะชาวบ้าน ร่วมกันจัดขบวนแห่งานบุญประจำปีเข้าวัด แต่เกิดเหตุสลดขึ้น ขณะเด็กผู้ตายได้วิ่งชุลมุนเก็บเงินโปรยทาน ทำให้พลาดล้มใส่ล้อรถพ่วงลากบรรทุกเครื่องเสียง เป็นเหตุให้รถทับศีรษะเสียชีวิต ท่ามกลางความเศร้าสลดของ พ่อแม่ และญาติพี่น้อง รวมถึงชาวบ้านที่อยู่ในงาน

>> จากงานบุญเป็นงานศพ พ่อแม่แทบขาดใจ รถไถแห่เครื่องเสียงทับเด็ก 5 ขวบดับ

ล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ จุลกะ ผกก.สภ.ธาตุพนม เปิดเผยเกี่ยวกับความคืบหน้าในการดำเนินคดี ว่า คดีนี้ถือเป็นคดีสะเทือนใจ ที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดแต่เป็นอุบัติเหตุ ในเรื่องขั้นตอนของกฎหมายหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้เรียกตัว คนขับรถไถรวมถึงผู้พบเห็น มาสอบสวน ทราบชื่อคนขับคือ นายอนันท์ อายุ 24 ปี ชาวบ้าน คับพวง ต.น่ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยได้สอบสวนข้อเท็จจริง ทราบว่าเป็นอุบัติเหตุ เจ้าตัวไม่ได้มีเจตนา ซึ่งในการดำเนินคดี ทางตำรวจได้แจ้งความผิด 2 ข้อหา คือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และ ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และมีการปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากผู้ต้องหาได้เข้ามารายงานตัวต่อตำรวจหลังเกิดเหตุ รอการรวบรวมหลักฐานทำสำนวนส่งฟ้องต่อไป

ส่วนเรื่องการชดใช้ได้มีการเจรจาตกลงระหว่างสองฝ่าย ได้ข้อสรุปว่า ทางผู้เสียหายคือ ญาติผู้ตายไม่ได้เรียกร้อง เกี่ยวกับค่าชดเชยเยียวยา เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่าย เป็นญาติพี่น้องและเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน จึงไม่ได้มีการเรียกร้องในเรื่องของค่าชดเชยเยียวยา และให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยทางเจ้าหน้าที่แจ้งเตือนเป็นอุทาหรณ์ ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล เข้มงวดเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยในงานบุญประเพณี ไม่ให้เกิดการสูญเสียขึ้นซ้ำอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook