ครูสาวโวย สามีแค่เสพไม่ได้ค้ายา กลับถูกวิสามัญดับ คาใจ ยาโผล่ในรถ 107 เม็ด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 พ.ค.) ที่บริเวณจุดยูเทิร์น ถนนสายนพวงศ์ ฝั่งขาเข้าเมือง บ้านวังรัก ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายสมปราชญ์ น้องชายนายประภวิษณ์ อายุ 44 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ เมื่อคืนวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 2 รูป จากวัดพรหมโลก อ.พรหมคีรี มาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณนายประภวิษณ์ ซึ่งใช้เวลา 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ

นายสมปราชญ์ กล่าวว่า ทางญาติได้บำเพ็ญกุศลศพที่วัดพรหมโลก และจะทำพิธีฌาปนกิจศพในวันจันทร์ที่ 7 พ.ค.นี้ ขอเรียนเชิญญาติมิตรร่วมบำเพ็ญกุศลศพโดยพร้อมเพียงกัน ตนขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพี่ชาย ตนไม่เชื่อว่าพี่ชายค้ายา เพราะดูจากสภาพครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยอะไร พี่ชายเคยเป็นอาจารย์สอนดูไพ่ยิปซี มีลูกศิษย์มากมาย และทุกคนก็ยืนยันว่าไม่เชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นางสาวฐานิศ ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวยืนยันว่า สามีไม่ได้ค้ายา แล้วยาที่พบ 107 เม็ดในรถ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเบรกมือค้นรอบแรกไม่เจอ แล้วมาเจอรอบสอง มันน่าสงสัย อีกประเด็นก็คือ ปืนกระบอกนั้นเป็นปืนมรดกตกทอดของพ่อ ไม่มีกระสุนแต่อย่างใด แล้วจะยิงต่อสู้กับตำรวจได้อย่างไร ทุกอย่างน่าสงสัยไปหมด

ยอมรับว่าสามีเสพยาแต่ไม่ได้ขายยา อยากเรียกร้องให้ตำรวจให้ความเป็นธรรม และให้โอกาสคนที่ทำผิดในสังคมและต้องการแก้ตัว ตนเป็นครู ตนให้โอกาสเด็ก แต่ตำรวจไม่ได้ให้โอกาสแถมบอกมีชื่อในบัญชีดำอีก มันเกิดอะไรขึ้น

ตนเป็นคนพาสามีไปหาหมอ และหมอบอกเป็นโรคซึมเศร้า เจตนาในวันนั้นตนแจ้ง ตร.เพื่อบอกให้ไปเอาตัวมาเพื่อนำตัวไปบำบัดเนื่องจากติดยา ซึ่งทางโรงพักก็ทราบแต่เบื้องต้นแล้ว เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่บ้านของตนมีขโมยขึ้นบ้านและโน๊ตบุ๊คได้หายไป ต้องการให้ ตร.ตรวจสอบ ตนต้องการให้ ตร.นำตัวไปบำบัด แต่ ตร.ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ จนต้องทำให้สามีต้องเสียชีวิต

ทางด้าน พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรม ส่วนการนำเสนอข่าวก็ไม่ควรชี้นำ อยากให้สื่อนำเสนอตามความเป็นจริง