เปิดภาพสุดท้ายเด็กชายวิ่งเข้าห้องน้ำปั๊ม ก่อนเป็นศพผูกคอตาย
จากกรณี น้องเอ็ม (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ใช้เชือกผูกคอตายภายในห้องน้ำปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ริมถนนสายนครสวรรค์-พิษณุโลก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยที่แม่ของเด็กไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากลูกชายป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เพราะการสูญเสียบิดาที่เสียชีวิตจากเหตุเดียวกัน แต่ปรากฏว่าในส่วนของปู่-ย่า เกิดความสงสัยและไม่เชื่อว่าหลานชายจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย
ล่าสุดในวันนี้ (3 พ.ค.) ได้เดินทางไปที่งานฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการตรวจสอบหาหลักฐานต่างๆ มาประกอบคดีนี้พบว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้มีการนำภาพกล้องวงจรปิดภายในปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ ซึ่งมีกล้อง 2 จุดสามารถจับภาพได้ว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตอนเช้า น้องเอ็มได้วิ่งออกจากห้องพัก ตรงดิ่งเข้าไปที่ห้องน้ำปั๊มเพียงลำพัง แล้วไม่พบเห็นว่าออกมาอีกเลย
ประกอบกับการตรวจสอบการใช้โทรศัพท์มือถือของเด็กชาย พบว่าภายในเครื่องมีแต่การเก็บบันทึกข่าวการเสียชีวิตของบิดา ทั้งรูปถ่ายและคลิปข่าวทางทีวีเกือบทุกสำนัก อีกทั้งยังมีการใช้เฟซบุ๊กไลฟ์ระบายถึงการสูญเสียบิดาอยู่หลายครั้งด้วย
ทำให้มีน้ำหนักเชื่อว่า น้องเอ็ม น่าจะมีความเสียใจเป็นอย่างมากจากการสูญเสียบิดาไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้งว่าก่อนและหลังจากที่เด็กชายเดินเข้าห้องน้ำ มีใครอยู่ในห้องน้ำก่อนและมีใครเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากนั้นหรือไม่ จึงจะสามารถส่งผลการสืบสวนให้พนักงานสอบสวนไปดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.บุญเชิด จันทร์มณี รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า จากการสอบพยานและติดตามหาหลักฐานต่างๆ ทราบว่า น้องเอ็มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปหลังกลับจากร่วมงานศพบิดา โดยมีอาการซึมเศร้าและมักจะเก็บตัวเล่นโทรศัทพ์มือถืออยู่คนเดียว ไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อน
อีกทั้งยังมีพฤติกรรมอารมณ์เสียง่าย ชอบตีทำร้ายน้องสาววัยแบเบาะบ่อยขึ้น ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นคนรักน้องสาวคนนี้มาก จะคอยเล่นและดูแลไม่เคยห่าง ซึ่งก็สอดคล้องกับกล้องวงจรปิดที่ได้รับรายงานมาในเบื้องต้นว่า เด็กชายวิ่งออกจากห้องเช่ามาที่ห้องน้ำปั๊มน้ำมันเพียงคนเดียว ส่วนเรื่องรอยช้ำที่บริเวณฝ่ามือและแขนของเด็ก ทราบว่า เป็นรอยเก่าจากการถูกมารดาตีตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน
สำหรับ การที่ปู่-ย่าของเด็กไม่เชื่อว่าจะเป็นการฆ่าตัวตายนั้น ก็เป็นเรื่องที่จะตั้งข้อสงสัยได้ แต่ผลการตรวจของแพทย์เวรโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ที่ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุเบื้องต้น ก็ระบุว่า เกิดจากการฆ่าตัวตาย โดยตายผิดธรรมชาติ
แต่เพื่อความกระจ่าง ทางตำรวจจะยึดเอาหลักฐานและพยานที่ได้จากการสืบสวนสอบสวน และขณะนี้ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ศพจากทางโรงพยาบาล ทั้งผลดีเอ็นเอและหาร่องรอยตามร่างกาย ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 วัน ไปจนถึง 1 เดือนในการตรวจสอบก่อนจะนำมารวบรวมกับหลักฐานที่ได้จากการสืบสวนสอบสวน ในการระบุถึงสาเหตุของการเสียชีวิต ซึ่งไม่น่าจะมีเงื่อนงำใดๆ อีก