เปิดใจทั้งน้ำตา แม่เด็ก 4 คนพลัดตกตึก เจ็บปวดอดีตสามีเปิดศึกแย่งศพลูก

เปิดใจทั้งน้ำตา แม่เด็ก 4 คนพลัดตกตึก เจ็บปวดอดีตสามีเปิดศึกแย่งศพลูก

เปิดใจทั้งน้ำตา แม่เด็ก 4 คนพลัดตกตึก เจ็บปวดอดีตสามีเปิดศึกแย่งศพลูก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากเหตุการณ์น่าเศร้าสลด 4 พี่น้องลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ พลัดตกจากห้องพักชั้น 4 ของหอพักแห่งหนึ่ง ย่านรามคำแหง เป็นเหตุทำให้น้องคนสุดท้องต้องเสียชีวิต ส่วนพี่ๆ อีก 3 คนได้บาดเจ็บสาหัส ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา

>>> สลดกลางดึก! เด็ก 4 คนพี่น้องพลัดตกหอพัก เสียชีวิต 1 คน เจ็บ 3 คน

โดยล่าสุด "คุณรัตติกาล" แม่ของเด็กๆ ทั้ง 4 คน ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ โหนกระแส วันนี้ (3 พ.ค.) ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.20 น. ทางช่อง 28 หลังมีกระแสจากฝ่ายพ่อของเด็กออกมาแฉพฤติกรรมของผู้เป็นอดีตภรรยา

คุณแม่อายุเท่าไหร่?
แม่ : “36 ค่ะ”

อยู่กับพ่อน้องกี่ปี?
แม่ : “10 ปี แยกกันอยู่ 4 ปีกว่าแล้ว มีลูกทั้งหมด 4 คน ผู้หญิงสองคน ผู้ชายสองคน”

ทำไมไปอยู่ที่นั่น?
แม่ : “ตอนที่เลิกกับพ่อเขา เมื่อก่อนเรามีบ้านเช่าหนึ่งหลัง บ้านหลังนั้นเงินมัดจำส่วนหนึ่งเป็นของลูก ฉะนั้นลูกต้องมีสิทธิ์อยู่บ้านหลังนั้น”

คืออยู่ด้วยกัน แต่วันหนึ่งพอแยกทาง?
แม่ : “เขาไม่ยอมออกจากบ้าน เขาให้เราออกไป เขาให้เลือกว่าจะเอาลูกหรือจะเอาบ้าน”

ให้แม่เลือก?
แม่ : “ค่ะ ก็เลือกเอาลูก แต่วันนั้นเราไม่มีเงินติดตัวเลย ก็ฝากลูกกับเขาไว้ก่อนหนึ่งปี”

แม่กับพ่อจดทะเบียนสมรส?
แม่ : “ไม่ได้จดค่ะ อยู่กินฉันท์สามีภรรยาเฉยๆ ค่ะ”

หลังจากนั้นได้งานทำ?
แม่ : “เป็นพนักงานรีเซฟชั่น ส่วนมากก็ทำแถวสุขุมวิท แต่ปัจจุบันทำที่ถนนวิทยุ ตอนแรกที่ไปทำ เงินเดือนวันละ 400 บาทค่ะ เลี้ยงลูก 4 คน”

เขาไม่ได้ให้เงิน?
แม่ : “ด้วยความที่เราฝากลูกไว้กับเขา เขาก็บอกว่าทุกวันเสาร์อาทิตย์เขาจะมาเอาลูกไป จันทร์-ศุกร์มาส่งเรา เพราะเราต้องพาลูกไปเรียน”

ชีวิตพอไปได้ในช่วงแรกๆ แต่ประเด็นที่เกิดขึ้น วันเกิดเหตุแม่ไปไหน?
แม่ : “ปกติแม่เข้างานสี่ทุ่ม ออกเจ็ดโมงเช้า ที่เลิกทำงานกะกลางคืนเพราะตอนเช้าจะได้อยู่กับลูกทั้งวัน แล้วน้องเข้านอนตอนทุ่มนึงก็เข้านอนถ้าทำการบ้านก็สองทุ่มเข้านอน เขาก็จะนอน น้องคนเล็กชอบตื่นกลางคืน ตอนอยู่กับพ่อ พ่อให้น้องกินข้าววันละหนึ่งมื้อ”

ให้เด็กทั้งสี่คนเหรอ?
แม่ : “ใช่ เห็นลูกบอกนะ หิวก็บอกไม่ได้ ในบ้านไม่เคยมีน้ำ เราก็ทำงานสองกะ แต่กลางวันอยู่กับลูกตลอด ไม่ไปไหน นอกจากบางวันทำงานสองกะ วันนั้น ไปทำงานสองกะ บ่ายโมงถึงเจ็ดโมงเช้า แต่โทรคุยทุกหนึ่งชั่วโมง ถ้าไม่มีงาน ไม่ติดอะไรก็โทร.หา”

วันที่ไปฝากคุณยายยังไง?
แม่ : “ก็ฝากคุณยายให้ซื้อข้าวให้เด็ก ให้ช่วยเช็กบ้างว่าเขาเป็นยังไง แม่ทราบเพราะน้องสาวโทรมาบอกค่ะ ว่าเด็กๆ ตกตึก ให้รีบกลับมาบ้านด่วน”

ได้ถามคุณยายไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?
แม่ : “คุณยายเขาให้เด็กๆ นอนแล้วกล่อม หลังทุกคนหลับ แต่คาดว่าทุกคนคงตื่นมารับประทานข้าว ก็น่าจะประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง หลังจากนั้นก็สับสนแล้ว เพราะคุณยายไม่แน่ใจว่ามีคนมาบอกหรือมีมูลนิธิบอกว่าเด็กตกตึก ก็เลยให้น้องสาวโทรมาบอก”

คุณแม่ได้มีการพูดคุยกับคนโตไหม?
แม่ : “ครั้งแรกที่เจอคนโต เขาบอกว่าเขาออกมาล้างจาน เพราะกลัวเราเหนื่อย (เสียงสั่น) เราก็บอกแล้วว่าต่อไปกินอะไรกลางคืนไม่ต้องลุกขึ้นมาล้าง ให้วางไว้เลย หม่าม๊าจะกลับมาล้างเอง”

หลังคุณยายออกจากห้องไปแล้ว มีหนึ่งในนั้นลุกขึ้นมาทานอาหาร?
แม่ : “ใช่ค่ะ คนเล็กตื่นมาหาของทาน เขาเลยล้างจานกัน เหมือนมีใครสักคนตกลงไป แล้วที่เหลือมาช่วย แล้วนอกชานต่อจากระเบียงรับน้ำหนักไม่ไหว นอกชานเป็นเหมือนลักษณะแผ่นไม้กระดานที่ต่อออกไป แม่อยู่ชั้น 4 ค่ะ เขาทำเอาไว้วางของค่ะ”

มีอยู่แล้ว ไม่ได้ตกแต่งเพิ่ม?
แม่ : “ใช่ค่ะ”

คนโตล้างจานเสร็จเอามาวางแล้วคนเล็กยังไง?
แม่ : “ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนร่วงก่อนคนแรก แล้วที่เหลือช่วยกันดึงขึ้นมา แล้วน่าจะรับน้ำหนักไม่ไหวก็เลยร่วงลงมา”

อาการน้องอีก 3 คน เป็นยังไง?
แม่ : “ดีดี้ลูกคนโตวันนี้อาการดีขึ้น ต้องขอบคุณท่านรองที่ส่งตร.ไปคอยดู ทำให้น้องอุ่นใจ กินข้าวได้ ผ่าตัดแล้ว ตกแต่งกระดูก ส่วนคนที่สองลูก้า อยู่รพ.กลาง น้องอาการดีขึ้น แต่ต้องให้เลือดวันนี้ หมอเลยให้อยู่ไอซียูอีกสักวันสองวันเพื่อดูอาการ เผื่อจะทรานเฟอร์ไปอยู่รพ.เดียวกับพี่สาวได้ คนที่สาม วันนี้ห้ามเยี่ยมแล้ว มีอาการติดเชื้อ ปอดมีปัญหา(เสียงสั่นเครือ)”

เห็นว่าน้องดานี่ (คนที่สาม) หยุดหายใจไปสองครั้งแล้วคุณหมอกู้ขึ้นมา?
แม่ : “ใช่ค่ะ ตอนนี้ยังโคม่าเลยค่ะ”

คนเล็กอายุ 5 ขวบเสียชีวิต?
แม่ : “เพราะศีรษะกระแทกพื้นค่ะ”

มีประเด็นดราม่าตามมาอีกมากมาย ประเด็นแรก มีหลายคนมองว่าทำไมคุณแม่ถึงทิ้งเด็กไว้ คุณแม่ก็ตอบแล้วว่าทำงานสองกะ หาเงินมาเลี้ยงเขา เลยฝากยายไว้
แม่ : “ค่ะ ไม่เคยทอดทิ้ง โทรเช็กตลอด เขาทำอะไรอยู่ นอนหรือยัง เช็กตลอด”

กับอีกประเด็นคุณพ่อของเด็ก อดีตสามีคุณแม่ วันนี้เขามีการออกมาพูดว่าแม่ชอบตีลูก?
แม่ : “ไม่ได้ชอบตีค่ะ ถ้าเด็กทำผิดก็ต้องตี แต่ก็ต้องคุยกัน ถ้าผิดก็คุยกัน ครั้งที่สองขึ้นเสียง ครั้งที่สามผิดใช่ไหม ให้ตีตรงไหน เขาก็บอกให้ตีมือ ตีแขน ตีก้น แต่ไม่เหมือนพ่อเขาที่ตีไม่มีเหตุผล”

คุณพ่อเป็นฝ่ายตีลูกไม่มีเหตุผล?
แม่ : “ใช่ ไม่มีเหตุผล”

แต่พ่อบอกในเพจหนึ่งว่าเขาไม่เคยตีลูกเลยและรักลูกมาก ยอมรับว่าทะเลาะกับแม่ แต่ไม่เคยตีลูก และส่งเงินให้แม่ด้วย?
แม่ : “ไม่เคยส่งเงินให้สักบาท”

แต่เขาบอกว่าเอาเงินก้อนหนึ่งไปให้คุณยาย แต่คุณยายไม่เอา แต่แม่เองเป็นฝ่ายไปขอทางพ่อ?
แม่ : “เขาไม่เคยนำเงินไปยื่น ไปติดต่อใดๆ ทั้งสิ้น ไม่จริงเลยค่ะ เขาพูดขึ้นมาเองค่ะ”

พ่อจะมาเอาลูกไปอยู่ด้วย?
แม่ : “ใช่ แต่ลูกๆ กลัวเขา เพราะเขาตีลูก ทำร้ายลูก จากการที่ฟัง ให้ทานข้าววันละมื้อ เวลาลูกร้องก็ตี อเล็กซ์ไม่ถึงสองขวบ น้องร้องหิวข้าวก็จับฟาดกับที่นอน”

จับเด็กไม่ถึงสองขวบ ฟาดกับเตียงเนี่ยนะ?
แม่ : “ใช่ค่ะ ฟาดให้เงียบแล้วให้เด็กกินข้าวมื้อเดียว พอถึงเวลาเด็กก็หิว เพราะเขาชินอยู่กับเรา เราให้กินข้าว 3 มื้อเป็นเวลา ลูกๆ ก็ไปยืนตามบ้านข้างๆ บ้าน เขาก็เรียกให้ไปกินข้าวในบ้าน พวกเพื่อนบ้านเขาสงสาร เสื้อผ้าเด็กไม่มีใส่”

แล้วเรื่องสิทธิ์การเลี้ยงลูก?
แม่ : “พ่อกับแม่ไม่เคยจดทะเบียนรับรองบุตร และเขาไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร เพราะฉะนั้นสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเป็นของแม่คนเดียว”

ตอนไปขึ้นศาล เห็นว่าแม่ไม่ยอมไป?
แม่ : “สมมุติว่าพรุ่งนี้ไปขึ้นศาล เขามายื่นหนังสือให้วันนี้ ซึ่งแม่ทำงานกินเงินเดือนก็ต้องขอหยุด เราไม่ได้ทำธุรกิจส่วนตัว จะได้เดินออกไปได้ง่ายๆ”

แม่เพิ่งได้รับหมายให้ไปศาล หมายต้องส่งก่อนหรือเปล่า?
แม่ : “เป็นทนายของพ่อเอามาให้ที่โรงเรียน ฝากไว้กับครู เรารับเย็นแล้ว พรุ่งนี้ก็ต้องไปขึ้นศาล ก็เลยส่งคืนคุณครูไป แม่ก็ทำอะไรไม่ได้”

ตอนนี้น้องๆ ทั้งสามคน ต้องแยก รพ.อยู่ตามสิทธิ?
แม่ : “คนที่สองคนที่สาม เขามีอาการวิกฤต อยู่ไอซียู ค่าใช้จ่ายในห้องไอซียูตอนนี้ยังไม่มี เพราะใช้สิทธิ์ฉุกเฉินวิกฤต ซึ่งทางผอ.รามกับทางสคบ.จะประสานให้ คนโตอยู่รพ.แพทย์ปัญญาก็ใช้สิทธิ์ 30 บาท แต่มีค่าตัวยาบางตัวที่สิทธิ์ 30 บาทไม่รองรับ และในอนาคตเพราะเด็กๆ กระดูกหัก แล้วคนที่สามไม่รู้เมื่อไหร่เขาจะฟื้น ก็มีค่าใช้จ่ายในอนาคต แม่ต้องหยุดงานดูแลลูกซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ลูกจะกลับมาเป็นปกติ”

ตอนนี้ไม่มีเงินประคับประคองค่าใช้จ่าย?
แม่ : “ในอนาคตใช่ค่ะ”

ล่าสุดแม่มีปัญหาเรื่องศพน้องคนเล็ก คุณพ่อจะเข้าไปรับศพน้องเอง แต่แม่ไม่ยอม?
แม่ : “ไม่ยอมเพราะเราติดต่อวัดไปแล้ว มีผู้คนที่เขารักน้องมากๆ เราจองไปแล้วว่าเจ้าภาพกี่คืน แล้วเขาไม่ได้รู้จักน้องอเล็กซ์ น้องก็กลัวเขา คนหนึ่งที่ไม่รู้จัก จะสามารถส่งเขาได้ดีมั้ย จะรู้มั้ยเขาชอบใส่เสื้ออะไร สีอะไร(ร้องไห้) เขาจะชอบใส่รองเท้ายังไง แบบไหน เขาจะส่งลูกได้ยังไงเพราะเขาไม่เคยรู้ว่าลูกชอบอะไร (ร้องไห้) ตอนอยู่เขาก็กลัวพ่อ แล้วตอนนี้จะโอเคมั้ย แค่ได้ยินชื่อพ่อเขาก็กรี๊ดลั่นแล้ว”

ตอนแรกคุณแม่ต้องไปเอาใบนำตัวน้องออกมา?
แม่ : “ใบสำเนามรณะเพื่อวางไว้ที่บัตรเพื่อจัดงานศพได้ แต่ปรากฏว่าคุณพ่อไปถึงก่อนเราและบอกว่าเขาเป็นพ่อ และมีสิทธิ์ เมื่อมีข้อพิพาททางสิทธิ์ เขาก็เลยบอกว่าให้เรากลับไปคุยกับทางร้อยเวรให้เรียบร้อย ตอนนี้ผู้ว่าทำให้เรียบร้อยแล้ว แค่เรานำเอกสารไป นำใบนั้นออกมาได้เลย”

ณ วันนี้จะทำยังไงต่อไป?
แม่ : “มึนไปหมดเลยค่ะ อยากให้คนที่สามเขาฟื้นขึ้นมา (ร้องไห้) ให้ฟื้น ให้ขยับตัว ให้พูดได้เหมือนเดิม ก็แค่นี้ อยากให้หาย ตอนนี้ห่วงคนที่สามอย่างเดียว หมอเรียกคุยสองรอบแล้ว หมอว่าอาการน้องไม่ดีเลย(ร้องไห้) ให้เตรียมใจเอาไว้ เราก็อบกว่าถ้าน้องยังสู้ เราก็ยื้อน้องให้นานที่สุด คุณหมอปั๊มหัวใจน้องกลับมาได้ แสดงว่าน้องยังสู้ เขายังสู้ได้ แพทย์ที่รพ.รามดีมาก ใช้แพทย์ 8-10 คนรักษาน้อง”

ต้องการที่สุดคือให้น้องคนที่สามกลับมาเป็นปกติ?
แม่ : “อยากให้คนที่สามฟื้นขึ้นมา ทำยังไงก็ได้ ให้มีสัญญาณชีวิต”

อีกเรื่องเห็นบอกว่าแม่ไม่สบายใจ มีสื่อบางสื่อบุกไปถึงตัวน้องและคุณพ่อ แล้วไปถ่ายคลิป?
แม่ : “คือเมื่อคืนนี้ เพจนี้เขาเล่นข่าวฝั่งพ่ออย่างเดียวเลย เราเข้าใจว่าคนทำงานมีสองฝั่ง แต่นี่เล่นฝั่งพ่อถูกพ่อดี เหมือนเขาใช้สื่อไปถึงตัวน้องคนโต ที่รพ.แพทย์ปัญญา แล้วพ่อเข้าไปนั่งเข้าไปจับมือน้องเลย แล้วน้องดึงมือหนี”

เห็นจากไหน?
แม่ : “เห็นจากเพจนั้นที่ถ่าย แต่คุณก็ยังเล่นประเด็นว่าเขาถูก อันนี้แม่โมโหมาก ทำไมไม่ช่วยน้องก่อน ไม่เห็นเหรอว่าน้องขยับมือหนี คนสัมภาษณ์ก็เดินไปสัมภาษณ์คุณยาย ซึ่งกำลังคุยกับอีกคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนคุณพ่อน้อง ทำให้เขาไม่สามารถมาช่วยน้องได้ ถูกกันไว้ น้องก็พยายามดึงมือและขยับหนี แต่เขาทำหน้าเหมือนเขาเสียใจ เราเห็นว่ามันเป็นการดึงมือ”

ลูกๆ สี่คนกลัวพ่อหมดเลย?
แม่ : “กลัวค่ะ ถามพยาบาลได้ ถามครูที่โรงเรียนได้”

มีคนกลุ่มหนึ่งมาต่อว่าแม่?
แม่ : “อันนั้นคือกลุ่มเพื่อนเขา ไม่ใช่คนที่รู้จักเราเลย ถามหมอ ถามพยาบาลสิคะว่าเป็นยังไงเวลาเจอพ่อ เด็กผวา มีอาการตกใจ”

แม่รู้สึกยังไง ที่สื่อไปถึงเตียงลูกแม่?
แม่ : “อันนั้นเข้าใจว่าทำข่าว แต่ไม่โอเคและโมโหมาก เวลาเห็นน้องขยับหนีทำไมไม่ช่วย คุณให้คนที่เขาไม่ต้องการเข้าไป”

เขาอาจไม่ทราบหรือเปล่า?
แม่ : “คุณถ่ายกล้องคุณก็น่าจะเห็นว่าเด็กขยับหนี คุณจะไม่ช่วยเด็กเลยเหรอ เมื่อเช้าก็เข้าไปที่เพจว่าเดี๋ยวเราต้องคุยกัน เขาบอกว่าได้ ก็บอกว่าทำแบบนี้แม่ไม่โอเค คุณไม่มีจรรยาบรรณ คุณจะถ่ายอะไรก็ได้ แต่ถ้าคนเดือดร้อนอยู่ คุณจะถ่ายไปเพื่ออะไร”

พรุ่งนี้น้องคนที่ 4 กำลังจะพาไปวัดที่ไหน?
แม่ : “วัดกลาง วัดจันทวงศาราม”

ก่อนแม่ออกจากบ้าน มีลางบอกเหตุไหม?
แม่ : “ไม่มี(ร้องไห้) เขายังนอนอยู่เลย แม่ก็ให้เขานอนกันปกติ เราก็กอดกันก่อน หอมกันก่อนออกจากบ้าน”

เจ้าของอาคารมาคุยกับคุณแม่?
แม่ : “เขามาตั้งกองทุนช่วยเหลือค่ะ ยังไม่ทราบว่าจะช่วยเป็นเจ้าภาพหรือเปล่า”

แม่มาอยู่นานหรือยัง?
แม่ : “เกือบปีแล้วค่ะ เปลี่ยนห้องไปเรื่อยๆ แม่มาบ้านแล้วออกไป ก็แค่นอน ไม่ได้สนใจว่าจะมีอะไร แต่ก็บอกลูกแล้วว่าอย่าออกไปข้างนอก มันอันตราย เวลาแม่ไม่อยู่ คุณยายไปซื้อข้าวอะไรให้ เวลาเด็กออกมาเก็บผ้าให้เพราะฝนตก คนข้างบ้านก็จะบอกว่าอย่าปีน ให้เลิกเก็บผ้า เด็ก ๆ จะรีบขึ้นไป ทุกคนในคอนโดช่วยเหลือกันดีอยู่แล้ว”

คุณแม่อยากบอกอะไรน้องอเล็กซ์?
แม่ : “แม่จะกลับไปรับหนูแล้วนะลูก (ร้องไห้) เดี๋ยวจะไปหาเสื้อคุณเล็กคาราบาวมาให้เขา เขาชอบมาก ต่อไปคงไม่ได้ไปเที่ยวไหน ไม่ได้ไปอะไรกันอีกแล้ว (ร้องไห้)”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook