วันนี้ของ "ไอ้ติ๊ก" หึงโหดยิงดับสาวไฟฟ้า ต้องให้อาหารทางสายยาง-ทำได้แค่ลืมตา

วันนี้ของ "ไอ้ติ๊ก" หึงโหดยิงดับสาวไฟฟ้า ต้องให้อาหารทางสายยาง-ทำได้แค่ลืมตา

วันนี้ของ "ไอ้ติ๊ก" หึงโหดยิงดับสาวไฟฟ้า ต้องให้อาหารทางสายยาง-ทำได้แค่ลืมตา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี นายกฤษ หรือ ติ๊ก ก่อเหตุยิงกระหน่ำลูกโม่ .357 จำนวน 3 นัด ใส่แฟนสาว นางสาวภัศนันท์ อายุ 34 ปี พนักงานช่างระดับ 4 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคชัยนาท เสียชีวิตคาลานจอดรถด้วยอารมณ์หึงโหด เนื่องจากฝ่ายหญิงพยายามตีจาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2560

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (4 พ.ค.) เวลา 11.00 น. นางสาวอรุณี อายุ 31 ปี น้องสาวเหยื่อปืนโหด พร้อมญาติๆ เดินทางมายังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เพื่อทวงถามความรับผิดชอบและเงินเยียวยาจากครอบครัวผู้ต้องหา เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ วันที่ 18 ต.ค.วันที่พี่สาวถูกยิงตาย ได้รับเงินแค่ 10,000 บาท ตอนจัดงานศพเท่านั้น จึงอยากมาขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวของตนเอง

นางสาวอรุณี เปิดเผยว่า ตั้งแต่พี่สาวตายไป ทางครอบครัวลำบากมาก เพราะพ่อป่วยเป็นเบาหวาน และอีกหลายโรครุมเร้า ต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง ค่ารักษาต้องมารับผิดชอบกันเอง จากยาที่เบิกออกมาเป็นตัวยาที่ดี ตอนนี้ได้แค่ยาธรรมดากินรักษาไปตามอาการ ทางครอบครัวผู้ตายไม่เคยมาช่วยเหลืออะไรเลย ช่วยแค่ตอนจัดงานศพ10,000 บาท เท่านั้น อยากได้เงินมาเยียวยาบ้าง เพราะพี่สาวคือเสาหลักของครอบครัว

ตอนนี้เสาหลักได้พังครืนลงไปแล้ว เงินที่กู้มา เงินที่ต้องรักษาพ่อ ก็หากันจนแทบจะสายตัวแทบขาด เสียใจที่พี่สาวตายไปยังไม่พอต้องมาเครียดเรื่องเงินอีก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เรียกให้ทางครอบครัวผู้ต้องหามาคุย แต่ทางครอบครัวผู้ต้องหาไม่ยอมมาคุย เพราะต้องใช้เงินรักษาลูกตัวเองเหมือนกัน

ด้าน พ.ต.ท.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ รองผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองชัยนาท เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งเฉย เพราะหลังจากที่ศาลให้ประกันตัว นายติ๊ก ไปแล้วนั้น ทางผู้ต้องหามีอาการซึมเศร้า ไม่พูดไม่จา เครียด วิตกกังวล จึงไม่สามารถให้การได้ เนื่องจากมีอาการทางจิต รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่จังหวัดเชียงใหม่

ต่อมานายติ๊กได้ทำการผูกคอตาย จนขาดอากาศหายใจไป 1 นาที มีอาการโคม่า ไม่สามารถเคลื่อนไหวเองได้ ต้องให้อาหารทางสายยางผ่านเข้าช่องท้อง ตอนนี้ทำได้เพียงแค่ลืมตาเท่านั้น เนื้อหนังก็ซูบเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก

ส่วนเรื่องคดีความนั้นได้ส่งสำนวนไปให้ทางอัยการแล้ว ต้องรอให้ผู้ต้องหามีสภาพร่างกายที่พร้อมจะรับทราบ เข้าใจข้อกล่าวหาและสามารถต่อสู้คดีได้ ก่อน

ขณะที่ นางสาวพรเพ็ญ โตประเสริฐ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า วันนี้ทางญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม โดยเห็นว่าคดีนี้ล่วงเลยมานาน กว่า 6 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากคู่กรณี และชีวิตหนึ่งชีวิตที่เสียไปอาจจะต้องมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท จึงได้พาไปฟังข้อเท็จจริงกับทางอัยการจังหวัดชัยนาท ว่าในเรื่องของคดีความเป็นอย่างไร

โดยทราบว่าคู่กรณี ในขณะนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียง คล้ายกับสมองตายไม่รับรู้อะไรแล้ว จึงให้คำแนะนำว่า ตอนนี้ฟ้องได้เฉพาะคดีแพ่งเท่านั้น แต่ก็ต้องดูอีกว่า คู่กรณีนั้นมีทรัพย์สินหรือไม่ และทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดก็ยังได้ให้แนวทางว่า หากผู้ฟ้องมีรายได้น้อยก็สามารถเข้าไปขอความช่วยเหลือกับทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชัยนาทได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook