ดราม่าหนัก ลูกเขยเงาะป่าซาไกแจงสังคม โดนมองจัดงานศพหวังเงิน
ลูกเขยเงาะป่าซาไกชี้แจง หลังสังคมมองว่าจัดงานศพหวังเงินทำบุญ พร้อมตอบทุกประเด็ดทุกคำถามและยิ้มให้อภัยทุกคนที่มองตนผิดไปเพราะจัดงานศพเพื่อรอญาติและครอบครัวซาไกมาร่วมบุญเท่านั้น
จากเรื่องราวการจัดงานศพของนายวี อายุ 62 ปี เงาะป่าซาไก บริเวณถนนสายเก่าเส้นทางชมธรรมชาติ บนเทือกเขาบรรทัดแนวเขตอุทยานแห่งชาติ เขาปู่ เขาย่า อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง ที่พบว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ เนื่องจากประเพณีดั้งเดิมของชาวซาไกไม่มีการจัดพิธีงานศพ โดยจะทำการฝังร่างและโยกย้ายที่อยู่ใหม่ตามธรรมเนียม
แต่หลังจากกรณีดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีกระแสตอบกลับจากสังคมหลากหลายด้าน บางส่วนมองว่าชาวซาไกกลุ่มนี้ทำผิดจารีตของชนเผ่า เพราะจัดพิธีงานศพหวังจะได้เงินทำบุญเท่านั้น ล่าสุด นายโสพิศ อายุ 62 ปี เป็นลูกเขยของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ นายวี ล้มป่วยเพราะปวดท้อง แพทย์พบว่ามีฝีอยู่ในท้อง จึงได้นำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลพัทลุง
>>> โลกถึงเวลาเปลี่ยน เงาะป่าซาไกต้องจัดงานศพ เพื่อความอยู่รอด
แต่ปรากฏว่าจำนวนฝีเริ่มเพิ่มมากขึ้นและกำลังจะสุก แพทย์พยายามรักษาอย่างเต็มกำลัง กระทั่งฝีในช่องท้องแตกออก อาการเริ่มทรุดลงอย่างรวดเร็ว กระทั่งเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจาก นายวี เสียชีวิตแล้ว ทางครอบครัวมีความคิดอยากนำศพตั้งให้พระสวด 2-3 วัน จึงได้นำศพมาตั้งไว้ที่พัก ใกล้ถนนสายเก่าเส้นทางชมธรรมชาติดังกล่าว
โดยขออนุเคราะห์โลงศพมาจากมูลนิธิพัทลุงการกุศลฯ และได้รับการสนับสนุนเต็นท์ จาก อบต.บ้านนา เพื่อมาตั้งศพ จากนั้นบรรดาเงาะป่าซาไกก็ได้ไปเก็บดอกไม้ เถาวัลย์ และต้นปุด (พืชตระกูลข่า) มาประดับตกแต่งรอบเต็นท์และโลงศพ
เมื่อถามว่าทำไมถึงตั้งศพนานถึง 7 วัน ญาติบอกว่า เงาะป่าซาไกมีความเป็นคนเมืองมากขึ้นมีการตั้งที่อยู่เป็นหลักแหล่งมากขึ้น เช่น การอยู่กระท่อมในสวนยางพารา หรือสวนปาล์ม มีการมาซื้อขายของในตลาดนัด ตนเองเลยตั้งศพไว้ให้ญาติๆและผู้นำกลุ่มของซาไกได้มาร่วมงานศพแค่นั้นเอง
ส่วนประเด็นที่สังคมมองว่าเป็นการจัดงานเพื่อหวังเงินทำบุญ นายโสพิศ ระบุว่า เป็นคนจนแต่ไม่เคยแม้แต่จะคิด แม้ตนกับภรรยา และคนในเผ่าจะโดนดูถูกเสมอ แต่ก็ไม่โกรธเพราะความไม่รู้ของเขา จึงทำให้คิดเช่นนั้น ถ้าตนคิดจะจัดงานศพเงาะป่าซาไกหวังเงินทำบุญ คงไม่ตั้งงานศพไกลจากถนนใหญ่เช่นนี้
ตนมาอาศัยอยู่ในป่า หลบจากผู้คนแล้ว และไม่ได้เรียกร้องขอเงินจากใคร ส่วนกล่องบริจาคที่นำมาตั้งไว้ที่หน้าโลงศพ เพราะมีคนมาไหว้ศาลทวดหลักเขต แล้วลงมาดูเพราะอยากทำบุญให้คนเสียชีวิต ขึงเอาเงินใส่ในกล่องบริจาคเพียงเท่านั้น เงินที่ได้จะเอาไปเป็นค่าเผาศพนายวี และจะได้เงินสมทบจากการขายสมุนไพรอีกทางหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า บริเวณตั้งศพนายวี เต็มไปด้วยบรรยากาศความเงียบเหงา มีเพียงชาวบ้านผ่านมาคนเดียว เป็นลูกค้าสมุนไพรของลูกสาวผู้เสียชีวิตที่ทราบข่าว จึงขับรถมาทำบุญและนำเนื้อหมู 2 กิโลกรัมมามอบให้ และต่อมาก็มีเงาะป่าซาไกเดินขึ้นมาจากทับ อีก 4-5 คน เป็นญาติของผู้เสียชีวิต เดินทางมาจาก จ.สตูล
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สังเกตว่าเต้นท์ที่ตั้งศพมีป้ายไวนิล อยู่ 3 แผ่นที่มีความว่า คิดบวก ชีวิตบวก มงคลชีวิต และปัญหา ซึ่งจากการพูดคุยก็ทราบว่าป้ายนี้จัดทำขึ้นเพื่อไว้สอนลูกหลานและไว้เตือนสติเท่านั้น