ลุกฮือทั่วกรุง! ชาวบ้านหลายพื้นที่สุดทนระดมลุยเสื้อแดง
คนกรุงสุดทนพฤติกรรมคนเสื้ออแดง ชาว"แฟลตดินแดง"หวั่นแก๊สระเบิดไล่กระเจิง ชุมชน"นางเลิ้ง"200คนลุยเอง ประจันหน้าขว้างบึ้ม-ประทัดยักษ์ "ถ.เพชรบุรี"เลือด ปชช.ปะทะม็อบเจ็บ 4-คน ชาวนางเลิ้งเจอลอบยิงกลางดึกตาย 2 บาดเจ็บนับสิบ
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง โดยมีจุดวิกฤตอีกจุดหนึ่ง ที่สำคัญ คือ บริเวณแยกสามเหลี่ยมดินแดง ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนพิบูลย์ประชาสรรค์ ซึ่งหลังจากกุล่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งนำรถแก๊สแอลพีจีมาจอดขวางถนนดินแดงใกล้กับแฟลต 2 และ 3 ของเคหะดินแดง ตั้งแต่เวลา 09.40 น. เพื่อสกัดไม่ให้เจ้าหน้าที่ทหารมาสลายการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่บริเวณแยกประชาสงเคราะห์ใกล้โบสถ์แม่พระฟาติมา พร้อมนำรถเมล์มาจอดห่างจากจุดรถแก๊สประมาณ 50 เมตร พร้อมเปิดฝาถังน้ำมันนำมาผ้ามายัดไว้ขู่จะจุดเผารถเมล์ ซึ่งอาจจะทำให้รถแก๊สที่อยู่ใกล้ได้รับความร้อนระเบิดได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไม่กล้าเคลื่อนเข้าไป แต่ได้พยายามเจรจาให้กลุ่มเสื้อแดงนำรถแก๊สออกไป เนื่องจากเกรงจะเป็นอันตรายกับชาวแฟลตที่อยู่อาศัย แต่กลุ่มเสื้อแดงไม่ปฏิบัติตาม
ขณะที่นายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ แจ้งชาวแฟลตดินแดง ประมาณ 150 ครอบครัว ที่อยู่ใกล้จุดจอดรถแก๊ส ให้ออกจากที่พักไปอยู่ในแฟลตหลังที่ห่างออกไป และที่ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่นดินแดง ขณะเดียวมีประชาชนชาวแฟลตดินแดงนับร้อยคนแสดงความไม่พอใจส่งตัวแทนเจรจากับแกนนำกลุ่มเสื้อแดงให้นำรถแก๊สออกไปจากพื้นที่ แต่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ฟังเสียงขอร้องชาวบ้านในพื้นที่ ยืนยันว่ากำลังใช้จิตวิทยากดดันเจ้าหน้าที่ทหาร ทำให้ชาวบ้านกลับไปปลุกประชาชนชาวแฟลตรวมตัวออกมากดดันกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะหากเกิดไฟไหม้เสียหายจะไม่มีบ้านอยู่อาศัย
เวลา 14.00 น. หลังจากชาวแฟลตเริ่มโห่ไล่มากขึ้น ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดจนเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงกับกลุ่มชาวแฟลต เนื่องจากกลุ่มเสื้อแดงไม่พอใจกลุ่มชาวแฟลตจะให้ขนย้ายรถแก๊สออกไป มีการขว้างปาสิ่งของ ขวดเบียร์ เศษไม้ เข้าใส่กันหน้าแฟลตและมีเสียงปืนดังขึ้น ประมาณ 5-6 นัด ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงต้องล่าถอยออกมา ท่ามกลางการตรึงกำลังของทหาร ก่อนจะมีการขอเจรจากันอีกครั้งระหว่างชาวแฟลตและกลุ่มเสื้อแดง ในที่สุดกลุ่มคนเสื้อแดงยอมย้ายรถแก๊สจากบริเวณดังกล่าว ไปจอดไว้ที่หน้าคิงเพาเวอร์ ซอยรางน้ำ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำรถแก๊สคันดังกล่าวออกไปอย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ เมื่อเวลา 15.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงถอยมาปิดบริเวณชุมชนนางเลิ้ง พร้อมนำรถยูโร สาย 511 ปากน้ำ-สนามหลวง มาจอดขวางถนนสวรรคโลก และเตรียมจะเผารถเมล์ แต่ชาวบ้านเกือบ 200 คน รวมตัวกันขับไล่และช่วยกันเข็นรถเมล์ออกไปไว้ใกล้ๆ แยกผ่านฟ้า เกิดการประจันหน้ากัน โดยกลุ่มเสื้อแดงขว้างระเบิดเพลิงใส่ชาวบ้าน ส่วนชาวบ้านก็ขว้างประทัดยักษ์และยิงปืนใส่กลุ่มคนเสื้อแดง
ต่อมา พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐ์ผล ผกก.สน.นางเลิ้ง นำกำลังตำรวจ 20 นาย มาคุมสถานการณ์ มีการไกล่เกลี่ยกับตัวแทนชุมชนนางเลิ้งว่าทหารกำลังเข้ามาเคลียร์พื้นที่ให้ ขณะที่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงกลับที่ตั้งของตัวเอง เหตุการณ์จึงสงบลง แต่ชาวบ้านก็ยังยืนคุมคนเสื้อแดงที่มาตั้งด่านห่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงประมาณ 400 คน พร้อมรถแท็กซี่ประมาณ 50 คัน มาปิดกั้นถนนลาดพร้าว หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ลาดพร้าว เพื่อมิให้รถยนต์ผ่าน โดยยอมเปิดช่องจราจรให้ผ่าน (ขาออก) ได้เพียง 1 ช่องทาง ส่วนทางลาดพร้าวขาเข้าปิดมิให้รถผ่าน
เมื่อเวลา 16.25 น.วันที่ 13 เมษายน บริเวณถนนเพชรบุรี ซอย 7 กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงได้ปะทะกับชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงและมีผู้บาดเจ็บประมาณ 4-5 คนจากอาวุธปืนและมีด
ในช่วงค่ำ มีการระดมชาวบ้านในซอย 5 และซอย 7 จำนวนมาก ออกมาชุมนุมระมัดระวังไม่ใก้กลุ่มเสื้อแดงผ่านเข้าถนนเพชรบุรี
เวลา 20.00 น. ชาวบ้านย่านนางเลิงซึ่งหวั่นเกรงว่าจะถูกเผาทำลายที่พักอาศัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ จึงได้ร่วมตัวกันมาชุมนุมหน้าชุมชนนางเลิ้ง เพราะมีผู้เห็นคนเสื้อแดงขนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาจำนวนมาก จึงต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้าย แต่แล้วก็มีคนเสื้อแดงชักปืนออกมายิงชาวบ้านที่ร่วมตัวกันอยู่หน้าธนาคารกสิกรไทย สาขานางเลิ้ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บนับสิบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลกลาง
นพ.พิชญานาค วัชระ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลาง ให้สัมภาษณ์ว่า มีชายไทยอายุ ประมาณ 53 ปี ถูกนำตัวมารับการรักษา แต่เสียชีวิตแล้ว เข้าใจว่าถูกกระสุนทะลุข้อแขนและซี่โครงขวาหนึ่งนัด สอบถามเบื้องต้นเป็นชาวบ้านย่านนางเลิ้ง ซึ่งภรรยาบอกว่า สามีเกิดการโต้เถียงกับกลุ่มผู้ชุมนุม กระทั่งถูกยิงเข้าใส่จนเสียชีวิตในที่สุด
เวลา 21.30 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์เอนทีบี ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชุมชนนางเลิ้ง ทำให้ทีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ต่อมา 1 ใน 3 รายได้เสียชีวิตลง ทราบชื่อเบื้องต้นนายป้อม โดยญาติอ้างว่า ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงยิง ซึ่งจะให้ตำรวจสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
เวลา 22.10 น.นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ ผู้อำนวยการศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กทม. เปิดเผยว่า จากเหตุปะทะที่ตลาดนางเลิ้ง เบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย รายแรกชื่อ นายป้อม ผลพันธ์บัว อายุ 50 ปี เสียชีวิตที่โรงพยาบาลกลาง อีกรายยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลหัวเฉียว มีผู้บาดเจ็บ 9 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว 6 ราย โรงพยาบาลกลาง 3 ราย
ก่อนหน้านี้ เวลาประมาณ 20.30 น.หญิงสาว 2 คนและชายหนุ่มหนึ่งคน อายุประมาณ 20-30 ปีโดยสารรถตุ๊กตุ๊ก ผ่านบริเวณสะพานขาว พบกับกลุ่มประชาชนจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ที่อยู่ในอาการมึนเมา ได้กั้นไม่ให้รถผ่าน จากนั้นเข้าล้อมกรอบและรุมทำร้าย ทั้งที่เป็นผู้หญิงอยู่บนรถ และพยายามชี้แจงว่าไปเที่ยวสงกรานต์มา ขณะเดียวกัน ก็มีบางส่วนเข้าช่วยห้ามปรามว่า ไม่ให้ทำร้าย กระทั่งหญิงสาวเสื้อแดงวิ่งหนีลงจากรถสามล้อไป โดยขณะวิ่งหนีมีหญิงสาวคนหนึ่ง มีคนโยนเสื้อสีอื่นให้เปลี่ยน เธอจึงรับมาและรีบสวมทับเสื้อแดง
นายปิยะพงษ์ จ้อยช้อยชด พี่ชายผู้เสียชีวิต กล่าวภายหลังแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ยิงน้องชายเขาเสียชีวิต ที่สน.พลับพลาไชย เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 13 เมษายนว่า ช่วงเช้าที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเผารถเมล์ย่านนางเลิ้ง ซึ่งชาวบ้านหวั่นว่าจะเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้บ้าน เนื่องจากทุกคนเห็นว่ามีการราดน้ำมันบนรถเมล์ ชาวบ้านต่อต้าน กระทั่งเสื้อแดงย่านสะพานขาว ถูกชาวบ้านไล่ขับมาถึงสะพานเทวกรรมเช่นกัน จนมาถึงถ.นครสวรรค์ ในระยะห่างนั้นเอง ก็มีชายคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซต์ออกมาจากกลุ่มเสื้อแดง ได้ใช้ปืนยิงกราดกว่า 30 นัดรัวติดๆ กัน ทำให้ชาวบ้านกว่าร้อยคนรวมตัวกันต้องก้มหลบ แต่ก็มีกระสุนถูกน้องชายของตน เมื่อช่วงแรกถูกน้องชายล้ม คิดว่าเขาหมอบ ที่สุดก็รู้ว่าเขาถูกยิงที่ท้อง ตนจึงรีบส่งโรงพยาบาล โดยพวกเราทั้งสองคนมาช่วยกันเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันเหตุวางเพลิงของผู้ชุมนุม
นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ นปช.ต้องระมัดระวังมาก อย่าให้กลุ่มเสื้อแดงไปสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร นอกจากควบคุมฝูงชนแล้ว ก็ต้องควบคุมไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรง ปะทะจนมีผู้เสียชีวิตอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงดึงของวันเดียวกันชาวบ้านชุมชนชอยกิ่งเพชรได้ร่วมกันจับกุมคนเสิ้อแดงส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากกลุ่มคนเสิ้อแดงได้ขี่จักรยานยนตร์เข้ามาป่วนและพยายามขว้างระเบิดปิงปองใส่กลุ่มชาวบ้านที่ออกมารวมตัวประมาณ 300 คน แต่พลาดโดนชาวบ้านจับกุมไว้ได้
สำหรับชาวบ้านที่ได้ออกมารวมตัวกันนั้นเนื่องจากโกรธแค้นที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้เข้าไปทำลายมัสยิดและเกรงว่าจะหวนกลับมาอีกจึงได้ออกมารวมตัวกัน ภายหลังเกิดเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ทหารจำนวน 1 กองร้อยถูกส่งตัวมาดูชาวบ้าน