"ม้า อรนภา" เปิดใจ หลังเข้าพบตำรวจกองปราบฯ ปมรีวิว "เมจิกสกิน"

"ม้า อรนภา" เปิดใจ หลังเข้าพบตำรวจกองปราบฯ ปมรีวิว "เมจิกสกิน"

"ม้า อรนภา" เปิดใจ หลังเข้าพบตำรวจกองปราบฯ ปมรีวิว "เมจิกสกิน"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 พ.ค. 61) "ม้า อรนภา กฤษฎี" ดารา พิธีกรและนางแบบชื่อดัง เดินทางมาที่กองปราบปราม เพื่อให้ข้อมูล หลังตกเป็น 1 ในดาราที่ถูกออกหมายเรียก จากกรณีริวิวสินค้าในเครือบริษัทเมจิกสกิน ซึ่งผลิตเครื่องสำอาง และอาหารเสริม ที่มีการเข้าตรวจพบการใช้เครื่องหมายของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ปลอม โดย ม้า อรนภา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ว่า 

“วันนี้ก็เดินทางมาให้ปากคำค่ะ ทุกอย่างเป็นปกติและเจ้าหน้าที่ก็ถามว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ซึ่งเราก็ตอบทุกอย่างไปตามความจริง เพราะเราเองก็แค่รับรีวิวเหมือนกับท่านอื่นๆ ซึ่งตัวดิฉันเองก็รับรีวิวสินค้าชนิดนี้แค่ครั้งเดียว

ค่าจ้างที่ได้ตอนนั้น จริงๆ มันก็นานมากแล้วนะ 20,000 บาทเองค่ะ เขาติดต่อดิฉันมานานแล้ว ติดต่อโดยตรงผ่านคนกลางที่ติดต่อมา เนื่องจากดิฉันไม่มีผู้จัดการ และเท่าที่จำได้มันก็น่าจะประมาณปีที่แล้ว คิดว่าเป็นปีแล้วมั้งคะ

สาเหตุที่รับรีวิวคือมันก็เป็นอาชีพของเรา อันอื่นก็รับค่ะ (ยิ้ม) แต่ถามว่ามีการตรวจสอบเบื้องต้นก่อนรับรีวิวไหม ก็…จริงๆ แล้วเวลาสินค้ามาถึงมือเรา เราก็คิดว่ามันคงจะทุกสิ่งทุกอย่างมาอย่างถูกต้องแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นเขาคงเอาออกมาขายไม่ได้ ก็แค่นั้น และก็เชื่อว่าทุกคนก็คงจะคิดอย่างนั้นเหมือนกัน

ดิฉันไม่รู้จักกับเจ้าของแบรนด์ แต่คนกลางที่ติดต่อมาเขามีสคริปต์ให้ค่ะ มันต้องมีสคริปต์อยู่แล้ว ถามว่าดิฉันได้ลองทาหรือลองใช้ก่อนไหม ไม่ค่ะ คนอื่นอาจจะลองแต่ดิฉันไม่ได้ลอง ซึ่งมันอาจจะเป็นความผิดพลาดของตัวเองก็ได้มั้งคะที่ไม่ได้ลองสินค้าก่อน มันก็คงจะเข้าข่ายในการหลอกลวงใช่ไหมคะ ก็คงจะอย่างนั้น แต่ก็ไม่เคยลอง เพราะอย่างที่บอกมันก็เป็นอาชีพของเรา รีวิวก็คือรีวิว รีวิวไปเรื่อย เขาติดต่อมาก็รีวิว

วันนี้ก็อย่างที่บอกเข้ามาให้ปากคำและเป็นพยานแค่นั้นเอง ซึ่งถ้าถามว่าข่าวนี้ส่งผลกระทบกับดิฉันมากแค่ไหน เอ่อ…มันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเลยนอกจากรู้สึกว่า ทำไมมันทำให้ตัวเองดังมากขนาดนี้ กับเรื่องที่สองก็คือ ทำไมเมื่อมีข่าวอะไรออกไป และเป็นข่าวที่เราเองก็ไม่ทราบว่าจะเกินจริงหรือว่าเป็นข่าวที่ออกกันไปเองอะไรก็แล้วแต่

ซึ่งตัวดิฉันเองก็ยังไม่รู้ถึงขนาดนั้น ข่าวแบบนั้นแหละค่ะที่กระทบกับครอบครัวของดิฉันมาก คุณรู้ไหมคะว่ามันทำให้คุณแม่ของดิฉันไม่สบายใจเลย ในขณะที่ท่านอายุ 93 แล้ว คุณรู้ไหมคะว่าดิฉันดูแลท่านและทะนุถนอมกันแบบสุดๆ

เนื่องจากท่านอายุมากแล้ว และท่านควรมีสุขภาพที่ดี ควรมีความสุข มีสุขภาพจิตที่ดี แต่พอมีข่าวแบบนี้ออกมาท่านก็ทุกข์ใจมาก เนื่องจากเราเป็นลูก และเป็นลูกคนเดียวด้วย ตอนนี้ดิฉันเป็นห่วงท่านมากค่ะ”

หลังจากนี้จะเลือกรับรีวิวให้มากขึ้นไหม ?

“เอ่อ…ถ้าถามว่าจะเลือกมากขึ้นไหม ดิฉันคิดว่าเจ้าของสินค้าคงจะคิดมากขึ้นมากกว่า ที่จะต้องทำอะไรให้มันถูกต้อง ดิฉันเป็นผู้รับจ้าง ดังในฐานะที่เราเป็นผู้รับจ้างเราก็คิดว่าในเมื่อสินค้ามันออกสู่ตลาดแล้ว หรือมาอยู่ในมือของเราให้รีวิวแล้ว มันก็น่าจะถูกต้อง

หลังจากนี้คงไม่มีอะไรให้รีวิวแล้วมั้งคะ นอกจากของตัวเองที่เพิ่งจะเปิดตัวไป แต่ทุกอย่างก็ถูกต้องตามความเป็นจริง ส่วนสินค้าอื่นๆ เอาตรงๆ มันจะมีอีกไหมล่ะค่ะ เพราะมันมีเหตุการณ์ขนาดนี้แล้ว ตำรวจไปทลายสิ่งปลอมๆ หมดแล้ว อันนี้ต้องไปถามคุณตำรวจดีกว่าค่ะ”

ตามกระแสข่าวที่ออกมาก็เหมือนมีข้อมูลว่า การไม่รู้ ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความผิด ?

“เขาบอกว่ามีความผิดอยู่แล้วค่ะ และดิฉันก็ยอมรับค่ะว่ามันมีความผิด แค่นั้นเอง แต่ว่ามันจะเป็นความผิดที่เราไม่ได้รู้ (ยิ้ม) ซึ่งถ้าถามว่าตำรวจได้ชี้แจงกับดิฉันไหมว่าจะเข้าข่ายความผิดอะไรบ้าง เอ่อ…ก็ชี้แจงค่ะ แต่ดิฉันจะจำได้ไหมอ่ะ คือก็แบบว่า โกหก หลอกลวง และก็เกินจริง ซึ่งก็จะมีการปรับตั้งแต่ 30,000 บาท หรือ ทั้งจำ-ทั้งปรับ จำคุก 1 ปี และก็ปรับ 10,000 บาท อันสุดท้ายก็คือปรับแค่ 5,000 บาท คือแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ อะไรประมาณนั้น

ถามว่าดิฉันมีอะไรอยากจะชี้แจงสังคมบ้างเรื่องการรีวิว คือมันก็มีความผิดอยู่แล้วเนอะเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเมื่อสักครู่นี้คุณตำรวจท่านก็บอกแล้วว่าเป็นความผิด และเราเองก็ยอมรับในสิ่งตรงนี้ ดังนั้นที่เรามาคุยกันในวันนี้ทางกองปราบปรามหรือคุณตำรวจท่านก็ขอร้องดารา รวมถึงคนที่มีชื่อเสียงต่างๆ ให้ประชาสัมพันธ์แต่ในสิ่งที่ถูกต้อง ดี และใช่ ก็เป็นการขอความร่วมมือค่ะ

เราเองก็โอเค เราให้ความร่วมมือได้อยู่แล้ว เพราะอะไรก็ตามที่ถูกต้องเราก็พูดอยู่แล้ว ไม่ใช่มีคนมาหลอกเราว่าของสิ่งนั้นเป็นของถูกต้อง ทั้งๆ ที่มันไม่ได้ผ่านการตรวจสอบมาอย่างถูกต้อง ซึ่งเราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เราก็รู้พอๆ กับประชาชนทั่วไป

ส่วนเรื่องฟ้องร้องแบรนด์ต่างๆ อันนี้ดิฉันคงไม่หรอกค่ะ เรื่องค้าความไม่สมควรจะมี มันเป็นเรื่องวุ่นวาย แต่ในเมื่อมาเจอเรื่องค้าความแบบนี้เราเองก็ต้องค่อยๆ แก้ไขไปค่ะ ดิฉันอายุขนาดนี้แล้ว ไม่น่าจะเจอ

ขออนุญาตพูดอีกเรื่องเลยละกันนะคะ คือก่อนหน้านี้ก็จะมีข่าวออกมาว่าดิฉันเป็นรายแรกที่จะต้องมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการกำหนดวันนัดหมายเรียบร้อย ซึ่งดิฉันก็ได้ทราบพอๆ กับประชาชนทั่วไปจากข่าวทางโทรทัศน์

ปรากฏว่ามีข่าวออกมาอีกว่า ดิฉันไม่ยอมมาเพราะต้องการหลบหนี ซึ่งดิฉันจะหลบหนีได้ยังไง หน้าดิฉันออกโทรทัศน์ทุกวัน ดิฉันไม่มีทางหลบหนีไปไหนทั้งสิ้น รวมถึงดิฉันเองก็ได้สอบถามกับทางผู้ใหญ่ทุกคนแล้วด้วยว่า ดิฉันควรจะต้องทำอย่างไรในเมื่อมันไม่ได้มีการแจ้งมาก่อน ไม่ได้มีการติดต่อใดๆ มา หรือไม่ได้มีหมายเรียกให้มาพบ ดังนั้นดิฉันจึงไม่ได้เดินทางมา ซึ่งดิฉันคิดว่าการที่ดิฉันทำตามนี้ก็น่าจะถูกต้องแล้ว

แต่ก็อย่างที่บอกปรากฏว่ามีข่าวต่างๆ นำเสนอว่าดิฉันหนีนู่นนี่นั่นต่างๆ นานา แม้กระทั่งในอินเตอร์เน็ตก็ตราหน้าว่าดิฉันเป็นคนทำผิดและไม่ยอมรับผิด ซึ่งมันคืออะไรเหรอคะ และอย่างที่ดิฉันได้ชี้แจงไป อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นมันยังไม่ได้มีหมายเรียกหรือเชิญใดๆ ทั้งสิ้นเลยนะคะ

เพราะไม่อย่างนั้นดิฉันก็ไม่รู้จะมาทำไม สอบถามผู้ใหญ่ทุกคนแล้วด้วย จนกระทั่งเมื่อวานนี้มีหมายส่งมา และเมื่อดิฉันได้รับ ดิฉันก็โทรติดต่อหาเจ้าหน้าที่เพื่อทำการนัดหมายทันที ดิฉันให้ความร่วมมืออยู่แล้วค่ะ ดิฉันไม่ได้ทำผิดเป็นฆาตกร ขอบคุณมากค่ะ"

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียก ดารานักแสดง จากกรณีรีวิวสินค้าในเครือบริษัทเมจิกสกินแล้วทั้งหมด 12 คน จนถึงขณะนี้มีดารามาเข้ามาพบตำรวจแล้ว 5 คน คือ เมย์ พิชญ์นาฏ, แพท ณปภา, ออฟฟี่ แม็กซิม, หญิงแย้ นนทพร, สายป่าน อภิญญา และม้า อรนภา เป็นคนที่ 6

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook