ค้นตลาดใหม่ดอนเมืองรอบสุดท้าย ยึดสินค้าผิดกฎหมายได้กว่า 2 แสนชิ้น

พล.ต.อ.วีระชัยทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภาพรวมของการตรวจค้น 4 วันที่ผ่านมา ตรวจร้านไปแล้ว 164 ร้านยึดของกลาง 1,823 รายการรวมกว่า 200,000 ชิ้น ถือว่าตอนนี้การค้นพื้นที่ดำเนินไปได้ประมาณ 60 เปอร์เซนต์ แล้วโดยวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 5 จะมีการค้นให้ครบ 100 เปอร์เซนต์ จากทั้งหมด 67 จุดตามหมายค้นที่ทางศาลแขวงดอนเมืองอนุมัติมาซึ่งการค้นวันนี้ (6 พ.ค.) จะต้องเสร็จสิ้นสมบูรณ์ทั้งหมด ใช้กำลังทั้งหมด 850 นายโดยมีกำลังตำรวจและหน่วยงานอื่นๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ ปปง. มาร่วมค้นด้วยเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 พ.ค. มีสื่อมวลชนสอบถามเรื่องผู้มีอิทธิพลเรียกเก็บเงินจากแผงพ่อค้าแม่ค้า ตอนนี้รอให้ผู้เสียหายที่ถูกรีดทรัพย์มาร้องเรียนกับทาง ปปง. จากนั้นทาง ปปง. ก็จะตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อเอาผิดต่อไป ทั้งนี้ตนขอชี้แจงเจ้าหน้าที่ว่าหากพบสิ่งผิดกฎหมายแล้วไม่ยึดจะมีความผิดใน ม.157 แต่หากทำตามกฎหมายแล้วถูกฟ้องร้องตนจะรับผิดชอบเองซึ่งการยึดของนั้นก็เพื่อไม่ต้องการให้ของดังกล่าวหลุดไปสร้างปัญหาเดือดร้อนแก่ประชาชน

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า เมื่อตรวจค้นตลาดแห่งนี้เสร็จเรื่องจะไม่จบเพียงเท่านี้เพราะยังจะมีเรื่องอื่นๆ ตามมาอีกทั้งการตรวจสอบการดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตการต่อเติมอาคารจะมีการตรวจสัญญาระหว่างผู้เช่ากับกรมธนารักษ์ว่ามีเงื่อนไขสัญญาอย่างไรและการกระทำผิดนี้เป็นเหตุให้ยกเลิกสัญญาเช่าหรือไม่ 

ทั้งนี้ที่ผ่านมา มีการแจ้งข้อหาไปแล้ว 5 ข้อหา กับ บริษัทพัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง คือ บุกรุกที่สาธารณะคลองเปรมประชากร เป็นอาคารด้านหลังตลาดทั้งตึก, ก่อสร้างต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต บริเวณตัวอาคาร, ก่อสร้างต่อเติมอาคาร บริเวณทางเดินอาคาร, ดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีเลขที่ 767/2561 , และดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีเลขที่ 768/2561

ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัดและส่วนภูมิภาคตรวจสอบเรื่องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางโดยเข้มข้นเน้นจังหวัดใหญ่ๆที่มีพื้นที่ต้องสงสัยว่าแหล่งผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานเพื่อทำการกวาดล้างต่อไป 

ขณะที่ นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการสำนักคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่าจากการร่วมตรวจค้นกับตำรวจมาโดยตลอดพบว่าจุดนี้เป็นจุดสำคัญที่มีสิ่งผิดกฎหมายครบวงจรโดยวันนี้จะต้องทำให้เสร็จสิ้นทั้งนี้ทาง อย.จะมีปฏิบัติการลงไปตรวจสินค้าที่มีการปลอมเลข อย.เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนต่อไป

ส่วนเจ้าหน้าที่ อย. ให้ความรู้ว่า ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องสำอาง ถ้าไม่สะอาดพอ ก็อาจจะทำให้มีเชื้อโรคที่เป็นอันตรายปนเปื้อนไปสู่ผู้ใช้ได้ ดังนั้น ในการผลิตต้องปลอดเชื้อ ต้องสวมถุงมือ สวมหมวก มีผ้าปิดปาก มีเสื้อคลุม ต้องอยู่ในห้องที่เป็นระบบปิด ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องใช้เงินลงทุนสูง ผลิตภัณฑ์จึงมีราคาสูงตามไปด้วย ของเถื่อนจึงถูกกว่า และผู้ผลิตอยากจะเติมสารอะไรแค่ไหนก็ไม่มีใครรู้ ซึ่งสารบางอย่าง ใช้แล้วขาวขึ้นหรือลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น แต่ถ้าใส่มากเกินไปก็เป็นอันตราย ผู้ผลิตสินค้าประเภทนี้ไม่สนใจเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้ อยากจะใส่อะไรก็ใส่ลงไป จึงขอฝากให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน สินค้าปลอมบางตัวปลอมได้เหมือนมาก จึงขอแนะนำให้เลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าที่ได้มาตรฐาน น่าจะมั่นใจได้มากกว่า อย่าเห็นแก่ของถูก หรือได้ผลเร็ว เพราะผลลัพธ์ที่ตามมาอาจเลวร้ายกว่าที่คิดไว้ได้