“ชมพู่ อารยา” เปิดใจก่อนบินไปคานส์ น้ำตาคลอ ห่าง “สายฟ้า-พายุ” คิดถึงจนกลั้นไม่ไหว

เตรียมตัวไว้มาอย่างเต็มที่สุดๆ สำหรับซุปตาร์สาว “ชมพู่ อารยา” ที่มีโอกาสได้ไปเดินพรมแดงในเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลก ณ เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส เป็นครั้งที่ 6 แล้ว ซึ่งครั้งนี้จะได้ร่วมเดินพรมทั้งหมด 5 วัน คือวันที่ 8, 10, 11, 12 และ 13 พฤษภาคม 2561

โดยล่าสุดในช่วงค่ำของวันนี้ (7 พ.ค.) ก่อนที่เจ้าตัวจะขึ้นเครื่องบินไปร่วมงานนั้น เธอได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งได้เผยให้ฟังว่า ยังคงตื่นเต้นเหมือนกับทุกปี แต่ก็วางแพลนเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดไว้เยอะเหมือนกัน

ส่วนลูกแฝด “สายฟ้า-พายุ” ให้อยู่ที่บ้าน พร้อมยอมรับด้วยน้ำตาคลอๆ ว่า มีบอกลูกแล้วและคิดว่าลูกก็รับรู้ แต่ไม่ขอเล่าอะไรเพราะกลัวน้ำตาจะไหลด้วยความคิดถึง

ปีนี้เป็นปีที่ 6 แล้ว ความตื่นเต้นยังมีอยู่ไหม ?

“คานส์ปีนี้ฝากด้วยนะ (ยิ้ม) ก็ตื่นเต้นเหมือนทุกปีแหละค่ะ ถึงแม้จะมีบางอารมณ์ที่รู้สึกว่าชิลขึ้น แต่แน่นอนมันก็มีเรื่องของความคาดหวัง เพราะอย่างตัวเราเอง เรายังคาดหวังว่าจะต้องทำให้ดีขึ้นในทุกๆ ปี”

ความพร้อมตอนนี้ 100 เปอร์เซ็นต์หรือยัง ?

“ชมว่ามันไม่มีคำว่า 100 เปอร์เซ็นต์หรอก แต่ก็ถือว่าเป็นปีที่เตรียมตัวดีกว่าทุกๆ ปีค่ะ อะไรหลายๆ อย่างก็ค่อนข้างจะรู้ล่วงหน้า และสรุปได้เยอะพอสมควรมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา”

เตรียมวิธีการสำหรับรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดไว้มากแค่ไหน ?

“ก็เรียกว่ารับมือกับสิ่งที่เซอร์ไพรส์จนเราก็รู้แล้วว่าเราจะทำอะไรต้องมี แพลนA, B หรือ C ส่วนแพลน A ก็ต้องมี 1.1 หรือ 1.2 มี 1.1 ก หรือ 1.1 ข ก็พยายามคิดถึงทุกเรื่องที่เป็นไปได้ที่มันจะเกิดขึ้น หรือวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าว่าจะมีอะไร”

ตอนนี้ยังมีอะไรที่ต้องกังวลอยู่ไหม ?

“ก็มีบ้างค่ะ แต่อย่างที่บอกเราก็มีแพลน A, B แน่นอนว่าแพลน A คือแพลนที่ดีที่สุดที่อยากจะให้เกิด แต่ถ้าไม่ได้ B ก็ยังดี ไม่อยากให้ไปถึง C, E, D, F, G ชมก็ต้องวางแพลนไว้เยอะประมาณหนึ่งค่ะ”

หลายคนค่อนข้างคาดหวังกับลุคแรกของเรา ?

“จริงๆ ก็อยากให้มันดีทุกๆ ลุคนะคะ และแต่ละลุคก็ตั้งใจไว้ว่าอยากให้มีอะไรแปลกๆ ฉีกๆ แน่นอนเราไปในนามของเมคอัพใช่ไหมคะ เฉพาะฉะนั้นในเรื่องของเมคอัพเราก็ต้องเล่าเรื่องพอสมควร เราต้องมีหลากหลายคาแรคเตอร์ และอยากให้คนที่ติดตามเขาสนุกไปกับเรา ก็รอขมนะคะ”

ปีนี้เตรียมกระเป๋าไปทั้งหมดกี่ใบ ?

“จริงๆ ก็พอๆ กันกับทุกๆ ปีนะคะ แต่ปีนี้จะมีอุปกรณ์คุณแม่ๆ ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปั๊มนม กล่องโฟม อุปกรณ์เอานมกลับบ้าน เฉพาะอันนี้ก็กระเป๋าใบใหญ่ๆ 1 ใบ ชมต้องปั๊มมาจากที่นู้นแล้วเอากลับมา ลูกจะได้กินนมอิมพอร์ต (หัวเราะ)”

ตอนออกมามีได้บอกน้องๆ ก่อนไหม ?

“บอก จริงๆ ก็บอกเขาทุกวันนะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็บอก ชมคิดว่าเขารับรู้อ่ะ อันนี้ไม่รู้มโนไปเองหรือเปล่านะ แต่อย่าให้พูดเลยเดี๋ยวร้องไห้ น้ำตาจะไหล (น้ำตาคลอ) ขอเบรกนิดหนึ่ง ก็โอเคค่ะ”

มีเซ็นสัญญากับคุณพ่อไว้ไหมว่าต้องให้วิดีโอคอลหาตลอดเวลา ?

“ไม่ได้เซ็นสัญญาหรอก เพราะปกติไปทำงานแค่เหม่งจ๋ายก็เฟสไทม์ไม่รู้กี่รอบแล้ว แต่นี่คือไปคานส์ คงต้องทุกครั้งที่มีโอกาส”

ครั้งนี้คือเป็นครั้งแรกที่ห่างน้องนานที่สุดใช่ไหม ?

“จะบิ้วสิ (น้ำตาซึม)”

เราไม่อยู่ใครรับหน้าที่หลักในการดูแลลูกแทน ?

“ชมมีทีมที่ดี ชมโชคดีมากที่ได้ผู้จัดการส่วนตัว คนที่เคยดูแลชมมาก่อนมาช่วยเลี้ยง จริงๆ ก่อนที่เขาจะมาดูแลชมเขาก็เลี้ยงเด็กมาเยอะ และก็มีคนช่วยอีกคนเพราะเรามีลูก 2 คนใช่ไหมคะ เราพยายามเลี้ยงเขาแบบให้ทุกๆ คนดูแลเขาได้ ก็โชคดีว่าทีมเราโอเค เรารักทีมเรามาก ก็คลายกังวลได้ แต่ก็มีเหลือแต่เรื่องคิดถึงนี่แหละ”

เวลาที่นู้นค่อนข้างจะต่างกับที่นี่ จะแบ่งเวลาคุยกับลูกยังไง ?

“มันแค่ประมาณ 5-6 ชั่วโมงเอง ก็ได้อยู่ พอกะช่วงเวลาได้”

เราต้องโฟกัสกับการเดินพรมให้เต็มที่ใช่ไหม ?

“ก็มันเหมือนไปรบอ่ะ พูดตรงๆ รายละเอียดมันเยอะ เรื่องของข้อจำกัด เรื่องของเวลามันก็หลายๆ อย่าง ก็เลยคิดว่าเอาเขาไว้ทางนี้ เราจะได้มีแรงสู้กับตรงนั้นเยอะๆ”

ครั้งนี้ไปแล้วเริ่มเลย เหมือนเวลาเรามีน้อยไหม ?

“ก็น้อย กระชั้นเหมือนกันนะ ก็เตรียมพร้อมสำหรับความกระชั้น เพราะว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้ โอเคพอเรารู้ว่าเราต้องรับมือกับความกระชั้น เราก็วางแผนมาพอสมควรว่าเราจะไม่มีเวลามาวาแบบ...เอายังไงดีนะ ไม่มีแล้ว เราต้องตัดสินใจมาก่อนแล้ว”

สำหรับคนที่คาดหวังกับเราเป็นปีที่ 6 แล้ว เราอยากบอกอะไรคนไทย ?

“จริงๆ จะบอกว่าขอบคุณทุกๆ คนเลยค่ะที่พอถึงช่วงเวลานี้ของปีก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอกัน ยังเชียร์อยู่ ก็เหมือนไปรบอ่ะแหละ อย่างที่ว่ามา (หัวเราะ) ก็ขอบคุณค่ะ ชมเองก็แบกความคาดหวังทั้งของตัวเองและของแฟนๆ ที่รอเชียร์ ก็ตั้งใจอยู่แล้ว เพราะนี่คือมาตรฐานของเรา คือต่อให้ไม่มีใครกดดันแต่นี่แสตนดาร์ดของชม ชมทำเต็มที่อยู่แล้ว”

ยังไม่ใช่ปีสุดท้ายใช่ไหม ?

“(หัวเราะ) ก็ทำทุกๆ วันให้เหมือนวันสุดท้าย จริงๆ ทุกงานแหละค่ะ ยิ่งงานใหญ่ระดับนี้ก็ทำให้เหมือนว่าเราจะไม่ได้กลับมาอีก เพราะว่าอะไร เพราะนี่คือแสตนดาร์ดของชมเท่านั้นเอง”

พี่น็อตมาส่งไหม ?

“ส่งกันที่บ้านค่ะ (ยิ้ม)”

ครบรอบแต่งงาน 3 ปีแล้ว ?

“ใช่ ไวเนอะ (หัวเราะ) ไม่มีอะไรพิเศษเลย จริงๆ วันครบรอบพี่น็อตก็ตื่นมาแล้วแกก็บอกว่าวันนี้วันอะไร เราก็วันอะไร วันนี้ลูก 8 เดือนไง เขาก็บอกไม่ใช่ เราก็ เห้ย! หรือว่าวันนี้วันเกิดนาง แต่นางเกิดเดือนสิงหาคม หรือว่านี่เดือนสิงหาคมแล้ว เพราะมัวแต่เลี้ยงลูกไม่รู้ว่าเดือนอะไรแล้ว คือทายไม่ออกจนนางเฉลย ซึ่งเราลืมจริงๆ เขาไม่นอยส์หรอก เพราะเขาก็รู้ว่าเราวิถีแม่ลูกอ่อน มันก็ลืมไปหมด ส่วนของขวัญไม่มีค่ะ ไม่มีอะไรเลย ก็คิดว่าเดี๋ยวกลับมาจากคานส์ก็คงทีเดียว”