ชาวนาเร่งปรับผืนนา ปลูกอินทผาลัม สร้างรายได้กว่าล้านบาทต่อปี

ชาวนาเร่งปรับผืนนา ปลูกอินทผาลัม สร้างรายได้กว่าล้านบาทต่อปี

ชาวนาเร่งปรับผืนนา ปลูกอินทผาลัม สร้างรายได้กว่าล้านบาทต่อปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผืนนากว่า 30 ไร่ของชาวนาหมู่ที่ 4 ตำบลจำปาหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ถูกปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวมาเป็นการปลูกต้นอินทผาลัม พืชเศรษฐกิจตัวใหม่สร้างรายได้อย่างงามกว่าปีละ 1 ล้านบาท โดยอินทผาลัมถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่ตลาดมีความต้องการในรูปแบบทั้งรับประทานและไม้ประดับ

a

นาย วิทยา แสงคุณ อายุ 49ปี เกษตรกรผู้ปลูกต้นอินทผาลัม เปิดเผยว่าตนเองและเกษตรกรในพื้นที่ของ หมู่ที่ 4 ตำบลจำปาหล่อ ได้ร่วมกันศึกษาหาพันธุ์ต้นอินทผาลัม ที่ดีที่สุดจากทั่วประเทศ

และนำมาพัฒนาต่อยอดจนได้อินทผาลัมสายพันธุ์ใหม่ชื่อว่า H ONE  ซึ่งสามารถทนสภาพอากาศของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ให้ผลผลิตรับประทานได้แบบสด ๆ และไม่มีรสฝาด

โดยในปีที่ผ่านมาผลผลิตได้เกินเป้าที่วางไว้ ลูกค้าบางรายเดินทางมาเลือกซื้อทั้งต้น ซึ่งเราทดลองปลูกทั้งในดินและเข่งเพื่อที่จะเลือกก่อนลงดิน ผลผลิตที่ได้ เราสามารถจำหน่ายได้ทั้งต้นทั้งผล ขนาด 7 เดือน ขายต้นละ 100 บาท แต่ในขณะที่ต้นอินทผาลัมที่มีอายุ 2 ปี สามารถขายได้ต้นละ 12,000 บาท

b

ส่วนผลของอินทผาลัมก็สามารถขายได้กิโลกรัมละ 500-1,500 บาท สามารถสร้างรายได้ให้ปีละกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการปลูกข้าวนับว่า อินทผาลัมมีรายได้ที่ดีกว่าและมีอนาคตมากกว่า

ด้านนาย ศิวกร นิรันดร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลจำปาหล่อ กล่าวว่า จากการศึกษาการปลูกอินทผาลัมเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าสนใจ ซึ่งในปีที่ผ่านมาพื้นที่ของเราประสบปัญหาราคาข้าวตกต่ำจนต้องพักนา ต้องหยุดทำ ทางเราก็ได้ศึกษาหาทางช่วยชาวนาและพบว่า อินทผาลัมสามารถปลูกได้ในดินพื้นที่นา โดยไม่ต้องปรับปรุงดินก็สามารถปลูกและให้ผลผลิตได้

ด้วยเหตุนี้จึงถือเป็นทางเลือกใหม่ของเกษตรกรชาวนาในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ซึ่งที่ผ่านมา เรารวมกลุ่มกันและสามารถขายได้ทั้งต้นกล้า ขายต้นที่มีผลผลิต ขายลูก และยังเตรียมที่จะแปรรูปหากว่ากลัวตลาดตัน ทางเราก็เตรียมวางแผนที่จะแปรรูปเป็นน้ำอินทผาลัมและเตรียมทำเรื่องขอเป็นสินค้าโอทอปของจังหวัดอ่างทองอยู่

c

อินทผาลัมเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลปาล์ม มีความสูงประมาณ 30 เมตร ลำต้นมีขนาดประมาณ 30-50 เซนติเมตร มีใบติดอยู่บนต้นประมาณ 40-60 ก้าน ทางใบยาว 3-4 เมตร ใบเป็นแบบขนนก ใบย่อยพุ่งออกหลายทิศทาง ช่อดอกจะออกจากโคนใบ ผลทรงกลมรี ยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร ออกเป็นช่อรสหวานฉ่ำ

โดย ต้นอินทผาลัมจะเริ่มให้ผลครั้งแรกเมื่ออายุ 5 – 7 ปี และมีอายุยืนยาวถึงกว่า 100 ปี โดยจะให้ผลผลิตต่อปีเฉลี่ยประมาณ 7,000 – 8,000 ลูกต่อปี หรือ ประมาณ 100 – 150 กิโลกรัม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาดและความสมบูรณ์ของต้น

d

ทั้งนี้ อินทผาลัมสามารถทานได้ทั้งผลดิบและสุก โดยผลจะมีสีเหลืองจนถึงสีส้มและเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้มเมื่อแก่จัด ผลสุกจัดมักนิยมนำไปตากแห้ง ทำให้สามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลาหลายปี และมักมีคนเข้าใจผิดว่า รสหวานจัดของอินทผาลัมเกิดนั้นการแปรรูปด้วยการนำไปเชื่อมด้วยน้ำตาล

อินทผาลัมเป็นผลไม้ที่ไม่มีคอเลสเตอรอลและไขมันต่ำ นอกจากนี้เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามิน A, วิตามิน B1, วิตามิน B2, วิตามิน B6, วิตามิน K, แคลเซียม, ซัลเฟอร์, เหล็ก, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมงกานิส, แมกนีเซียม และน้ำมันโวลาไทล์ แถมยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ซึ่งช่วยในการลดอาการท้องผูก

e

อินทผาลัมอุดมไปด้วย เบต้าแคโรทีน ลูติน และซีแซนทิน ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งในช่องท้อง ช่วยบำรุงร่างกาย แก้โรควิงเวียนศีรษะ แก้กระหาย ช่วยลดเสมหะภายในลำคอ หากรับประทานอินทผาลัมยามเช้าขณะท้องว่าง อินทผาลัมจะทำการฆ่าเชื้อโรค พยาธิ และสารพิษที่ตกค้างที่อยู่ในลำไส้ และระบบทางเดินอาหาร เพราะอินทผาลัมมีฤทธิ์ในการกำจัดสารพิษและช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิดซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook