งานแต่ง "น้ำหวาน เดอะเฟซ" เผยเส้นทางรักกับเจ้าบ่าวสุดหล่อ ดร.ณัฐวุฒิ
บ่มรักมานานถึง 5 ปี ในที่สุดนักแสดงสาว “น้ำหวาน รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์” หรือ “น้ำหวาน เดอะเฟซ” ก็ได้ถือฤกษ์งามยามดีในวันนี้ (8 พ.ค.) ควงหวานใจหนุ่ม “ดร.ณัฐวุฒิ ม้าแก้ว” เข้าสู่พิธีฉลองมงคลสมรส ณ Benedict Studio
โดยก่อนจะเข้าสู่พิธีสำคัญนั้น ทั้งสองก็ได้ควงคู่กันออกมาแถลงข่าว พร้อมเปิดใจให้ฟังถึงเรื่องราวความรักที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้ให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าสื่อมวลชน จากนี้จะดูแลกันให้ดีที่สุด และไม่หายจากการไปไหนอีก
น้ำหวาน: "จริงๆ งานแต่งงานวันนี้เป็นธีมโรสโกลด์ พิ้งค์โกลด์ค่ะ งานในวันนี้คือจะไม่มีเพื่อนเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าบ่าว เพราะเราคุยกันแล้วว่าอยากจัดงานแต่งที่ดูเรียบง่าย ไม่ต้องมีพิธีอะไรเยอะ อยากให้ทุกคนมางานและสนุก อบอุ่น เป็นกันเอง"
หลังจากที่ได้คุกเข่าขอแต่งงานไป ได้มีพูดคุยกับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายยังไงบ้าง ?
น้ำหวาน: “ก็มีนัดกินข้าวและพูดคุยกันทั้ง 2 ครอบครัวค่ะ”
ขอถามถึงเรื่องสินสอด ทั้งหมดมีอะไรบ้าง ?
น้ำหวาน: "สินสอดพี่เขาก็ให้มาแล้วแหละ"
ดร.ณัฐวุฒิ: "ไม่ได้บอกเป็นตัวเลข แต่ให้เป็นของชิ้นใหญ่ที่เจ้าสาวอยากได้มาตั้งแต่เด็กๆ อีกอย่างผมไม่ได้มองว่าสินสอดต้องเป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่ผมมองว่าทั้งชีวิตที่เราหามาได้ นั่นคือสินสอดที่เราจะให้เขาครับ"
เรือนหอตอนนี้เสร็จพร้อมเข้าอยู่หรือยัง ?
ดร.ณัฐวุฒิ: "ผมมีบ้านของตัวเอง พอแต่งงานกันไปผมก็อยากให้เขาเข้าไปอยู่ที่บ้าน แต่ก็มีแพลนว่าจะสร้างบ้านให้เขาเพิ่มด้วย ก็รอให้เป็นเรื่องของอนาคต”
น้ำหวาน: "หลังจากนี้เราก็คงใช้ชีวิตปกติอย่างที่เคยใช้มา เราก็มีวางแพลนกันไว้ว่าอาจจะมีไปฮันนีมูนกันที่ยุโรปค่ะ เล็งไว้ว่าน่าจะประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ แต่ไปช่วงเดือนไหนนั้นคงต้องรอดูคิวก่อน”
หลังจากแต่งงานแล้ว เจ้าบ่าวต้องช่วยสกรีนงานในวงการเพิ่มไหม ?
น้ำหวาน: "ไม่ค่ะ คือหลังจากแต่งงานแล้วหนูก็ยังรับงานปกติ ส่วนในเรื่องของความเซ็กซี่ เวลาเราไปออกงานก็จะเซ็กซี่อยู่แล้ว พี่เขาก็ไม่ได้ติ แต่ถ้าอาจจะมีในส่วนของชุดว่ายน้ำก็คงต้องมีคุยกันบ้าง แต่ปกติพี่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรค่ะ"
ดร.ณัฐวุฒิ: "ทำใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วครับ ตั้งแต่ที่เขาเข้าวงการ"
น้ำหวาน: “คือจริงๆ เราคุยเรื่องแต่งงานไว้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว มีคุยกับผู้ใหญ่ไว้แล้วด้วย ซึ่งพี่เขาก็ไม่ได้ติดอะไร ฝั่งพี่เขาพร้อม แต่ถ้ามาในฝั่งของหนูก็จะติดเรื่องที่เราเพิ่งเข้าวงการ แล้วอยู่ดีๆ เราจะแต่งงานเลย ละครก็ยังถ่ายอยู่ แรกๆ เราก็กังวลว่ามันจะเป็นปัญหาอะไรไหม เราก็มีปรึกษากับทางผู้จัดการส่วนตัวว่า หากวันหนึ่งหนูจะแต่งงานจะติดหรือปัญหาอะไรหรือเปล่า ซึ่งพี่เขาก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะการแต่งงานมันคือชีวิตเรา อีกก้าวของเรา“
วางแผนมีทายาทเลยไหม ?
น้ำหวาน: "ยังค่ะ เพราะหนูก็เพิ่งเข้าวงการ และยังอยากที่จะทำงานตรงนี้ หาประสบการณ์ตรงนี้ก่อน เหมือนโอกาสมันเข้ามาแล้ว ก็อยากจะทำตรงนี้ให้มันดี ส่วนเรื่องลูกก็คุยกันไว้น่าจะอีกประมาณ 4 ปี สักพักใหญ่ๆ เลยค่ะ"
ดร.ณัฐวุฒิ: "เอาให้ทุกอย่างลงตัวให้หมดก่อน ก็น่าจะโอเคค่ะ"
หลายคนยังไม่เคยทราบว่าเรารู้จักกันได้ยังไง ?
ดร.ณัฐวุฒิ: "ผมกับน้ำหวานเราคบกันมาประมาณ 5 ปีครับ ก็มีทั้งคบและเลิก แต่จุดเริ่มต้นคือน้องเขาไปประกวดรายการหนึ่งทางช่อง 3 เลยมีโอกาสได้เจอเขา คือตอนนั้นเหมือนเขาเป็นเด็กคนหนึ่งที่เข้าไปเทรนหรือเข้าไปเรียน เราเห็นก็รู้สึกว่าน้องคนนี้น่ารัก จึงให้ทีมงานเข้าไปคุยให้ จากนั้นเลยได้คุยกัน ได้เป็นเพื่อนและสานต่อไปเรื่อยๆ"
ความประทับใจอะไรที่เราตัดสินใจอยากแต่งงานและอยู่ด้วยกัน ?
น้ำหวาน: "มันถึงจุดแล้วด้วย และพี่เขาก็ทำให้เรารู้ว่าคนนี้แหละที่จะมาดูแลปกป้องเราได้ ไม่ใช่ด้วยคำพูดที่พูดว่า ฉันจะดูแลเธอนะ ฉันจะปกป้องเธอนะ แต่พี่เขาทำทุกอย่างให้เราเห็นว่าเขาพร้อมที่จะปกป้องหรือดูแลครอบครัวเราด้วย"
ดร.ณัฐวุฒิ: "ทุกครั้งที่เลิกกันก็จะเห็นข้อเสียที่ทำให้เราเลิก แต่ทุกครั้งที่กลับมาเพราะข้อเสียต่างๆ มันโดนแก้ไขหมดแล้ว เขาจะดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น จนทำให้เรารู้สึกว่าความเป็นผู้ใหญ่ของเขาในแต่ละก้าวมันทำให้เรารู้สึกว่าวันนี้น่าจะถึงวันที่เราใช้คำว่าครอบครัวด้วยกันได้แล้ว"
เห็นบอกว่าก่อนหน้านี้เคยเลิกกันมาก่อน ?
ดร.ณัฐวุฒิ: "เราเลิกกันมา 2 รอบแล้วครับ คือคงจะคล้ายๆ กับหลายคู่ที่วันหนึ่งเราเจอปัญหา และตัดสินปัญหาด้วยวิธีการบอกเลิกกัน สุดท้ายคนที่คู่กันก็ต้องกลับมาคุยกัน มันจะมีเหตุการณ์ต่างๆ ที่ทำให้เราได้กลับมาคุยกันเสมอ"
วันนี้ได้แต่งงานแล้ว 2 ครอบครัวดีใจมากไหม ?
ดร.ณัฐวุฒิ: “ที่บ้านก็โอเค เพราะทุกครั้งที่มีแฟนก็จะเล่าให้ที่บ้านฟัง พอเจอคนนี้ก็เล่าให้ฟัง เราใช้ช่วงเวลา 5 ปี ในการที่ปรับ และทำให้ครอบครัวได้รู้จักว่าผู้หญิงคนนี้เป็นยังไง เหมือนกันเวลาที่เราไปที่บ้านของผู้หญิงก็พยายามจะแนะนำตัวและเทคแคร์ ผมเชื่อว่าถ้า 2 ครอบครัวมารวมกันก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร อีกอย่างทั้ง 2 บ้านก็ไม่ได้มีความเยอะหรือจุกจิกอะไร เขาแค่มองว่าเด็ก 2 คนรักกัน และถึงเวลาที่สามารถมีครอบครัวหรือหาเลี้ยงตัวเอง สร้างอนาคตด้วยกันได้ ก็น่าจะถึงเวลาแล้ว"
แต่ทั้ง 2 ครอบครัวไม่ได้เร่งอยากให้มีหลานไวๆ ใช่ไหม ?
ดร.ณัฐวุฒิ: "เขาบอกว่าเอาไว้เป็นเรื่องของธรรมชาติ ถ้าวันหนึ่งมีก็คือมี"
ได้ให้คำมั่นสัญญาอะไรต่อกันไหม ?
ดร.ณัฐวุฒิ: "จริงๆ คำว่าสัญญาของผมมันคงคล้ายๆ กับคนรักหลายๆ คน วันนี้ถือว่าเป็นวันสำคัญที่สุดอีกวันหนึ่งของชีวิตที่ได้เอาผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาอยู่ในชีวิตเรา แค่สัญญาว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุดครับ เป้าหมายของผมคือทำให้คนรอบข้างที่เรารักมีความสุขที่สุด ก็จะต้องมีทั้งแฟน คนในครอบครัวเรา และคนในครอบครัวเขา”
น้ำหวาน: "ไม่เคยพูดเลยนะเนี่ย (หัวเราะ) คำมั่นสัญญาหนูไม่ได้มีอะไร แต่จะบอกกับพี่เขาเสมอว่า เวลาที่พี่เขามีปัญหา หรือเวลาที่ไม่สบายใจ หรืออะไรก็ตาม หนูก็จะอยู่ข้างตรงๆ นี้ ไม่ไปไหนแล้ว (ยิ้ม) ไม่เคยพูดเลย คือเหมือนที่ผ่านมาเราคบกันแบบเพื่อน แบบพี่ ไม่ได้คบกันแบบ ฉันเป็นแฟนเธอ วันนี้เธอห้ามออกจากบ้าน จะไปไหนต้องกลับเร็ว คือเขาจะเป็นคนแบบวันนี้ไปเที่ยวเหรอ โอเคไป จะไม่ห้าม เราคบแล้วสบายใจ คุยกันได้ทุกเรื่อง เราไม่เคยต้องมานั่งพูด แต่อย่างที่บอกไป หนูกับพี่เขาผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมากแล้ว และพอมันมาถึงวันนี้ที่พี่เขาและหนูได้มายืนอยู่ตรงนี้ หนูว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดีแล้ว”
อัลบั้มภาพ 17 ภาพ