"แอน สิเรียม" กับเหตุผลเบื้องลึก ในวันที่รักล่มเลิกกับนักร้อง "บิลลี่ โอแกน"

"แอน สิเรียม" กับเหตุผลเบื้องลึก ในวันที่รักล่มเลิกกับนักร้อง "บิลลี่ โอแกน"

"แอน สิเรียม" กับเหตุผลเบื้องลึก ในวันที่รักล่มเลิกกับนักร้อง "บิลลี่ โอแกน"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นับเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่หลายคนให้ความสนใจมาโดยตลอด สำหรับ "แอน สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์" คุณแม่ยังสาววัย 46 ปี เพราะไม่เพียงแต่จะคร่ำหวอดในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน และพิสูจน์ฝีมือผ่านผลงานการแสดงมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว เธอยังมีอีกหนึ่งบทบาทก็คือ การผู้จัดฯ ครั้งแรกในชีวิตกับละครเรื่อง "เสน่หามายา"

แต่ขณะเดียวกันเรื่องความรักของเจ้าตัวก็ยังเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายคนอยากรู้ และให้ความสนใจ โดยล่าสุดทางด้าน "แอน สิเรียม" ถือโอกาสออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือก เกี่ยวกับเรื่องราวความรัก และชีวิตที่ผ่านมา ในรายการ “คลับ ฟรายเดย์ โชว์” ช่อง GMM25 

โดย “แอน สิเรียม” เล่าว่า “แอนเข้าวงการจากภาพยนตร์ก่อนค่ะ เรื่องแรกกับคุณบิลลี่ โอแกน เรื่องรักซึมลึก ตอนนั้นคือแบบเด็กมาก แล้วจากคู่จิ้นก็ไม่ใช่คู่จิ้นธรรมดา วันหนึ่งกลายมาเป็นคู่รัก เพราะเราชอบกันจริง ๆ เป็นความรักครั้งแรกในชีวิตเรา ตอนที่ตัดสินใจเลิกกับคุณบิลลี่ เพราะเราคิดว่า ถ้าเราจะต้องอยู่เพราะเราทนอยู่ มันไม่มีอะไรดีขึ้น”

“ส่วนตอนที่แต่งงานครั้งที่สอง เราก็ใช้เวลาตัดสินใจไม่ค่อยนาน แล้วสุดท้ายพอมันไปด้วยกันไม่ได้ เราก็ยอมรับความจริง ใคร ๆ ก็อยากมีผัวเดียวเมียเดียวนะคะ และการที่ชีวิตแต่งงานล้มเหลวถึง 2 ครั้ง ก็เลยมีความคิดว่า ชีวิตนี้เราจะไม่แต่งงานแล้ว จนมาถึงจุดเปลี่ยนในชีวิตที่เราส่งลูกไปเรียนเมืองนอก เราเลยกล้าตัดสินใจว่าจะทิ้งทุกอย่างแล้วไปอยู่กับเขา เพราะมันมีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก ลูกพูดกับเราว่าเราไม่มีเวลาให้ ไม่ได้ให้ในสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ ทำให้เรามีความรู้สึกว่า ฉันไม่ใช่แม่ที่ดี ซึ่งเรายอมไม่ได้ เลยพิสูจน์ให้เขาเห็นว่า เราเป็นแม่ที่ดีได้ ทำให้เขาเห็นว่า เราทิ้งทุกอย่างได้เพราะเขาจริง ๆ”  

สามารถติดตามชมเรื่องราวความรักของ “แอน สิเรียม” ได้ในรายการ “คลับ ฟรายเดย์ โชว์” วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม 2561 เวลา 18.20-20.00 น. ทางช่อง GMM25

 

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ "แอน สิเรียม" กับเหตุผลเบื้องลึก ในวันที่รักล่มเลิกกับนักร้อง "บิลลี่ โอแกน"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook