ย้อนรอยไทม์ไลน์ แก๊งเปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ เริ่มต้นถึงวันศาลพิพากษา

ย้อนรอยไทม์ไลน์ แก๊งเปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ เริ่มต้นถึงวันศาลพิพากษา

ย้อนรอยไทม์ไลน์ แก๊งเปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ เริ่มต้นถึงวันศาลพิพากษา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกือบจะครบ 1 ปีของคดีสุดสะเทือนขวัญสังคมไทย ฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม วัย 22 ปี สาวร้านคาราโอเกะที่ถูกกระทำอย่างเหี้ยมโหด นำทีมโดย เปรี้ยว, เอิร์น, แจ้, เบนซ์ และ วศิน ซึ่งจับยัดใส่ถุงดำและฝันดินใน อ.เขาสวนวาง จ.ขอนแก่น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา คดีนี้ยังคงได้รับความสนใจจากคนไทยอย่างต่อเนื่อง กระทั่งถึงวันพิพากษาคำตัดสินของศาลชั้นต้น นับเป็นอีกหนึ่งคดีดังในประวัติศาสตร์เหตุอาชญากรรมของเมืองไทย

25 พฤษภาคม 2560
เจ้าห้นาที่ตำรวจพบศพ น้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวร้านคาราโอเกะ ถูกฆ่าหั่นศพ ยัดในถังแล้วฝังดิน ในป่าละเมาะ อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น

26 พฤษภาคม 2560
จากการสอบปากคำสามีของน้องแอ๋ม ไม่พบพิรุธใด ยืนยันว่าครั้งล่าสุดที่ได้คุยกันคือเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม เวลา 23.47 น.

27 พฤษภาคม 2560
เจ้าหน้าที่เรียก "ทอมน้ำฝน" มาสอบสวน หลังพบภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะพา "น้องแอ๋ม" ไปกดเงินในคืนวันที่ 22 พฤษภาคม ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ก่อนจะไปเที่ยวกันถึงเวลาประมาณ 04.00 น. วันถัดไป

ahr0cdovl3blmi5pc2fub29rlmnvb

28 พฤษภาคม 2560
ผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน ได้ไปเจอ นายเก้า (ชายไทย ผู้ต้องหาคดียาเสพติด) และได้พาออกจากร้านไป ก่อนที่ทั้ง 3 คน แยกกับนายเก้าและหลบหนีต่อด้วยตัวเอง โดยหนีไปอยู่บ้านร้าง ในพื้นที่บ้านแม่ขาว ใต้สะพานไทย-เมียนมา แห่งที่ 2

29 พฤษภาคม 2560
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหา ได้แก่ นายวศิน , น.ส.เปรี้ยว , น.ส.เอิร์น และ น.ส.เบนซ์

30 พฤษภาคม 2560
พยานใกล้ชิดให้การว่า น.ส.เปรี้ยว ยอมรับว่าเป็นคนลงมือฆ่าน้องแอ๋ม และหลบหนีไปที่ฝั่งเมียนมาแล้ว และในวันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายวศิน ได้ที่ สปป.ลาว ซึ่งเจ้าตัวอ้างแค่เป็นเพียงคนขับรถให้ ไม่เกี่ยวกับการฆ่าน้องแอ๋ม พร้อมกับซัดทอด น.ส.แจ้ ว่าเป็นหนึ่งในทีมฆาตกรรม แต่ยังไม่ถูกออกหมายจับ

10

31 พฤษภาคม 2560
เจ้าหน้าที่ตำรวจขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหารายที่ 5 คือ น.ส.แจ้ ซึ่งเป็นเพื่อนกับ น.ส.เปรี้ยว ขณะที่ น.ส.เบนซ์ แฟนของนายวศิน บอกไม่เกี่ยวฆ่าหั่นศพ เพราะช่วงที่เกิดเหตุอยู่กรุงเทพฯ แต่ยอมรับนำทรัพย์สินผู้ตายไปขาย

3 มิถุนายน 2560
ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ตัดสินใจออกจากบ้านร้าง เวลาประมาณ 19.49 น. วงจรปิดจับภาพได้ที่ตลาดท่าล้อ ก่อนนั่งรถตุ๊กตุ๊กไปที่สภ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อมอบตัว เวลาประมาณ 20.30 น. ต่อมาในเวลา 21.30 น. ทางการเมียนมาส่งมอบตัวผู้ต้องหาที่กลางสะพานด่านแม่สาย ก่อนนำตัวทั้ง 3 คนมาที่สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น

4 มิถุนายน 2560
เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มาสอบสวนและแถลงข่าวที่ กทม. โดยทั้งหมดยอมรับสารภาพ อ้างมาจากความแค้นส่วนตัว โดยที่ น.ส.เปรี้ยว เป็นคนลงมือฆ่า และ ตัดสินใจหั่นศพเพื่อทำลายหลักฐาน โดยมีนายวศินเป็นผู้ลงมือหั่นด้วย

news17(2)

5 มิถุนายน 2560
เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เปรี้ยว เอิร์น แจ้ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้ง 8 จุด เริ่มที่รีสอร์ตซึ่งเป็นจุดหั่นแยกชิ้นส่วนศพ และถูกนำตัวส่งเข้าเรือนจำ

22 สิงหาคม 2560
อัยการส่งสำนวนคดี สั่งฟ้องแก๊งฆ่าหั่นศพ ได้แก่ เปรี้ยว เอิน แจ้ วศิน โดน 5 ข้อหาหนัก ขณะที่ เบนซ์ โดนแค่เพียงข้อหาลักทรัพย์

23 สิงหาคม 2560
ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดสอบคำให้การครั้งแรก ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง เปรี้ยวและพรรคพวก ได้กลับคำให้การ ปฏิเสธฆ่าหั่นศพ ขณะที่อัยการคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด

xsvdf

19 กันยายน 2560
ศาลจังหวัดขอนแก่น นัดสอบพยานและตรวจเอกสารหลักฐานในคดีนี้อีกครั้ง โดยในครั้งนี้ เปรี้ยวและพรรคพวกได้เผชิญหน้ากับครอบครัวผู้เสียชีวิตในชั้นศาล ได้กราบขอขมาและขอโทษทุกคน

20 กุมภาพันธ์ 2561
ศาลจังหวัดขอนแก่น เริ่มนัดสืบพยานและไต่สวนคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋มเป็นวันแรก เบนซ์ หนึ่งในผู้ต้องหาได้กลับคำให้การ สารภาพต่อหน้าศาลว่าได้ร่วมมือก่อเหตุฆ่าหั่นศพด้วย

21 กุมภาพันธ์ 2561
ในวันที่ 2 ของการนัดสืบพยานและไต่สวนคดีฆ่าหั่นศพ เปรี้ยว ยืนยันไม่ได้ฆ่าหั่นศพ ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน รับสารภาพแค่เพียงร่วมกันทำลายศพเพียงเท่านั้น

news17(1)

27 กุมภาพันธ์ 2561
เปรี้ยว และพรรคพวกที่ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ จ่ายค่าทำบุญให้ น้องแอ๋ม เป็นจำนวนเงิน 55,000 บาท

14 มีนาคม 2561
วันสุดท้ายของการสืบพยานโจทก์คดีฆ่าหั่นศพ ปรากฏว่า เปรี้ยว ได้ยอมรับสารภาพเพียงข้อหาเดียว คือ หั่นศพแต่ไม่ได้ฆ่า ศาลได้นัดฟังคำพิพากษาคดีในวันที่ 29 มิถุนายน 2561

8 พฤษภาคม 2561
ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้มีคำสั่ง เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาจากเดิมวันที่ 29 มิถุนายน 2561 มาเป็นวัน 10 พฤษภาคม 2561 แทน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook