สหรัฐฯ ตั้งเป้าเป็น “ชาติแรก” ที่ส่งมนุษย์เดินทางสู่ “ดาวอังคาร”
นาซ่าแถลงภารกิจการกลับไปดวงจันทร์ครั้งใหม่ จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจดาวอังคารของมนุษย์ในอนาคต
“จิม ไบรเดนสตีน” ผู้อำนวยการองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) กล่าวในที่ประชุมโครงการมนุษย์สู่ดาวอังคาร ที่วอชิงตัน ดี.ซี. ว่า ภารกิจการกลับไปดวงจันทร์ของสหรัฐฯ จะเป็นโครงการที่สนับสนุนและเป็นโครงการที่จะต่อยอดในการเดินทางไปยังดาวอังคาร โดยสหรัฐฯ ตั้งเป้าว่าจะเป็นชาติแรกในการส่งมนุษย์ไปเหยียบดาวอังคาร
“วิสัยทัศน์ของท่านประธานาธิบดีเน้นย้ำให้เห็นว่าโครงการสำรวจอวกาศของเราจะทำให้เราเป็นผู้นำในการส่งมนุษย์ไปสำรวจดาวอังคาร ปัจจุบันพวกเรากำลังทำโครงการสำรวจดวงจันทร์และดาวอังคารควบคู่กันไป และภารกิจเหล่านี้จะเป็นโครงการที่สนับสนุนกันและกัน”
นอกจากนี้ เขายังกล่าวอีกว่า ในความเป็นจริงแล้ว การกลับไปดวงจันทร์จะทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีทั้งระบบการลงจอดของยาน การศึกษาพื้นผิว การเคลื่อนที่บนพื้นผิวของดาว รวมไปถึงการพัฒนาอุปกรณ์ที่ช่วยสนับสนุนการเดินทางในระยะยาว ซึ่งจะทำให้เราเป็นชาติแรกที่สามารถเดินทางไปยังดาวอังคารได้ในอนาคต
ไบรเดนสตีนยังกล่าวว่า อย่างเร็วที่สุดภายในเดือน ก.ค. - ส.ค. ปี 2020 จะมีการส่งยานสำรวจดาวอังคารที่สามารถเก็บตัวอย่างหินและดินบนพื้นผิวดาวเคราะห์สีแดงนี้และสามารถส่งตัวอย่างดังกล่าวกลับมายังโลก ซึ่งจะเป็นการสำรวจเพื่อค้นหาสมรรถภาพของสภาพแวดล้อมสำหรับการอยู่อาศัยของมนุษย์
นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังมีการกล่าวถึงแผนการในปี 2033 โดยมีเป้าหมายภารกิจในการสร้างอาณานิคมของมนุษย์บนดาวอังคาร
“เวอรา มัลยานี” เจ้าของบริษัท Marschitect เล่าว่า บริษัททำหน้าที่สำรวจแนวคิดเกี่ยวกับการวางแผนเมืองอย่างยั่งยืนบนดาวเคราะห์ดวงนี้ ซึ่งรวมถึงบ้านที่ประชาชนสามารถอาศัยอยู่ได้ด้วยความรัก โดยเว็บไซต์ของบริษัทเสนอบ้านที่ออกแบบเพื่อรองรับกับสภาวะเรือนกระจกที่รุนแรง รวมไปถึงเสื้อผ้าที่สามารถทำความสะอาดได้ ซึ่งทำจากเส้นใยพลาสติกสามารถกำจัดแบคทีเรียบนดาวอังคารและสามารถดูดซับเหงื่อด้วย
ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลงนามกำกับนโยบายด้านอวกาศของสหรัฐฯ ฉบับใหม่ ซึ่งนโยบายฉบับใหม่นี้สนับสนุนให้มีการส่งนักบินอวกาศเดินทางไปนอกโลกเพื่อสำรวจอวกาศมากขึ้น โดยทรัมป์บอกให้องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ นาซา เตรียมส่งนักบินไปทำภารกิจนี้