ลูกชาย "สันธนะ" เชื่อพ่อโดนแกล้ง เป็นลูกแต่ก็ไม่ชอบนิสัยโผงผางของพ่อ

ลูกชาย "สันธนะ" เชื่อพ่อโดนแกล้ง เป็นลูกแต่ก็ไม่ชอบนิสัยโผงผางของพ่อ

ลูกชาย "สันธนะ" เชื่อพ่อโดนแกล้ง เป็นลูกแต่ก็ไม่ชอบนิสัยโผงผางของพ่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ก่อนหน้าที่ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ในฐานะที่ปรึกษาตลาดใหม่ดอนเมือง จะออกมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (12 พ.ค.) สถานการณ์การติดตามตัวตั้งแต่เมื่อคืนนี้ค่อนข้างเข้มข้น หลังจากที่ศาลได้อนุมัติหมายจับข้อหากรรโชกทรัพย์ พร้อมพวกรวม 11 คน รวมทั้งสิ้น 45 หมาย แต่ยังไม่พบเจอตัว

ต่อมาจึงพบเบาะแสว่า พ.ต.ท.สันธนะ อยู่ที่บ้านพักของบิดา ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบล้อมพื้นที่เอาไว้ โดยมีสื่อมวลชนหลายสำนักเกาะติดสถานการณ์ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.)

พ.ต.ท.สันธนะ ที่เก็บตัวอยู่ภายในบ้าน พร้อมกับยืนยันว่า หาก พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย เดินทางมารับตัวไม่ได้ ก็สามารถส่งตำรวจยศอื่นมาได้ แต่ต้องมีบันทึกการจับกุมอย่างถูกต้อง โดยจะถือว่าเป็นการมอบตัวเอง ไม่ใช่การถูกจับกุม

แต่ระหว่างที่บริเวณหน้าบ้านเต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน ปรากฏว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งปีนประตูรั้วบ้านออกมา ก่อนจะพบว่าชายคนนี้คือ นายพสิฐ ประยูรรัตน์ ลูกชายของ พ.ต.ท.สันธนะ ที่ต้องการออกจากบ้าน เพราะต้องไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในช่วงเช้า แต่เจ้าหน้าที่ต้องกันตัวเอาไว้ตรวจสอบ ยืนยันความสัมพันธ์ก่อน

news12-1

นายพสิฐ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้รู้สึกเป็นห่วงพ่อ กลัวพ่อจะถูกกลั่นแกล้ง เพราะข้อหาที่พ่อได้รับนั้นเป็นเพียงข้อหาเล็กๆ ยอมรับว่านิสัยของพ่อคือเป็นคนพูดมาก ซึ่งตนก็ไม่ค่อยชอบ นิสัยที่โผงผางก็อาจทำให้คนอื่นไม่ชอบได้

สำหรับส่วนตัวเองก็ไม่เห็นด้วยกับบางอย่างที่พ่อตัวเองทำ ถึงตนจะเป็นลูกแต่ก็อยากมีสิทธิ์พูด ส่วนประเด็นที่พ่อโดนกลั่นแกล้ง ตนก็ไม่แน่ใจว่าสาเหตุมาจากอะไร เพราะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของพ่อ

ขณะที่ในเวลาต่อมา พ.ต.ท.สันธนะ ได้ตะโกนออกมาจากช่องประตูรั้วบ้าน ระบุว่า "พวกคุณไม่มีวันได้หรอก เอกสารโคตรโกง" และยืนยันว่า นายพสิฐ คือลูกชายที่ต้องการจะออกจากบ้าน แต่ไม่มีใครเปิดประตูให้ จึงตัดสินใจปีนออกไปเอง

ทั้งนี้ พ.ต.ท.สันธนะ ยังกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือว่า รู้สึกเป็นห่วงในความปลอดภัยของลูกชาย ถ้าทำพ่อไม่ได้ หันไปทำลูก ให้มันรู้ไปประเทศนี้ พร้อมกับฝากฝังให้ทางญาติช่วยดูแลลูกชายและครอบครัวด้วย ส่วนสาเหตุที่มาอยู่บ้านหลังนี้ ก็เพียงเพื่ออยากกราบเท้าพ่อเป็นสิริมงคล ก่อนจะมุ่งหน้าต่อสู้คดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook