นิการากัวปฏิเสธไม่ได้ให้พาสปอร์ต แม้ว
บัวแก้ว แจงทั่วโลกหนุนทักษิณอาจกระทบสัมพันธ์ไทย รบ.ปัดทุ่มงบฯ ลับล่าตัว ทักษิณ ดิ้นหนัก หลังกลุ่มเสื้อแดงพ่าย ถูกตัดสัญญาณดี สเตชั่น ติดต่อขอสัมภาษณ์ออกทีวีเมืองไทยหลายช่อง แต่ถูกปฏิเสธ
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 เมษายนว่า ภายหลังจากรัฐบาล โดยกระทรวงการต่างประเทศยกเลิกหนังสือเดินทางธรรมดาร (พาสปอร์ตเล่มสีแดงเลือดหมู) ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำในการปลุกระดมกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงให้ก่อนเหตุวุ่นวาย กลายเป็นจลาจลในพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายจุด ภายหลังจากหลบหนีการพิพากษา คดีจัดซื้อที่ดินรัชดาภิเษก โดยรัฐบาลได้ประสานไปยังรัฐบาลทั่วโลก รวมทั้งสำนักข่าวต่างประเทศก็ได้นำเสนอข่าวและเหตุดังกล่าว
ในวันเดียวกันนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์และเอพีรายงานจากกรุงมานากัว ประเทศนิการากัว ว่า เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลนิการากัวได้ประกาศตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นทูตพิเศษของประเทศนิการากัว รวมถึงให้ถือหนังสือเดินทางทางการทูตด้วย ในแถลงการณ์ของรัฐบาลนิการากัวยังระบุด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้รับหนังสือเดินทางของประเทศนิการากัว หลังจากได้พบหารือกับประธานาธิบดีแดเนียล ออร์เตก้า แห่งนิการากัว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552 เหตุผลในการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นทูตพิเศษของนิการากัว เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณช่วยดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศนิการากัว ซึ่งถือเป็นชาติยากจนชาติหนึ่งในภูมิภาคอเมริกากลาง
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศเม็กซิโกได้รับหนังสือจากสถานเอกอัครราชทูตนิการากัวประจำประเทศเม็กซิโก ใจความว่า สถานเอกอัครราชทูตนิการากัวประจำเม็กซิโก ขอตอบหนังสือของสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเม็กซิโก ที่ 31001/126/2552 ซึ่งขอความอนุเคราะห์ให้ตรวจสอบรายงานข่าวในสื่อประเทศไทยเกี่ยวกับข้อสันนิษฐานเรื่องการให้สัญชาติ และการถือหนังสือเดินทางนิการากัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนั้น
"สถานเอกอัครราชทูตสาธารณารัฐนิการากัวประจำเม็กซิโก ขอเรียนสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเม็กซิโกว่า ข่าวดังกล่าวเป็นข่าวที่ไม่มีมูล ลงวันที่ 15 เมษายน 2009"
แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า หากประเทศใดก็ตามหากมีการออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องตระหนักให้ดี เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณอยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในไทยช่วงที่ผ่านมา หากประเทศใด ออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณก่อนหน้านี้ก็ควรจะพิจารณายกเลิกหนังสือเดินทางดังกล่าว ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศไทยได้
รัฐบาลปัดทุ่มงบฯลับล่าตัว"แม้ว"กลับประเทศ
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตร เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ถึงการยกเลิกหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณต้องเดินทางกลับประเทศไทยเพียงอย่างเดียว โดยขอหนังสือจำกัดการเดินทางได้ที่สถานทูตทุกแห่งทั่วโลกเพื่อเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าการเดินทางกลับไทยนั้นจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ได้ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเปิดเผย
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.) จะอนุมัติงบฯลับ เพื่อใช้ล่าตัวพ.ต.ท.ทักษิณทั่วโลก โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า คงไม่ใช่ เพราะนั่นไม่ใช่ความสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล แต่จะพิจารณาเรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้ ผู้บาดเจ็บ ทรัพย์สินเสียหาย และเยียวยาประเทศในสายตาประชาคมโลก
"ทักษิณ"ดิ้นขอสัมภาษณ์ออกทีวีเมืองไทย ถูกปฎิเสธ
รัฐบาลไทยเริ่มดำเนินการจำกัดการเคลื่อนไหวและไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ยังหลบหนีคำพิพากษาจำคุก 2 ปีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีซื้อที่ดินถนนรัชดาภิเษก จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินอยู่ต่างประเทศด้วยการสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางและประสานงานให้ตำรวจสากลจับตัวส่งกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณพยายามดิ้นรนด้วยการติดต่อมายังสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆในประเทศไทยเพื่อขอให้สัมภาษณ์ออกอากาศ แต่ได้รับการปฏิเสธ
ผู้สื่อข่าว"มติชนออไนไลน์"รายงานเมื่อวันที่ 15 เมษายนถึงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ หลังจากที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มเสื้อแดงได้ยุติการชุมนุมลงเมื่อวันที่ 14 เมษายน เพราะถูกฝ่ายรัฐบาลใช้มาตรการต่างๆกดดันอย่างหนักรวมถึงการตัดการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดี เสตชั่นของกลุ่มเสื้อแดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้พยายามดิ้นรนต่อสู้ด้วยการติดต่อไปยังผู้สื่อข่าวสายการเมืองหรือกองบรรณาธิการสถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีช่องต่างๆเพื่อขอให้สัมภาษณ์ออกอากาศ แต่ได้รับการปฎิเสธทั้งหมด
แหล่งข่าวระดับสูงในกองบรรณาธิการโทรทัศน์ช่องหนึ่งเปิดเผยว่า เหตุผลที่ต้องปฏิเสธคำขอ ของพ.ต.ท.ทักษิณเนื่องจากอยู้ในช่วงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ทางสถานีจึงต้องระมัดระวังเรื่องนี้อย่างมาก ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องให้ผู้บริหารระดับสูงของสถานีเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่ใช่แค่ระดับกองบรรณาธิการ ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้คงยากที่จะยอมให้ พ.ต.ท.ทักษิณออกอากาศทางโทรทัศน์ของไทยได้โดยตรง
ถอนพาสปอร์ต"ทักษิณ"-เหตุล้มประชุมอาเซียน
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในวันเดียวกันว่า กระทรวงการต่างประเทศได้เพิกถอนหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมาซึ่ง เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ว่า รัฐบาลสามารถยกเลิก หรือถอนหนังสือเดินทางสำหรับบุคคลที่ทำความเสียหายให้กับประเทศได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่พัทยา จ.ชลบุรี(กลุ่มเสื้อแดงบุกเข้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช จนต้องยกเลิกการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจา) เมื่อวันที่ 11 เมษายน เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รัฐบาลตัดสินใจถอนหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ทางกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ชี้แจง
เมื่อถามว่า การยึดพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณจะสร้างแรงกดดันทางการเมืองครั้งใหม่หรือไม่ รองเลขาธิการนายกฯกล่าวว่า หลายฝ่ายคิดตรงกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะได้รับความยุติธรรม หากเดินทางกลับมาต่อสู้คดีในประเทศไทย เพราะไม่มีใครแทรกแซงได้
ตำรวจสากลขึ้นบัญชีดำ-ประสานส่งตัวกลับไทย
เมื่อถามถึงกระแสข่าวองค์กรตำรวจสากลขึ้นบัญชีรายชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ตำรวจต้องการตัว นายปณิธานกล่าวว่า เข้าใจว่า เป็นขั้นตอนการดำเนินการตามปกติ อาจประสานงานกับตำรวจสากล หรือกระทรวงมหาดไทยของประเทศต่างๆ เพื่อขอให้ส่งตัวกลับมาดำเนินการตามกฎหมายไทย
แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงเปิดเผยว่า หลังจากทางการไทยได้ประสานกับองค์การตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ในการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณจากความผิดก่อนหน้านี้ที่หนีคดีที่ดินรัชดาภิเษกหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาจำคุก 2 ปีอยู่ รวมถึงข้อกล่าวหาล่าสุดจากข้อหาล้มล้างรัฐบาล ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณมีชื่ออยู่ใน "เรด โนติส" ของอินเตอร์โพลซึ่งจะมีส่วนช่วยในการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีในไทย และมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจจะเดินทางโดยใช้หนังสือเดินทางประเทศอื่นที่คาดว่ามีอยู่ในความครอบครอง อาทิ นิคารากัว หรือกัมพูชา ซึ่งอาจทำให้ยากลำบากในการติดตามตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเปลี่ยนชื่อผู้ถือหนังสือเดินทางด้วย
นายปณิธานยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศหลายสำนัก เนื้อหาโจมตีรัฐบาลไทยว่าปกปิดยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์จลาจลทางการเมือง พร้อมเรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า รัฐบาลพร้อมเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเสนอข้อเท็จจริงเต็มที่ ส่วนข้อเสนอเรื่องการให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากอยู่ในกรอบที่เคยปฏิบัติมา สามารถทำได้ รัฐบาลเปิดกว้าง ความจริงนายกรัฐมนตรีมีรายการสัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเกือบทุกสำนัก แต่ขณะนี้นายกฯให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาภายในประเทศมากกว่า ต้องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพยายามทำให้ประเทศไทยกลับคืนสู่ภาวะปกติ
บัวแก้วแจ้งทั่วโลกถอนพาสปอร์ต
ขณะที่นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ สั่งยกเลิกหนังสือเดินทางธรรมดาของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 12 เมษายน ตามนโยบายรัฐบาล การดำเนินการดังกล่าวอาศัยอำนาจตามระเบียบ กระทรวงการต่างประเทศ ว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ.2548 ในหมวด 8 ว่าด้วยการยกเลิกหนังสือเดินทาง ข้อ 23 (7) ซึ่งระบุว่า สามารถยกเลิกและเรียกคืนหนังสือเดินทางได้ เมื่อปรากฏภายหลังว่า "พิจารณาเห็นว่า หากให้ผู้ถือหนังสือเดินทางยังคงอยู่ในต่างประเทศต่อไป อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยหรือต่างประเทศได้"
นายธฤตกล่าวว่า การถอนหนังสือเดินทางนี้ไม่ได้กระทบกับความเป็นสัญชาติไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่จะทำให้เดินทางไปประเทศที่สามต่อไปด้วยหนังสือเดินทางไทยไม่ได้ โดยสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้เท่านั้น ด้วยการไปขอให้สถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยในประเทศนั้นๆ ออกเอกสารเดินทางชั่วคราวที่เรียกว่าซีไอให้
รายงานข่าวแจ้งว่า รัฐบาลไทยได้ประสานให้รัฐบาลทั่วโลกทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยการตัดสินใจยกเลิกหนังสือเดินทางครั้งนี้ มีขึ้นหลังกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงบุกเข้าไปยังโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา สถานที่จัดประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา จนรัฐบาลต้องตัดสินใจยกเลิกการประชุม แต่หาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีหนังสือเดินทางประเทศอื่นสามารถใช้หนังสือเดินทางเหล่านั้นต่อไปได้
ส.ส.ประชาธิปัตย์ยื่นทูตดูไบขับ "แม้ว"
นายสมัย เจริญช่าง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เวลา 13.00 น. วันที่ 16 เมษายน ในฐานะชาวมุสลิมและองค์กรชาวมุสลิมหลายองค์กร อาทิ สภาองค์กรมุสลิมแห่งประเทศไทย คณะกรรมการกลางอิสลามกรุงเทพฯ สมาคมสื่อสารชาวมุสลิม จะร่วมกันไปยื่นหนังสือถึงเอกอัครราชทูตของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เรียกร้องขอให้สถานทูตประเทศดังกล่าวส่งเรื่องความเดือดร้อนที่ชาวมุสลิมใน กทม.ได้รับผลกระทบจากการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ และลูกน้องกลุ่มผู้สนับสนุนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปเมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่กลุ่มเสื้อแดงมาทำลายทรัพย์สินและทำร้ายชาวบ้านมุสลิมที่ถนนเพชรบุรี ซอย 7 โดยเฉพาะการยิงปืนใส่มัสยิด ทั้งที่ชาวมุสลิมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไปยังเจ้าผู้ครองนครดูไบ ซึ่งเป็นชาวมุสลิมเช่นกัน เพื่อที่จะให้พระองค์ได้ทราบถึงพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเพื่อไม่ให้ใช้นครดูไบเป็นฐานในการเคลื่อนไหวและเป็นที่พำนัก อีกทั้งไม่ให้สนับสนุนกิจการใดๆ อีกต่อไป เพราะการทำลายมัสยิดก็เหมือนการทำร้ายชาวมุสลิมทั่วโลก
ปชป.เผยร่อนหมายจับ "ทักษิณ"ให้ทั่วโลก
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะทำงานปฏิบัติการประเมินสถานการณ์การเมืองพรรคประชาธิปัตย์ (วอร์รูม) ว่า พรรคได้รับกำลังใจจากประชาชนที่โทรศัพท์เข้ามามากมาย และเห็นว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นแนวทางที่ถูกต้อง และขอเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณยุติบทบาทเพื่อปัญหาทุกอย่างจบไป ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศส่งหนังสือเวียนไปยังมิตรประเทศให้ทราบถึงพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ และสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไปจนถึงการแจ้งให้ทุกประเทศทราบถึงหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณฉบับล่าสุดในคดีล้มล้างรัฐบาล ซึ่งได้ประสานไปยังตำรวจสากลเพื่อให้จับกุม พ.ต.ท.ทักษิณมาดำเนินคดีตามกฎหมายไทย โดยทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับทราบและยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่า จะไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทย แต่ก็สามารถทำข้อตกลงระหว่างสองประเทศเพื่อให้ตำรวจสากลเข้าจับกุมตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้
นายเทพไทกล่าวว่า ส่วนกรณีที่ลิ่วล้อ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า มีภาพของทหารที่ยิงปืนใส่ประชาชน แต่ไม่ยอมเปิดเผย โดยอ้างว่าอยู่ในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธานมูลนิธิบ้านเลขที่ 111 รับแจ้งข้อมูลคนหาย และมีภาพของทหารลากศพพระภิกษุสงฆ์ไปซุกซ่อนไว้นั้น ขอเรียกร้องให้เปิดเผยภาพดังกล่าวออกมา เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ห้ามการเปิดเผยข้อเท็จจริง เพราะเรื่องนี้เป็นการโยนความผิดให้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยที่ตัวเองไม่มีภาพถ่ายนั้นอยู่ในมือ เพราะตรวจสอบทุกภาพแล้วไม่ปรากฏภาพนี้
อธิบดีอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศเชื่อตามตัวง่ายขึ้น
ด้าน นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ ในฐานะคณะทำงานอัยการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เมื่อกระทรวงการต่างประเทศของไทย มีคำสั่งเพิกถอนพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องถูกจำกัดสิทธิ คาดว่าจะทำให้หาที่อยู่ พ.ต.ท.ทักษิณได้ง่ายขึ้นอีก ส่วนประเทศไทยไม่มีข้อตกลงสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่สืบหาถิ่นที่อยู่ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ชัดเจนในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ ก็น่าจะประสานขอความร่วมมือโดยใช้วิธีการต่างตอบแทนระหว่างรัฐต่อรัฐได้ ซึ่งก็ต้องรอดูว่าประเทศผู้ถูกร้องขอจะรับดำเนินการให้หรือไม่
"เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะทำงานประชุมกันแล้วมีความเห็นควรทำหนังสือทวงถามความคืบหน้าไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หน่วยงานรับผิดชอบตามหมายจับของศาลฎีกาฯโดยตรง ขอให้ ตร.สืบหาและแจ้งถิ่นที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณในต่างประเทศที่ชัดเจนให้คณะทำงานอัยการเพื่อดำเนินการต่อ และขอให้ ตร.แต่งตั้งบุคคลขึ้นมาเป็นผู้แทนที่ชัดเจนเพื่อประสานงานกับคณะทำงานโดยตรง ที่ผ่านมาเป็นการส่งหนังสือไปยังสำนักงานไม่รู้ว่าตกอยู่กองไหนทำให้เกิดความล่าช้า" นายศิริศักดิ์กล่าว
กุนซือเชื่อ"แม้ว"ใช้เว็บแจงสื่อนอก
นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงการถอดพาสปอร์ต พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เชื่อว่าไม่กระทบต่อการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะมีหนังสือเดินทางของประเทศอื่นอยู่ด้วย ส่วนกรณีรายงานข่าวระบุชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกขึ้นบัญชี "หมายแดง" หรือ "Red Notice" ในเว็บไซต์ขององค์การตำรวจสากลนั้น ยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้ แต่เข้าใจว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาล กำลังดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณมีความยุ่งยากมากขึ้น ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะชี้แจงข้อเท็จจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยอาจจะทำหนังสือส่งไปยังสำนักข่าวในต่างประเทศ หรือแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์