แม่ใจสลาย เพิ่งส่งผัวเข้าคุกคดีข่มขืนลูกสาว เพิ่งรู้ปู่แท้ๆ ผสมโรงด้วย

แม่พาลูกสาว 10 ขวบขึ้นโรงพักรอบสอง หลังเคยแจ้งจับสามีก่อเหตุข่มขืนลูกในไส้กว่า 2 ปี กระทั่งแม่ไปเห็นได้คาหนังคาเขา ซ้ำร้ายเพิ่งขยายผลทราบว่า ปู่แท้ๆ ก็ร่วมข่มขืนเด็กหญิงเช่นเดียวกัน

(12 พ.ค.) น.ส.เก๋ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี ได้พา ด.ญ.นิด (นามสมมติ) อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.5 เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน อีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา เคยพาลูกสาวเข้าแจ้งความจับกุม นายนิรุต อายุ 31 ปี ผู้เป็นสามีและเป็นพ่อแท้ๆ ของด.ญ.นิด ที่ก่อเหตุข่มขืนลูกสาวมานานกว่า 2 ปี

แต่สำหรับในวันนี้ได้เข้าแจ้งความให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับ นายวิโรจน์ อายุ 52 ปี พนักงานเก็บขยะของ อบต.แห่งหนึ่ง และมีศักดิ์เป็นปู่แท้ๆ ของ ด.ญ.นิด ที่ร่วมก่อเหตุข่มขืนลูกสาวตนเองมานานกว่า 3 เดือน

น.ส.เก๋ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนกับนายนิรุต พร้อมด้วยลูกสาวอีก 2 คน คือ ด.ญ.นิด ลูกสาวคนโต อายุ 10 ขวบ และลูกสาวคนเล็กอายุ 6 ขวบ นอนกันอยู่ในห้องพักริมถนนปานวิถี ตรงข้ามกับ อบต.คลองด่าน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ตนได้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึก แต่ไม่พบสามีกับลูกสาว จึงลุกออกไปหาที่ชานหลังบ้าน

ปรากฏว่าเห็นภาพสามีกำลังมีเพศสัมพันธ์อยู่กับลูกสาว เมื่อสามีเห็นตนจึงรีบเดินหนีออกไปทางหลังบ้าน ส่วนลูกส่วนวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ตนจึงเค้นถามว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งลูกสาวบอกว่าพ่อข่มขืนหนู พอเช้าวันรุ่งขึ้นตนจึงพาลูกสาวไปแจ้งความดำเนินคดีกับสามีตัวเอง กระทั่งเจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายนิรุต ดำเนินคดีและต้องขังที่เรือนจำกลางสมุทรปราการไปเป็นที่เรียบร้อย

แต่เรื่องกลับยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะระหว่างการสอบสวน ทางเจ้าหน้าที่กลับพบว่ายังมี นายวิโรจน์ ที่มีศักดิ์เป็นปู่แท้ๆ ของ ด.ญ.นิด ก็ร่วมก่อเหตุข่มขืนลูกสาวของตนเช่นเดียวกัน เมื่อตนทราบข่าวตนรู้สึกชอกช้ำจุกในอก แทบพูดไม่ออก เพราะการที่พ่อข่มขืนลูกในไส้น่าจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดแล้ว ยังพบว่าปู่แท้ๆ ก็ยังมาก่อเหตุซ้ำอีก

เบื้องต้นจากการสอบถามลูกสาวเล่าให้ตนฟังว่า ปู่เพิ่งเริ่มข่มขืนกระทำชำเราเมื่อราวๆ 3 เดือนที่ผ่านมา และครั้งหลังสุดที่ก่อเหตุคือช่วงบ่ายวันเดียวกัน ก่อนที่จะถูกพ่อข่มขืนในช่วงกลางดึก ขณะนี้ตนต้องพาลูกสาวทั้ง 2 คน ไปอาศัยนอนบ้านเถ้าแก่ เพราะหากนอนที่บ้านก็เกรงว่าตนและลูกสาวทั้ง 2 คนจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากผู้ก่อเหตุทั้งคู่เป็นคนพื้นที่ และเป็นพ่อลูกกัน มีญาติพี่น้องมากมาย

โดยหลังเรื่องนี้จบตนคงจะย้ายพาลูกสาวทั้ง 2 คนไปอาศัยอยู่ที่อื่น เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นดังไปทั่วตำบลคลองด่าน ตนกลัวที่สุดคือหากเปิดเทอมแล้ว ลูกสาวทั้ง 2 คนต้องไปโรงเรียน อาจถูกเพื่อนๆ ที่โรงเรียนล้อเลียน หรือแสดงท่าทีรังเกียจ ทำให้คนแม่เป็นทุกข์มาก

ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน ได้สอบปากคำทั้ง 2 แม่ลูกแล้ว เพื่อรวบรวมหลักฐานในการขออนุมัติหมายจับ นายวิโรจน์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป