สรุปข่าวเด่นรอบสัปดาห์ ประจำวันที่ 6-12 พ.ค. 2561

สรุปข่าวเด่นรอบสัปดาห์ ประจำวันที่ 6-12 พ.ค. 2561

สรุปข่าวเด่นรอบสัปดาห์ ประจำวันที่ 6-12 พ.ค. 2561
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงมีข่าวคราวที่น่าสนใจมากมาย หากใครพลาดการติดตามไปบ้าง วันนี้ Sanook.com รวบรวมข่าวเด่นข่าวเด็ดมาให้ติดตามกันตรงนี้แล้ว ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีเรื่องราวอะไรบ้าง

 

>>> "สันธนะ" มอบตัว หลังตำรวจกดดันปิดล้อมบ้าน คุมตัวไป สน.โชคชัย <<<

ชื่อของ "พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์" ถือว่าครอบครองพื้นที่สื่อทุกแขนงมาตลอด นับตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่จาก อย.เปิดปฏิบัติการตรวจค้นตลาดใหม่ดอนเมืองเมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวใช้สถานะของที่ปรึกษาประธานบริษัทที่ดูแลตลาดดังกล่าวเข้ามาตั้งคำถามถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ จนเลยเถิดเกิดความชุลมุนวุ่นวายในระหว่างปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ แต่อีกด้านหนึ่งการตรวจค้นที่ตลาดใหม่ดอนเมืองก็ทำให้เจ้าหน้าที่พบเจอบรรดาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานจำนวนมากเช่นกัน ล่าสุดเมื่อวานนี้ (12 พ.ค. 61) พ.ต.ท.สันธนะเข้ามอบตัวเพื่อสู้คดีเรียบร้อยแล้ว โดยเบื้องต้นถูกออกหมายจับในคดีกรรโชกทรัพย์ 9 หมาย เนื่องจากเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ

 

>>> แฟนกำปั้นช็อก! "น้องเก๋" แยกทาง "แหลม-ศรีสะเกษ" ปิดฉากรัก 14 ปี <<<

กลายเป็นข่าวสั่นสะเทือนวงการหมัดมวยบ้านเราไปเลยทีเดียว เมื่อจู่ๆ "น้องเก๋" พัชรีวรรณ กัณหา แฟนสาวของ "แหลม ศรีสะเกษ" นักชกแชมป์โลกขวัญใจชาวไทย โพสต์เฟซบุ๊กประกาศจบความสัมพันธ์กับพี่แหลม ทั้งที่ทั้งคู่คบหากันมาร่วม 14 ปี แถมยังมีคิวเข้าพิธีวิวาห์ในเร็วๆ นี้ จนกลายเป็นประเด็นดราม่าไฟลามทุ่งอย่างรวดเร็ว เท่านั้นยังไม่พอ วันต่อมา "น้องเก๋" ยังโพสต์เฟซบุ๊กคู่กับภาพชายหนุ่มคนหนึ่งพร้อมบรรยายว่าเป็นคนที่กำลังคุยๆ กันอยู่ หลังจากนั้นโลกออนไลน์ก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ไม่เว้นแม้แต่ครอบครัวของ "แหลม ศรีสะเกษ" ที่นักข่าวไปสอบถามความคิดเห็น ล่าสุดมีประเด็นเรื่องของเงินๆ ทองๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเลิกรากันในครั้งนี้ด้วย ในขณะที่แชมป์โลกของเราอยู่ระหว่างทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยังไม่ได้ออกมาแถลงข่าวอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

 

>>> ผลเลือกตั้งมาเลเซีย “มหาเธร์” มีชัยชนะเหนือ "นาจิบ" ลั่นไม่ได้มาแก้แค้น <<<

ถือว่าพลิกล็อกเลยก็ว่าได้ สำหรับผลการเลือกตั้งของมาเลเซีย เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลที่นำโดยนายนาจิบ ราซัค พ่ายแพ้ให้กับแนวร่วมฝ่ายค้านที่นำทีมโดยนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียผู้เคยประกาศวางมือทางการเมืองมาแล้วก่อนหน้านี้ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากจะส่งผลให้นายมหาเธร์กลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุมากที่สุดในโลกด้วยวัย 92 ปีแล้ว นายนาจิบเองก็อยู่ในสถานการณ์ตกที่นั่งลำบาก เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าตัวเผชิญคำครหามากมายเกี่ยวกับการทุจริตในกองทุน 1 MDB (1 Malaysian Development Berhad) ซึ่งมีรายงานข่าวล่าสุดว่ารัฐบาลใหม่ได้ออกคำสั่งห้ามนายนาจิบเดินทางออกนอกประเทศแล้ว

 

>>> "ลุงตู่" ตื่นเต้น “เนวิน” เปิดสนามช้างฯ พร้อมชาวบุรีรัมย์ 3 หมื่นต้อนรับ <<<

ข้ามกลับมาที่แวดวงการเมืองบ้านเราที่กำลังเข้มข้นไม่แพ้กัน แม้จะยังไม่มีกำหนดการวันเลือกตั้งที่แน่นอนออกมา แต่หลายฝ่ายก็คาดการณ์กันว่าน่าจะมีขึ้นในราวต้นปีหน้า ทำให้บรรดานักการเมืองจากพรรคต่างๆ เริ่มขยับตัวกันแล้ว ในขณะที่ผู้บริหารประเทศในเวลานี้ก็กำลังเดินหน้าวางกลยุทธ์ในทางการเมืองเช่นกัน ที่เห็นๆ กันอยู่คือการเดินสายออกไปประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่หรือที่เรียกว่า ครม.สัญจร ซึ่งต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาเดินทางไปเยือนบุรีรัมย์ เพื่อมอบแนวนโยบายให้กับกลุ่มจังหวัดอีสานใต้ภายใต้ชื่อเรียกขานอันไพเราะว่า "นครชัยบุรินทร์" ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ นั่นเอง งานนี้เจ้าถิ่นอย่าง "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ เปิดสนามช้าง อารีนา เปิดให้ประชาชนราวสามหมื่นคนได้เข้ามาร่วมต้อนรับและส่งเสียงเชียร์ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กันอย่างกึกก้องทีเดียว

 

>>> ศาลพิพากษาจำคุก "เปรี้ยว ฆ่าหั่นศพ" 34 ปี พร้อมสั่งชดเชย 1 ล้าน <<<

หลังคดีฆ่าหั่นศพ "น้องแอ๋ม" น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย สาวคาราโอเกะ ก่อนพบศพเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2560 ใกล้จะครบรอบ 1 ปี ในที่สุดเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย และ น.ส.กวิตา หรือ เอิน ราชดา จำเลยที่ 2 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้นทำลายศพ และร่วมกันลักทรัพย์ แต่คำให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุกคนละ 34 ปี 6 เดือน โดยศาลเห็นว่ามีบางช่วงที่ผู้ต้องหาคิดจะปล่อยลงจากรถ แต่ผู้ตายพูดจาข่มขู่ จำเลยเกิดความกลัวจึงปิดปากปิดจมูก ใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะผู้ตาย จึงไม่ใช่พฤติการณ์ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนนายวศิน หรือ นิว นามพรม จำคุก 23 ปี 4 เดือน 20 วัน น.ส.อภิวันท์ หรือ แจ้ สัตยบัณฑิต พ่วงข้อหายาเสพติด จำคุก 33 ปี 9 เดือน และ น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนท์ พรมคุณ ข้อหารับของโจร จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่นี่เป็นเพียงศาลชั้นต้น ต้องติดตามกันต่อว่าญาติฝั่งผู้ตายและฝั่งจำเลยจะอุทธรณ์คดีหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook