ครอบครัวกร่างขึ้นโรงพักขอโทษตำรวจชื่นมื่น ชาวบ้านตามไล่สาปส่ง

ทนายดังพาครอบครัวหัวร้อน ขอโทษตำรวจถูกชกเบ้าตา ขณะที่กลุ่มชาวบ้านมาบตาพุดรวมตัวขับไล่ อย่ามาเหยียบมาบตาพุดอีก

(16 พ.ค.) เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พาครอบครัวหัวร้อนที่ประกอบด้วย นายพยอม, นางสาวหทัยรัตน์ และ นายอิทธิพล เข้ามามอบกระเช้าขอโทษ พันตำรวจเอกอรรฆพงษ์ สุนทรวิภาค ผู้กำกับการ สภ. มาบตาพุด จ.ระยอง และร้อยตำรวจเอกวิทยา วุฒิพันธ์ รองสารวัตร(จราจร) สภ.มาบตาพุด หลังจากกรณีลูกชายชกเข้าที่เบ้าตา รวมทั้งขอโทษตำรวจสภ. มาบตาพุด ทุกนายในวันนี้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ สุนทรวิภาค ได้กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการทุกคนที่เกี่ยวข้อง ตามคลิปที่เป็นพยานหลักฐานชัดเจนไม่ใช่เฉพาะ 3 คนพ่อแม่ลูก ซึ่งจากการตรวจสอบตามคลิปยังมีคนที่เกี่ยวข้องและต้องดำเนินการทุกคน ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการของพนักงานสอบสวนที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน

ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มยังไม่มี ส่วนคนที่เกี่ยวข้องก็จะเรียกมาสอบสวนและพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สำหรับการมาขอโทษในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมรับการขอโทษ ด้านกฎหมายก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ในวันนี้อยากให้ทุกคนมองว่า กระบวนการยุติธรรมต้องสู้กันด้วยหลักฐาน ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะให้ความยุติธรรมแน่นอน

นางหทัยรัตน์ คุณแม่หัวร้อน ในวันนี้ได้เดินทางมาด้วยสีหน้านิ่งเฉยที่ยังมีความกังวล ในเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมกับกล่าวว่า ทุกวันนี้มรสุมเข้ามากับครอบครัวจากสิ่งที่ทำไป การมาขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ด้วยสำนึกใน สิ่งที่กระทำลงไป ซึ่งจะขอรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาในชั้นศาล และขอวอนสังคมเมตตาและให้อภัยในเหตุที่เกิดขึ้นด้วย

จากการสอบถาม นายพยอม ผู้เป็นพ่อ ถึงผลกระทบในเหตุที่เกิดขึ้น ถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ มีผลต่อความเป็นอยู่ในขณะนี้ ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้มีความกังวลในเรื่องของคดีที่เกิดขึ้นว่าจะเอาอย่างไรกันดี ส่วนเรื่องงานก็ยังคงต้องรอก่อนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทำงานอะไรซึ่งบริษัทใหญ่ที่รับงานอยู่เขาให้พักงานก่อน ในส่วนของงานที่รับเหมาอยู่ที่อื่นผู้จ้างเขาก็แยกแยะว่าเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานเป็นคนละเรื่องกัน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงผลพวงในเครือญาติพี่น้องได้รับผลกระทบ ในเรื่องนี้หรือไม่นายพยอม ได้กล่าวว่าได้รับผลกระทบเต็มๆ พร้อมกับ นางหทัยรัตน์ ก็บอกมีส่วนมากผลกระทบในเรื่องนี้ซึ่งตอนนี้ลุกลามด่าไปถึงญาติพี่น้องแล้ว

ส่วนนายพยอมได้เผยอีกว่า หลังจากที่มาขอโทษตำรวจในวันนี้น่าจะคลี่คลาย กระแสวิพากษ์วิจารณ์ของเรื่องที่เกิดขึ้นได้ค่อนข้างมาก อันดับแรกเลยคือทำให้เรา 3 คน สบายใจเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ทนทุกข์กับสิ่งที่ได้กระทำไป

นายพยอม ยังได้เปิดเผยอีกว่าหลังจากที่เรื่องดังกล่าวคลี่คลายลง ทั้งในเรื่องของคดีและกระบวนการชั้นศาล ก็จะให้ลูกชายบวชเพื่อเป็นการไถ่โทษในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย

ทางด้าน ร.ต.อ.วิทยา วุฒิพันธ์ ได้กล่าวรับการขอโทษว่าไม่โกรธเคืองใดๆ และตำรวจไม่ใช่ศัตรูกับประชาชนแต่ตำรวจคือคนที่ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชน

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้กล่าวในช่วงท้ายขอฝากถึงสังคม ดูครอบครัวนี้เป็นตัวอย่าง และอย่าเลียนแบบ เพราะข้อหาที่ทางเจ้าที่ตำรวจจะแจ้ง สุดท้ายนอกจากจะโดนดำเนินคดีแล้วยังไร้ที่ยืนในสังคมด้วย

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเข้าขอโทษนั้น ได้มีกลุ่มชาวบ้านมาขับไล่กลุ่มผู้ก่อเหตุที่ สภ.มาบตาพุด ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคุ้มครองความปลอดภัยทั้ง 3 คน พ่อแม่ลูกไม่ให้ถูกทำร้าย ก่อนที่ครอบครัวหัวร้อนกลับไป ซึ่งชาวบ้านบางส่วนยังคงรอสาปแช่งในสิ่งที่ครอบครัวหัวร้อนได้กระทำลงไป