หมดสัญญาแกรมมี่เกือบปี วันนี้ ปาล์มมี่ ขอเที่ยวก่อน
ปาล์มมี่ อีฟ ปานเจริญ ลั่นยังหาคนทำงานที่มีทัศนคติตรงกันไม่ได้ ไม่รีบร้อนออกงานเพลง และไม่ต้องการฝืนความรู้สึกตัวเอง หรือหากต้องทำอะไรที่ไม่อยากทำ เลือกที่จะเลิกอาชีพนักร้องดีกว่า เปรยตอนนี้ขอเที่ยว พักผ่อนไปก่อน เผยไม่คิดต่อสัญญากับแกรมมี่
หลังจากหมดสัญญากับแกรมมี่ไปนานเป็นปี มีหลายคนอยากรู้ ว่านักร้องชื่อดัง ปาล์มมี่ จะเข้าค่ายไหน หรือทำงานกับใคร ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าว ว่าเธอจะไปทำงานร่วมกับ บอย โกสิยพงษ์ บางข่าวบอกว่า จะทำงานกับ โอม-ชาตรี คงสุวรรณ ไปอยู่ที่ไหนกันแน่ วันนี้เรามีคำตอบจากปากของเธอ
"มี่หมดสัญญากับแกรมมี่เป็นปีแล้ว ยังไม่ได้ต่อ และไม่คิดจะต่อ เพิ่งเจอ พี่เล็ก (บุษบา ดาวเรือง) ก็คุยกับพี่เล็ก พี่เล็กก็ชวนทำงานเป็นงานเป็นโปรเจกท์พิเศษ ซึ่งก็ยังไม่ได้ตกลงอะไรกัน ตอนนี่มี่ก็ทำเพลงเก็บไว้ ยังไม่ได้คุยกับใครทางธุรกิจเป็นเรื่องเป็นราว เป็นช่วงที่ทำเพลงเก็บไว้ ทำไปเที่ยวไป ว่างก็กลับมาทำ ถ้าพักผ่อนก็พัก ตอนนี้ขอเที่ยวและพักผ่อนเป็นหลัก กลายเป็นคนติดเที่ยวไปแล้ว" นักร้องคนดังกล่าวพร้อมหัวเราะเสียงใส
แล้วที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าได้ลองไปทำงานกับบางคนบางค่ายเป็นอย่างไรบ้าง เธอบอกว่า ลองทำมาแล้วบ้าง แต่ความคิดไม่ค่อยตรงกันในทางที่เธออยากให้เป็น
"ลองหาคนอื่นทำ คือพอเจอใครตามงาน ก็คุยกัน ลองทำกับใครก็ได้ เอาเป็นว่า หลักในการทำอัลบั้ม คุยแล้วลงตัวให้เยอะๆ ซึ่งยังหาคนที่จะเขียนเพลงให้ไม่ได้เลย ตอนนี่มี่ไปไหนคนก็รู้ว่าเราหมดสัญญาก็มีมาคุยๆ แต่มี่ยังไม่สรุปจริงๆ ว่าจะทำกับใคร มีเริ่มๆ บ้าง แต่ยังไม่ชัดเจน" ปาล์มมี่กล่าว
ถามต่อถึงสาเหตุที่ไม่ยอมเซ็นสัญญาต่อกับต้นสังกัดเดิม นักร้องคนเดิมบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า ที่เดิมไม่มีทีมงานที่สนิทใจ ที่สามารถทำงานต่อไปด้วยได้
"ไม่มีคนที่คุยกันถูกคอ หรือมีความเห็นที่ตรงกัน มี่หยุดรับงานโชว์คอนเสิร์ตกลางคืนไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว วันที่ 31 ธันวาคม คือวันที่มี่รับงานโชว์เป็นงานสุดท้าย มี่อยากรับงานที่คุ้มที่จะไป อย่างคอนเสิร์ตของ เอ็มทีวี ชีวิตช่วงนี้ของมี่คือการได้ท่องเที่ยว ไปต่างจังหวัด ได้คิดโน่นคิดนี่ กอบโกยการพักผ่อน ได้เห็นธรรมชาติทั้งในและนอกประเทศ ได้ไปหลายๆ ที่ หัวใจโลดแล่น มี่ได้พักจริงๆ ตอนนี้ติดจะขี้เกียจ (หัวเราะ) บางทียังคิดเลย ว่าหรือว่ามี่อยากทำรายการท่องเที่ยว แต่มี่เป็นคนอธิบายอะไรไม่ค่อยเก่ง มักจะพูดอะไรที่มันเป็นความสัตย์จริง พูดโอเวอร์ไม่ค่อยเป็น และที่สำคัญกลัวเครื่องบิน" ปาล์มมี่แจกแจง
ทั้งนี้ ปาล์มมี่ยอมรับด้วยว่าหลายคนต้องมากดดันกับเธอ เพราะบางครั้งสิ่งที่เขามองมาที่ตัวเธอหรือที่คนอื่นเข้าใจ แตกต่างกับตัวตนของเธอ
"คือที่ผ่านมา ทุกคนจะกดดันไปกับมี่หมด มีคนที่เรารู้จัก หรือสนิทกัน แต่พอมาทำงานด้วยกัน คือสิ่งที่เขามองเรามา กับสิ่งที่เราอยากให้เป็น มันกลับไปด้วยกันไมได้ ฉะนั้นตอนนี้มี่ไม่รีบถ้าไม่มั่นใจหรือมีความรู้สึกอยากทำก็ยังไม่ทำ มี่เชื่อว่าแฟนเพลงของมี่เขาฟังเพลงแล้วเขาจะกลั่นกรองได้เอง ว่ามันเกิดจากความตั้งใจของมี่ มี่ไม่อยากเป็นประเภทที่ว่าไม่อยาก แล้วต้องมาทำ ไม่มีแบบนั้นแน่ มี่ไม่อยากนั่งแกร่ว ทำงานที่ไม่อยากทำ มี่ต้องรู้สึกก่อน ใครไม่อยากหาตังค์ ใครก็อยากได้ตังค์กันทั้งนั้น" มี่กล่าวถึงจุดยืนของตัวเอง
ออกอัลบั้มชุดล่าสุดไปเมื่อปี 2006 จนมาถึงวันนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีผลงานออกมา แถมเธอบอกด้วยว่าปีนี้แฟนเพลงก็จะยังไม่ได้ฟังเพลงของเธอ ถามว่ากลัวหรือไม่ว่าจะถูกลืม ปาล์มี่ตอบเสียงดังฟังชัดว่า ไม่กลัว
"มี่กลัวเพลงไม่ดีมากกว่า กลัวหาคนที่จะมาทำเพลงด้วยกันไม่ได้มากกว่า มี่โตขึ้นมาอายุประมาณหนึ่ง อยากให้แฟนเพลงสามารถเก็บงานเพลงของมี่เอาไว้ได้ มี่ไม่อยากทำเพลงแต่เอาแค่กอบโกย ถ้าคิดแค่นั้น เลิกไปเลยดีกว่า ถ้าไม่มีความภูมิใจ ถ้าต้องร้องเพลงเหมือนคล้ายๆ คนอื่น เลิกทำอาชีพนี้ไปเลยดีกว่า มี่ยอมรับว่าที่ผ่านมาชอบกดดันตัวเอง ตัวมี่เองก็เลยเกร็งไปหมด เป็นคนกลับไปกลับมา ย้ำคิดย้ำทำ ตอนนี้ก็เลยพยายามพักผ่อน เที่ยวไปเรื่อยๆ พยายามปลดปล่อย ทบทวนเรื่องของตัวเอง ถึงเวลามันอาจจะใช่ก็ได้"
ในบทสนทนาช่วงตอนหนึ่ง เธอบอกด้วยว่าครั้งหนึ่งเธอเคยรู้สึกเครียดมาก เพราะไม่ได้ทำงาน แถมไม่ได้เที่ยวด้วย "รู้สึกเครียดมาก มี่ต้องไปสมัครฟิตเนส ตื่นเช้ามาจะได้มีอะไร มี่ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ว่าทำไมถึงยังไม่มีงานออกมา คือถ้ามันมีเพลงดีๆ ลุยไปแล้ว การที่จะหาคนที่ทัศนคติคุยกันได้ หรือการที่จะหาคนหนึ่งที่ทำงานด้วยกัน เราสามารถมีความเห็นได้ โดยที่แบบว่าไม่ต้องมาโกรธกันมันยากมาก แล้วการที่ทำเพลงไปด้วยกัน หรือคุยกันเล่นๆ แต่เกิดงานขึ้นมันก็ยากอีก ไม่ได้หมายความว่า คนที่แต่งเพลงจะเป็นตัวของเขาเองไม่ได้นะ คือเขาเป็นตัวเขาเอง ขณะที่เราขอเป็นตัวเราด้วย เพื่อไปแสดงข้างหน้ากับผู้คนเป็นร้อยเป็นพัน เราอยากจะอินที่เราร้อง
ที่ผ่านมามาตรฐานการทำงาน เริ่มทำงาน โดยพี่โอมให้มี่เป็นส่วนร่วมด้วยตลอด แล้วมาถึงวันนี้มี่อายุเท่านี้ ถ้าใครไม่ให้มี่มีส่วนร่วม ให้มี่แค่ร้อง ให้มี่เลิกอาชีพไปดีกว่า ถ้ามี่ทำได้แบบนั้นมี่สามารถออกอัลบั้มทุกๆ ครึ่งปียังได้ ใครแต่งเพลงมา มี่ก็ร้อง แกรมมี่คงไม่ต้องมาปวดหัวที่มี่เป็นแบบนี้หรอก เขาคงแฮปปี้มากกว่านี้ แต่มี่เป็นคนไม่อยากกล้ำกลืนฝืนทำอะไร" มี่กล่าว
ถามต่อว่าที่บ้านว่าอย่างไรบ้าง ปาล์มมี่หัวเราะ แล้วบอกกลับเราว่า มารดาของเธอชินกับการที่เธอเป็นแบบนี้ แต่ก็อดที่จะถามไถ่ไม่ได้ว่าเมื่อไหร่จะทำงานสักที
"แม่เริ่มสงสัย และก็ถามว่าเป็นไรมากมั้ย ไม่ทำงานหรือลูก แต่เขาก็ชินนะ เขารู้ว่าบทมี่จะทำก็ทำงานทุกวัน ทุกคืนหน้าตาไม่เห็น เคยทำงาน 2 ปีติดกัน แล้วก็หยุด 2 ปีติดกันมาแล้ว ครั้งนี้วนมาเป็นครั้งที่ 3 แม่คงคิด แต่แม่ไม่เคยคาดคั้น" นักร้องชื่อดังกล่าวสรุป