เก็บเห็ดป่าทำแกงกิน เกิดปวดท้องอาเจียน นำส่ง รพ. พบเป็นเห็ดพิษ
หลังจากทาง รพ.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ได้รับผู้ป่วยจากการรับประทานแกงเห็ดทั้งหมด 14 ราย มีอาการคลื่นไส้อาเจียน กระสับกระส่าย เวียนหัว ซึม จึงได้เข้าสอบสวนโรคพบว่า ไม่เข้ารับการรักษาอีก 3 ราย รวม 17 ราย เป็นหญิง 10 ราย ชาย 7 ราย ซึ่งในจำนวน 17 รายนี้ นำส่ง รพ.สตูล จำนวน 3 ราย ซึ่งเห็ดที่นำมารับประทานนั้นเก็บมาจากโคนต้นยางในสวนยาง ม.10 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า
ด้านแพทย์หญิงวันทนา ไทยงาม ผอ.รพ.สตูล กล่าวว่า รพ.สตูล รับผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจาก รพ.ทุ่งหว้า 3 รายขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู เนื่องจากหายใจลำบากติดขัด โดยได้เตือนผู้ที่ชอบรับประทานเห็ด ต้องรู้จักเห็ดหากกินไปแล้วมีอาการทางเดินหายใจ ต้องรีบมา รพ. ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการซึม ท้องเสียและมีอาการทางเดินหายใจ
ต่อมา สำนักงานสาธารณสุข จ.สตูล โดยนายแพทย์สมบัติ ผดุงวิทย์วัฒนา นายแพทย์สาธารณสุข จ.สตูล ได้ประกาศเตือน ช่วงหน้าฝนเก็บเห็ดป่ามากินอาจเป็นเห็ดพิษ เนื่องจากประชาชนนิยมเห็ดป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งเห็ดป่ามีทั้งกินได้และเห็ดพิษที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด
สำหรับอาการหลังจากกินเห็ดพิษแล้วจะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องหรือถ่ายอุจจาระเหลว ทั้งนี้ ไม่ควรซื้อยากินเองหรือไปรักษากับหมอพื้นบ้าน โดยจะต้องรีบไปพบแพทย์พร้อมนำตัวอย่างเห็ดไปด้วย
และจากการลงไปสอบสวนโรคในพื้นที่ทราบว่า ผู้ป่วยเก็บเห็ดและนำมาประกอบอาหาร และนำไปให้ญาติในเขต ต.ป่าแก่บ่อหิน เพื่อประกอบอาหาร ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยถูกนำส่ง รพ.สตูล 3 ราย พักรักษาตัวที่ รพ.ทุ่งหว้า 4 ราย และกลับบ้าน 7 ราย ส่วนอีก 3 รายไม่มารับการรักษา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม ทั้งนี้ยังไม่พบผู้เสียชีวิต
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ