ตึงเครียด สหรัฐฯ เตรียมคว่ำบาตรอิหร่านครั้งรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์

ตึงเครียด สหรัฐฯ เตรียมคว่ำบาตรอิหร่านครั้งรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์

ตึงเครียด สหรัฐฯ เตรียมคว่ำบาตรอิหร่านครั้งรุนแรงสุดในประวัติศาสตร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศเตรียมคว่ำบาตรอิหร่านครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังกล่าวหาอิหร่านว่าเป็นประเทศอันดับ 1 ที่สนับสนุนการก่อการร้าย

นายไมค์ ปอมเปโอ ขึ้นแถลงการณ์ครั้งแรกนับตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ประกาศเตือนอิหร่านว่าจะต้องเจอกับการคว่ำบาตรครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากที่สหรัฐฯ ได้ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และยังเตือนไปยังบริษัทเอกชนของยุโรปให้ระมัดระวังการทำธุรกิจกับอิหร่าน เพราะจะไม่สามารถทำธุรกิจกับสหรัฐฯ ได้

โดยสหรัฐฯ จะใช้มาตรการกดดันด้านการเงินกับรัฐบาลอิหร่านอย่างเข้มงวด จนกว่าผู้นำของอิหร่านจะยอมยุตินโยบายที่เป็นภัยต่อประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพัฒนาขีปนาวุธหรือการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่างๆ เช่น เยเมนและซีเรีย นายปอมเปโอยังได้กล่าวหาว่ารัฐบาลอิหร่านเป็นประเทศอันดับ 1 ที่สนับสนุนการก่อการร้ายด้วย

นายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ตอบโต้คำขู่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทันที โดยออกแถลงการณ์ว่าสหรัฐฯ ไม่มีหน้าที่ตัดสินใจแทนอิหร่านและประเทศอื่นๆ บนโลก และตอนนี้ก็ไม่มีประเทศไหนที่ยอมรับการตัดสินใจของสหรัฐฯ อีกต่อไปแล้ว

ด้านนายจาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน ก็ประณามการประกาศของรัฐบาลสหรัฐฯ และชี้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเป็นนักโทษของนโยบายที่ล้มเหลวของตัวเอง

นายซารีฟบอกว่า อิหร่านกำลังทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆ ที่ลงนามในข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ด้านรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหภาพยุโรปก็ยืนยันว่าสหภาพยุโรปจะยังปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านต่อไป ตราบใดที่อิหร่านยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงเช่นกัน 

อิหร่านเป็นประเทศส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของโลก ซึ่งการคว่ำบาตรอิหร่านจะส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม การคว่ำบาตรอิหร่านจะยังคงไม่เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายเดือนในการดำเนินการ

 

>>> “ทรัมป์” เตรียมประกาศวันนี้ จะคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้งหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook