แห่ดูโฉมหน้า ผัวเมียตีนแมวงัดบ้าน 3 ปี สะสมของไว้นับล้านบาท
ตำรวจตะครุบตัว 2 ผัวเมียต้องสงสัยเป็นตีนแมว ตามไปค้นที่บ้านพบทรัพย์สินล้นทะลักบ้าน ล้วนเป็นของที่ถูกขโมยทั้งหมด ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านแห่ตามมาชี้หน้าด่า
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (22 พ.ค.) ที่ สภ.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี รอง ผบก.ตร.ภ.ชุมพร พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รอง ผบก.ตร.ภ.ชุมพร พ.ต.อ.วรพล ปาลรัตน์ ผกก. สภ.วิสัยเหนือ ร่วมกันสอบถาม นายสนม อายุ 50 ปี และ นางสาวจารี อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาที่มีพฤติกรรมในการลักขโมย งัดแงะ บ้านเรือนชาวบ้านเดือดร้อนเป็นจำนวนมากในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร
หลังข่าวการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีชาวบ้านจำนวนมากต่างเดินทางมายัง สภ.วิสัยเหนือ เพื่อดูโฉมหน้าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เนื่องจากชาวบ้านทั้งหมดล้วนแต่เป็นผู้เสียหายจากการโดนโจรกรรมงัดบ้านสูญเสียทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก
เมื่อเข้าไปห้องสอบสวนก็ต้องตกตะลึง พบว่ามีทรัพย์สินนับร้อยรายการที่กำลังตรวจนับ อาทิ สร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ พระเหลี่ยมทอง พระเครื่องรุ่นดังๆ ธนบัตรรุ่นเก่าแก่ หลายสิบใบมูลค่าหลายแสนบาท เครื่องประดับที่ทำมาจากทองคำ ทรัพย์สินที่มีราคาจำนวนมาก รวมมูลค่าทรัพย์สินหลายแสนบาท รวมทั้งยังพบกระสุนปืน .45 มม.อีก 10 นัด กัญชาแห้งจำนวนหนึ่ง มีดพร้า เหล็กตะไบ และอุปกรณ์งัดแงะอีกเพียบ
พ.ต.ต.อภิชาติ ยังมี สว.สส. รายงานว่า ก่อนหน้านี้ได้มีชาวบ้านมาแจ้งความถูกโจรงัดบ้าน พร้อมด้วย ร.ต.อ.บรรจง ศักดิ์พิมล พงส. ไปที่เกิดเหตุ เจ้าของบ้านบอกว่า คนร้ายรูปร่างหน้าตาคล้ายกับคนในหมู่บ้านสองสามีภรรยา คู่หนึ่ง ตำรวจจึงรีบรุดไปยังบ้านของสามีภรรยาดังกล่าวที่อยู่ในหมู่บ้าน
ก่อนจะพบว่านายสนมเพิ่งกลับเข้าบ้าน ค้นในตัวพบทรัพย์สินสิ่งของมีค่าจำนวนหนึ่ง เมื่อเอาให้ผู้เสียหายดูก็ยืนยันว่าเป็นของที่เพิ่งสูญหายไป และยังพบกัญชาในตัวของนายสนม จึงไปตรวจค้นที่บ้าน ก็ได้พบกับ นางสาวจารี ภรรยา เมื่อเข้าไปภายในห้องนอนในบ้านก็พบทรัพย์สินต่างๆ มากมายซุกซ่อนอยู่ในบ้าน
ต่อมาชาวบ้านในหมู่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง และอีกหลายหมู่บ้าน ใน ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เป็นพื้นที่ติดต่อกัน เมื่อทราบข่าวก็แห่กันไปดูตัวและตรวจทรัพย์สินต่างๆ ที่ สภ.วิสัยเหนือ และต่างพากันยืนยันว่า ทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นของชาวบ้าน
นายจิรายุทธ อายุ 33 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.วิสัยเหนือ บอกว่า ธนบัตรเก่าแก่หลายสิบใบที่สะสมตั้งแต่รุ่นปู่ได้สูญหายไปตั้งแต่ เมื่อปี 2560 รวมถึงพระเครื่อง และของมีค่าจำนวนหนึ่ง ที่เมื่อเห็นก็จำได้ทันที ของเหล่านี้บางชิ้นหามูลค่าไม่ได้
จากการตรวจสอบพฤติการณ์ราบว่า สามีภรรยาผู้ต้องหาคู่นี้มีอาชีพรับจ้าง แต่สามีไม่มีงานทำ ออกตระเวนงัดแงะเพื่อนบ้านใน 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน มานานนับปี มีชาวบ้านเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก บางรายเหตุเกิดตั้งแต่ปี 2559 แต่ ก็เป็นเรื่องแปลกที่คนร้าย นำเอาทรัพย์สินไปขายน้อยมาก อันเนื่องมาจากความกลัวถูกจับ หรือ ไม่ค่อยรู้จักแหล่งที่รับซื้อของโจร จึงได้แต่ขโมยมาเก็บไว้ก่อน ทำให้สะสมไว้มีมูลค่าหลายแสนบาท อาจจะถึงล้านบาทได้
นอกจากนี้ ในขณะที่ผู้ต้องหากำลังถูกสอบปากคำอยู่นั้น ก็มีเด็กหญิงอายุประมาณ 13-14 ปี มายืนร้องไห้หน้าห้องสอบสวน ทราบว่าเป็นลูกสาวคนสุดท้องของทั้งคู่ ที่มีเพื่อนบ้านที่ช่วยดูแลมานานนับปี เมื่อขยายผลตรวจสอบทรัพย์สินที่ถูกขโมยมาก็ยังพบว่ามีทรัพย์สินของบ้านข้างๆ สูญหายเพราะถูกขโมยไปด้วย กลายเป็นผู้ต้องหายังมีก่อเหตุแม้แต่ผู้ที่คอยช่วยเหลือแบ่งเบาให้ตัวเอง