“บอย ปกรณ์” แจงแทน แม่ประกาศ 3 หนุ่ม โสดอยู่ตรงนี้ โดนสงสัยสัมพันธ์ “หน่อง-วิว”

เล่นเอาหลายคนที่ติดตามอินสตาแกรมของคุณแม่ “งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์” ถึงกับงงกันเลยทีเดียว ที่จู่ๆ คุณแม่ก็ได้โพสต์ภาพลูกชายทั้งสาม อย่าง “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์”, “หน่อง ธนา ฉัตรบริรักษ์” และ “ภัทร ฉัตรบริรักษ์” กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ แต่ต้องสะดุดกับแคปชั่นที่เขียนไว้ว่า “สนทนาภาษาโสด โสด โสด อยู่ทางนี้ ยัง โสด โสด”

ซึ่งงานนี้แฟนคลับต่างก็เข้าไปคอมเมนต์ถามไถ่กันใหญ่ และอดสงสัยในความสัมพันธ์ของ “หน่อง ธนา” กับหวานใจสาว “วิว วรรณรท สนธิไชย” ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า คุณแม่ถึงได้โพสต์ข้อความว่าโสดแบบนี้

ล่าสุด “บอย ปกรณ์” ในฐานะพี่ใหญ่ของบ้านจึงได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวได้เผยว่า แม่ชอบโพสต์อะไรแซวเล่นขำๆ เป็นประจำ ไม่ได้มีอะไรแน่นอน พร้อมบอก “หน่อง ธนา” ไม่น่าจะใช้คำว่าโสดได้นะ

เห็นคุณแม่เขียนแคปชั่นว่า 3 หนุ่มบ้านฉัตรบริรักษ์ กำลังสนทนาภาษาโสด ?
“หน่องโสดเหรอครับ (ยิ้ม) คือแม่คงเขียนขำๆ แหละครับ ปกติที่บ้านอาทิตย์หนึ่งจะมีโอกาสได้มาอยู่พร้อมหน้ากัน 5 คน ซึ่งวันนั้นเราก็ได้เจอกันพร้อม 5 คนพอดี เราก็ได้นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย”

แม่ไม่ได้ต้องการจะสื่อนัยยะอะไรใช่ไหม ?
“ไม่มีๆ”

สรุปคือยังไม่มีใครโสดใช่ไหม ?
“หน่องๆ เขายอมรับว่าใช้คำว่าแฟนหรือยังครับ (ยิ้ม) หรือเขาอาจจะเป็นเพื่อนกัน ซึ่งเขาก็บอกผมว่าคุยๆ กันอยู่ แต่อาจจะมีเปลี่ยนเรื่องคุยบ้าง (หัวเราะ)”

แสดงว่าแม่อยากให้ลูกโสดใช่ไหม ?
“ไม่หรอก แม่เขาก็ชอบลงอะไรแบบนี้ เขาก็จะชอบถามว่ายังไง เมื่อไหร่ เพราะตอนนี้เราก็อายุเยอะแล้วแหละ ผมก็ 33 จะ 34 แล้ว แต่ก็ไม่เชิงเร่งครับ แค่พูดเล่นเฉยๆ แต่แม่อาจจะมีคิดจริงบ้าง เพราะวันเราก็ได้แล้ว แล้วไหนจะเรื่องบวชอีก ผมก็มีคุยกับแม่ว่าอยากจะเริ่มมีแพลนบวช แต่ทุกอย่างก็ต้องดูก่อน เพราะตอนนี้ยังมีถ่ายละครอยู่ 2 เรื่องครับ”

IG: boy_pakornบอย ปกรณ์ จากละครเรื่องมาตุภูมิแห่งหัวใจ

ล่าสุดเห็นโพสต์ชวน นายกตู่ ดูละครเรื่อง มาตุภูมิแห่งหัวใจ ?
“ไม่ได้มีอะไรเลย เพียงแต่อยากให้ท่านได้ชมเวลาท่านว่างเท่านั้นเอง เพราะเวลาที่เราถ่ายละครเรื่องนี้ทีมงานจะมีการพูดกันบ่อยๆ ว่า ถ้าท่านได้ดู ท่านจะต้องชอบแน่ๆ เลย เพราะมีหลายฉากที่เป็นแบบนั้น อีกอย่างเรื่องนี้นอกจากจะพูดถึงความเสียสละของทหารแล้ว ยังมีเรื่องความสัมพันธ์ของพ่อลูก ความเสียสละของผู้นำ เราเลยคิดว่าท่านจะต้องชอบแน่ๆ อย่างในวันที่ละครปิดกล้อง เราก็ยังพูดกัน”

ท่านก็ได้ตอบกลับมาแล้วว่าจะดู ?
“ขอบพระคุณท่านมากๆ ครับ พวกเราก็ดีใจที่สารของเราถูกส่งไปถึงท่าน เราแค่หวังว่าหากท่านมีโอกาส ก็คงจะได้รับชมบ้าง”

เราตั้งใจส่งจริงๆ ไม่ได้เป็นการแซวหรือการล้อเล่นใช่ไหม ?
“ไม่ล้อเล่น เรื่องแบบนี้ล้อเล่นไม่ได้ครับ (หัวเราะ) ตอนแรกเราก็เกรงใจอยู่เหมือนกัน แต่เราก็ส่งให้ท่านด้วยความเคารพจริงๆ ใช้ใจส่งจริงๆ เราได้มีการปรึกษากับกองละครกันก่อน ว่าถ้าหากเราส่งไปจะเป็นอะไรไหม เพราะเราก็อยากให้ท่านดู คือเราเคยได้ยินท่านเปรยๆ ออกมาว่า อยากให้ละครไทยทำเรื่องเกี่ยวกับทหาร ถึงแม้เรื่องนี้จะเกี่ยวกับทหาร แต่รสชาติของละครไทย ก็ยังจัดเต็ม ทั้งเรื่องความรัก ความเข้มข้น ความดราม่าหรือบู๊ มันไม่ได้เป็นละครสารคดีอย่างเดียว มันยังคงความสนุกของละครไทยอีกเยอะ”

มีฉากไหนที่อยากให้ท่านได้ดูเป็นพิเศษบ้างไหม ?
“พูดไม่ได้เลยครับ ต้องติดตามดูกันเอาเอง ฉากไคลแม็กซ์ของเรื่องมีเยอะเลยครับ มีทั้งฉากที่เกี่ยวกับตัวผมเอง และฉากของคนอื่นด้วย คือบทเขียนมาดีมากครับ”

หากละครใกล้จะออนแอร์ จะมีไปสะกิดให้ท่านดูอีกไหม ?
“รบกวนท่านทีเดียวก็พอแล้วครับ (หัวเราะ)”

เมื่อเราได้เล่นละครเรื่องนี้ ได้รับความรู้สึกของการเป็นรั้วชาติอย่างไรบ้าง ?
“ความจริงเราก็รู้ตลอดแหละ ว่าการที่เราอยู่ตรงนี้ย่อมมีคนเสียสละเป็นรั้วของชาติป้องกันเพื่อเราตลอด แต่พอมาทำละครตรงนี้ ยิ่งทำให้เรารู้มากขึ้นไปอีก ว่าถึงแม้เราอยู่ในเมือง ห่างไกลกับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังมีคนอีกมากมาย ที่ปฏิบัติภารกิจเพื่อเราอยู่ ไม่ใช่แค่อาชีพทหารนะครับ ยังมีอีกหลายอาชีพ ซึ่งละครเรื่องนี้ ก็ได้พูดถึงจุดตรงนี้แหละ พูดถึงอาชีพข้าราชการ หรืออาชีพที่ทำเพื่อประชาชน”

หากจบตอนเราแล้ว จะมีการส่งสารให้พระเอกตอนต่อไป มารับไม้ต่อจากเราไหม ?
“(หัวเราะ) ก็ลองคุยกันดูครับ”

อยากมีโอกาสเข้าไปพบท่านไหม ?
“ไม่แน่ใจครับ แต่เราจะได้กลับมาใช่ไหม (หัวเราะ) ผมก็ฝากละครเรื่องนี้ด้วยครับ วันเสาร์นี้จะเสนอเป็นตอนแรก ฝากถึงคนไทยทุกคนเลย ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนรักชาติอยู่แล้ว แต่ถ้าได้ดูก็จะรักชาติมากยิ่งขึ้น และถ้าให้พูดถึงรสชาติละคร ผมรับรองว่าสนุกแน่นอน ทุกอย่างจัดเต็ม เข้มข้นมากครับ เพราะนอกจากผมแล้ว ก็ยังมีตัวละครที่เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่เล่นด้วยอีกเยอะ”