สารภาพแล้ว "เพื่อนบ้าน" ยิงยกครัวครูนาฏศิลป์ รำคาญเสียงซ้อมรำ-หมาเห่า

สารภาพแล้ว "เพื่อนบ้าน" ยิงยกครัวครูนาฏศิลป์ รำคาญเสียงซ้อมรำ-หมาเห่า

สารภาพแล้ว "เพื่อนบ้าน" ยิงยกครัวครูนาฏศิลป์ รำคาญเสียงซ้อมรำ-หมาเห่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ (26 พ.ค 61) ตำรวจจ.ภูเก็ต นำตัวนายพันปกรณ์ หรือ อ้น อายุ 36 ปี มือปืนยิงครอบครัวครูสอนนาฎศิลป์ถึง จงภูเก็ต และทำการสอบสวนและตรวจปัสาวะหาสารเสพติดทันที หลังที่ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .45 มม. บุกยิงครอบครัวครูสอนนาฏศิลป์ภายในบ้าน หมู่บ้านธินธนาวุฒิซอย 3 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย คือนายสมชาย อายุ 42 ปี น.ส.อุรารัตน์ อายุ 43 ปี (มารดา) และนายธนวัฒน์ อายุ 20 ปี บุตรชาย ซึงขณะนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ตามองไม่เห็นเนื่องจากกระสุนฝั่งใน ส่วนภรรยายังอาการหนักและหลบหนีไปกบดานอยู่หลายจังหวัดล่าสุดที่ จ.สตูล

>> เพื่อนบ้านโหดบุกยิงปางตายยกครัว ครูสอนนาฏศิลป์ภูเก็ต

เบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การว่า พ่อตนเองมาซื้อที่ดังกล่าวอยู่อาศัยนานถึง 20 ปีมาแล้ว แต่บ้านนายสมชาย เคียงจันทร์ ผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่งมาอยู่ใหม่ได้เพียง 5 ปี แต่ทั้งซ้อมดนตรีเสียงดัง ทั้งปล่อยให้หมาเห่าทั้งวัน เตือนมาหลายครั้งแล้วแต่ไม่ฟังและแก้ไข ทำให้ตนและพ่อแม่แก่ชรามีอาการป่วยรำคาญเป็นอย่างมากมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ในวันดังกล่าวนั้นหมาเห่าไม่หยุดพักผ่อนไม่ได้ จึงทำเกิดบันดาลโทสะอย่างแรง จนขาดความยับยั้งชั่งใจยิงปืนไปรัวยิงดังกล่าว

ส่วนครอบครัวเหยื่อเคราะห์ร้ายขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวที่ รพ.วชิระภูเก็ต ส่วนครูนาฏศิลป์ผู้เป็นสามีตาบอดหนึ่งข้าง โดยแพทย์ยังไม่สามารถผ่ากระสุนของจากตัวได้ เบื้องต้นทางสำนักงานยุติธรรมจังหวัดภูเก็ตได้ชดเชยเยียวยาเป็นกองทุนให้กับครอบครัวเหยื่อบางส่วนแล้ว ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถยึดปืนที่ใช้ในการก่อเหตุได้ เนื่องจากผู้ต้องหาให้การว่าโยนทิ้งคลองไปแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปงมหาที่บริเวณจุดทิ้งปินแล้วแต่ไปพบและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจชื่อว่านายพันปกรณ์จะทิ้งปืนลงคลอง และจะทำการสืบสวนต่อ โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาได้ 2 ข้อหาคือ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และข้อหาพยายามฆ่า ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุดังกล่าวตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีใบอนุญาตอีกด้วย

พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว. ภูเก็ต กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจภูเก็ตติดตามและไล่ล่ามาตลอดตั้งแต่หลังเกิดเหตุ จนสามารถติดตามตัว นายพันปกรณ์ หรือ อ้น ได้ที่อ.มะนัง จ.สตูล โดยเบื้องต้นได้หลบหนีไปอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตามไปจับแต่ไหวตัวทันหนีไปอยู่ จ.ตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปอีก จากนั้นจึงได้ไปหนีกบดานอยู่ที่ อ.มะนัง จ.สตูล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามความเคลื่อนไหวจนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณ 06.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารได้สนธิกำลังร่วมกันทำการจับกุมตัวนายพันปกรณ์ ได้ที่ บ้านเลขที่ 48 ม.7 ต.ปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล นำส่งตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.วิชิต ดังกล่าว

ในบ่ายวันนี้ (26 พ.ค 61) และจะนำตัวนายพันปกรณ์ ไปฝากที่ศาลจังหวัดภูเก็ต โดยพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาที่กระทำผิดเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 5 คดีและหลายท้องที่ อีกทั้งได้หลบหนีระหว่างประกันตัวในชั้นศาลด้วย เจ้าหน้าที่หวั่นกลัวว่าจะออกมาทำการข่มขู่หรือทำร้ายพยาน และผู้เสียหายอีก เพราะเป็นคนอารมณ์ร้ายเวลาโมโหไม่ได้อย่างใจมักจะใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นตลอดมาทั้งใน จ.นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต และล่าสุดที่ จ.สตูล ดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook