สนธิ-การ์ด-คนขับ ย้ายรักษาจุฬาฯ พยานเห็นคนร้ายเปลี่ยนกระสุนอย่างใจเย็น

สนธิ-การ์ด-คนขับ ย้ายรักษาจุฬาฯ พยานเห็นคนร้ายเปลี่ยนกระสุนอย่างใจเย็น

สนธิ-การ์ด-คนขับ ย้ายรักษาจุฬาฯ พยานเห็นคนร้ายเปลี่ยนกระสุนอย่างใจเย็น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนร้ายรัวอาวุธสงครามนานาชนิดถล่ม "สนธิ-การ์ด"อาการปลอดภัยแล้ว คนขับยังวิกฤต ทั้ง 3 ย้ายรักษาจุฬาฯ รปภ.-ตำรวจนครบาลอารักขาเข้ม ตร.ตั้ง 2 ปม "การเมือง-เรื่องส่วนตัว"ไม่ทิ้งคนมีสีลงมือ ชี้ไม่ได้แค่ข่มขู่แต่มุ่งเอาชีวิต พยานเห็นคนร้ายเปลี่ยนกระสุนยิงอย่างใจเย็น กล้องวงจรปิด5ตัวเสียตามเคย

รัวอาวุธสงคราม84นัดถล่มสนธิ

นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร (พมธ.) ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ถูกคนร้ายยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์ยิงถล่มกลางเมืองหลวง พื้นที่ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.40 น. วันที่ 17 เมษายน คนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวนขับรถปิคอัพ ไม่ทราบยี่ห้อ สีและทะเบียน ใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 และอาร์ก้า ยิงถล่มใส่รถยนต์ยี่ห้อโตโย อัลพาร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน วล 89 กรุงเทพมหานคร ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่มีนายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถ และนายวายุภักษ์ มังคละสิน เลขานุการและการ์ดประจำตัว นั่งไปด้วย กระสุนถูกกระจกด้านหน้า กระโปรงหน้ารถ และด้านข้างรถเป็นรูพรุนประมาณ 84 นัด หลังจากลงมือแล้ว คนร้ายหลบหนีไปตามถนนสามเสนมุ่งหน้าแยกบางลำพู นายสนธิที่นั่งโดยสารที่เบาะหลัง ถูกกระสุนเข้าที่บริเวณคิ้วขวา กะโหลกแตก เยื่อสมองบุบ เลือดออกเล็กน้อยแต่ยังสามารถพูดจาโต้ตอบได้ นายวายุภักษ์ถูกเศษโลหะเข้าตามตัวซีกขวาของร่างกายมีแผลถลอกไม่รุนแรง ทั้งสองถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่วชิรพยาบาล นายอดุลย์บาดเจ็บที่ต้นแขนขวา ส่งรักษาที่โรงพยาบาลมิชชั่น เหตุเกิดบริเวณถนนสามเสน หน้าปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ ใกล้สี่แยกบางขุนพรหม แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ

ปลอกกระสุนปืนร้ายแรงตกเกลื่อน

ต่อมา พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ พ.ต.อ.วิชาญ บริรักษ์กุล พ.ต.อ.ไกรเลิศ บัวแก้ว พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม และ พ.ต.ท.สุเมธ จิตต์พานิชย์ รอง ผกก.สส. ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่แผนกตรวจสอบสถานที่ กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตรวจวัตถุระเบิด กองพลาธิการ พบปลอกกระสุนปืนอาร์ก้าจำนวน 64 นัด เอชเคจำนวน 17 นัด และเอ็ม 16 จำนวน 3 นัด พบรถโดยสารประจำทางสาย 30 ที่วิ่งอยู่ใกล้เคียงถูกกระสุนปืนเอ็ม 79 จำนวน 1 นัด แต่ไม่ระเบิด รถโดยสารประจำทางสาย 53 ถูกกระสุนปืนได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายมาดักรอหรือติดตามนายสนธิตั้งแต่เดินทางออกจากบ้านพักย่านถนนสุโขทัยมาตามถนนสามเสน เมื่อสบโอกาสจึงยิงถล่มดังกล่าว ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด

ตร.ตั้ง2ปมการเมือง-เรื่องส่วนตัว

ต่อมา พล.ต.ท.วรพงษ์ แถลงที่ บช.น. จากการที่ได้เดินทางไปเยี่ยมอาการนายสนธิ ที่รักษาตัวที่วชิรพยาบาล พบว่านายสนธิได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ศีรษะ ผู้ติดตามและคนขับรถก็ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังไม่สามารถให้การได้ต้องรอพักฟื้นจนอาการดีขึ้นก่อนจึงจะสอบถามสาเหตุและรายละเอียดต่างๆ อีกครั้ง จากการสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์เบื้องต้นยังไม่ได้รายละเอียดที่ชัดเจนมากนักเนื่องจากขณะเกิดเหตุเป็นเวลามืดและพยานก็ยังอยู่ในอาการตกใจ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบเส้นทางเดินรถทั้งของนายสนธิและของคนร้าย รวมทั้งอาวุธปืนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร จากวิธีกระสุนที่คนร้ายลงมือยิงแล้วเป็นไปได้ทั้ง 3 ด้าน ว่าคนร้ายอาจเป็นบุคคลธรรมดาแต่มีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนที่เกิดจากการฝึกซ้อม เพราะอาวุธแม้เป็นปืนสงครามแต่อาจหาซื้อมาครอบครองไว้ก็เป็นได้ เพราะที่ผ่านมาเคยมีการจับกุมผู้ครอบครองอาวุธสงครามได้เป็นประจำ หรือคนร้ายอาจเป็นมือปืนอาชีพที่รับงานมาก่อเหตุ และสุดท้ายอาจเป็นผู้มีสี ซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนประเด็นการยิงถล่มครั้งนี้ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องการเมือง และเรื่องส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีความเข้มงวดในการตรวจตราเป็นพิเศษ สำหรับแกนนำพันธมิตรคนอื่นๆ หากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยสามารถร้องขอได้ จะส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรักษาความปลอดภัยให้

ไม่ได้แค่ข่มขู่แต่มุ่งเอาชีวิต"สนธิ"

พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิดจึงไม่สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุและภาพคนร้ายได้ อย่างไรก็ตาม จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดตัวอื่นๆ ที่ติดตั้งตามเส้นทางจากบ้านพักนายสนธิ มายังที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับคนร้ายให้ได้ ดูจากวิธีกระสุนและการก่อเหตุแล้วเชื่อว่าคนร้ายไม่ได้ทำเพื่อข่มขู่ แต่ต้องการต้องชีวิตนายสนธิ

ภายหลังการประชุมเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม เปิดเผยว่า ในส่วนของการดูแลบ้านพระอาทิตย์ที่เป็นสำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบุคคลต่างๆ ในพื้นที่ก็ดูแลอยู่แล้ว และได้เรียกประชุม เนื่องจากเป็นการแบ่งและแยกแยะหน้าที่ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดที่แยกบางขุนพรหมไม่ชัดเจน ยังไม่สามารถระบุทะเบียนได้ ส่วนคนเจ็บก็ยังไม่มีใครให้การได้ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน วล 89 กทม. ของนายสนธิถูกยิงพรุนแล้ว ยังมีรถนิสสัน เทียน่า สีบรอนซ์ ทะเบียน สฉ 1903 กรุงเทพมหานคร ที่ขับติดตามนายสนธิถูกยิงกระจกด้านหน้าแตกเช่นกัน

คนขับขสมก.เผยนาทีระทึก

นายจำนงค์ เผ่าก้อน อายุ 49 ปี คนขับรถ ขสมก.สาย 53 กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุขับรถมาถึงหน้าวัดเอี่ยมวรนุช เห็นรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับแซงรถคันเกิดเหตุไปจอดด้านหน้า ก่อนที่คนร้ายที่นั่งกระบะท้าย 2 คน จะลุกขึ้นนั่งแล้วใช้อาวุธสงครามยิงถล่มใส่รถคันดังกล่าว ก่อนจะมีรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมาขับแซงขึ้นมาใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้กับคนร้าย ทำให้คนร้ายหลบหนีไป

นางเฉิดฉาย วงศ์บุดดี พนักงานเก็บเงินสาย 30 ให้การว่า จังหวะที่รถมาถึงที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงปืนประมาณ 3 นัด จากนั้นจึงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีกชุดใหญ่ ระหว่างนั้นนั่งอยู่ตรงกลางของรถรู้สึกว่ามีกระสุนปืนเฉี่ยวหัวไป ตนพร้อมผู้โดยสารจึงหมอบลงและตะโกนบอกให้แฟนที่ขับรถจอด แต่ผู้โดยสารก็ตะโกนไม่ให้จอดเพราะกลัวว่าจะถูกยิง เมื่อรถเลยไปได้สักระยะก็พบว่ามีผู้โดยสาร 1 คน ได้รับบาดเจ็บที่เท้าก่อนที่จะลงจากรถไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ให้แฟนขับรถมาไว้ที่ สน. เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบพบว่ามีปลอกกระสุน ชนิดเอ็ม 79 ตกอยู่บนเบาะ

พยานเห็นคนร้ายเปลี่ยนกระสุนยิง

พนักงานกวาดขยะรายหนึ่งเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า เห็นรถของนายสนธิจอดติดสัญญาณไฟแดงคู่กับรถประจำทางสาย 53 ระหว่างที่นำรถไปจอดที่โรงแรมซึ่งห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ได้ยินเสียงปืนดังคล้ายประทัด ตกใจจึงรีบออกมาดูพบว่าที่จุดเกิดเหตุพบประกายไฟจากปากกระบอกปืนแลบออกมาเป็นชุดๆ ซึ่งคนร้ายใจเย็นมาก หลังจากที่ยิงก็มีการเปลี่ยนกระสุนยิงใหม่อีกชุดก่อนหลบหนี แต่ระหว่างนั้นตกใจไม่สามารถจำทะเบียนได้เห็นว่าเป็นรถกระบะลักษณะคล้ายสีเขียว ช่วงนั้นเห็นคนในรถของนายสนธิอีกคันมาเรียกรถกระบะที่สวนทางมาขอความช่วยเหลือให้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้นนายสนธิเดินลงมาจากรถในมือถือกระดาษคลิปรายการที่จะไปจัดรายการ อีกมือถือวิทยุมีเลือดท่วมตัว เลยร้องบอกว่า "ป๋า รีบไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ" ซึ่งระหว่างนั้นยังมีสติรับรู้ ก่อนถูกนำขึ้นรถเก๋งไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งช่วงนั้นก็เริ่มมีชาวบ้านออกมาดูมากแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของรถคุ้มกันนายสนธิที่ยิงต่อสู้คนร้ายในจุดเกิดเหตุนั้น หลังจากเกิดเหตุได้นำตัวผู้บาดเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาลแล้ว ก็ไม่ได้กลับมาให้ปากคำหรือรายละเอียดที่ สน.ชนะสงคราม แต่อย่างใด ซึ่งในส่วนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานขอความร่วมมือในการติดตามมาสอบปากคำภายหลัง โดยบริเวณแยกบางขุนพรหมไม่มีทหารมาประจำการแต่อย่างใด มีเพียงแยกบางลำพู ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นทหารจึงเข้ามาประจำการในจุดดังกล่าวจำนวนมาก

กล้องวงจรปิด5ตัวเสียตามเคย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ห้องควบคุมและบันทึกภาพการจราจรของ กทม. ทราบว่ากล้องซีซีทีวีที่ติดตั้งบริเวณสี่แยกบางขุนพรหม 5 ตัว เป็นกล้องภาพนิ่ง 4 ตัว กล้องเคลื่อนไหวเมื่อมีการคอนโทรล 1 ตัว แต่จากการตรวจสอบพบว่า ในช่วงที่เกิดเหตุลอบยิงนายสนธิกล้องทุกตัวไม่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ เพราะเกิดขัดข้องพร้อมกันโดยระบบบันทึกภาพไม่ทำงานตั้งแต่เวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 16 เมษายน นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกล้องซีซีทีวีที่ติดตั้งบริเวณแยกเทเวศร์ พบว่ารถยนต์คันที่ถูกลอบยิงวิ่งผ่านไปในเวลา 05.41.33 น. และรถต้องสงสัยโตโยต้า 4 ประตู สีบรอนซ์ทอง ที่ก่อเหตุวิ่งผ่านไปในเวลา 05.41.51 น. โดยวิ่งตามระยะห่างแค่ 18 วินาที ก่อนที่จะเกิดยิงถล่มรถของนายสนธิในเวลาต่อมา ซึ่งภาพดังกล่าวถือเป็นเพียงภาพเดียวที่กล้องซีซีทีวีสามารถจับภาพได้ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบหลังเกิดเหตุที่บริเวณแยกบางขุนพรหมพบว่า ตู้ควบคุมระบบบันทึกภาพมีรอยกระสุนปืน 1 รอย แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ารอยกระสุนปืนดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนหรือหลังเหตุการณ์ลอบยิงนายสนธิ อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ได้ประสานขอภาพบันทึกจากกล้องซีซีทีวีไปตรวจสอบเพื่อขยายผลแล้ว

หมอแถลง"สนธิ-การ์ด"ปลอดภัย

นายชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทยศาสตร์และวชิรพยาบาลกรุงเทพมหานคร แถลงเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 17 เมษายน ภายหลังรับนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนายวายุภักดิ์เข้ารักษาว่า เบื้องต้นนายสนธิได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณกะโหลกด้านขวา ยาว 3 เซนติเมตร (ซม.) แพทย์ได้วินิจฉัยแล้วให้ทำการผ่าตัดเอาเศษโลหะที่ฝังอยู่บริเวณกะโหลกด้านขวาออก พบมีเลือดออกเหนือชั้นเยื่อหุ้มสมอง ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการผ่าตัดยังไม่สามารถบอกอาการได้ว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ นายสนธิยังมีบาดแผลฉีกขาดเล็กน้อยบริเวณข้อมือข้างขวา บริเวณลำตัวแถบขวามีลอยถลอกเล็กน้อย คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาได้แจ้งว่านายสนธิมีกำลังใจดีมาก ซึ่งหลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นหากไม่มีอาการแทรกซ้อน แพทย์จะให้พักรักษาตัว 7-10 วัน

สำหรับนายวายุภักดิ์ มีบาดแผลฉีกขาดบริเวณใบหูด้านขวาประมาณ 0.5 ซม. บริเวณหน้าอกขวามีแผลฉีกขาดประมาณ 0.5x0.5 ซม. ต้นแขนขวามีแผลฉีกขาด 0.5x0.5 ซม. และมีแผลถลอกเล็กน้อยบริเวณหน้าแข้งทั้ง 2 ข้าง ซึ่งรายนี้อาการไม่น่าเป็นห่วงและไม่น่าจะมีผลต่อการรักษาพยาบาลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทีมแพทย์จะมีการแถลงความคืบหน้าเรื่องอาการของผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ให้ทราบอีกครั้งในเวลา 13.00 น.

ต่อมาเวลา 12.00 น. นพ.ชัยวันเปิดเผยภายหลังคณะแพทย์ผ่าตัดกะโหลกศีรษะนายสนธิเสร็จสิ้นว่า ทีมแพทย์ได้ใช้เวลาในการผ่าตัดกะโหลกศีรษะนายสนธิกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อนำเศษกระสุนปืน (ลูกตะกั่ว) ไม่ทราบชนิดออกจากกะโหลกศีรษะด้านขวา บริเวณขมับ ซึ่งแรงกระแทกทำให้กะโหลกด้านนอกแตก และยังทำให้เนื้อสมองด้านในช้ำ มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง เบื้องต้นอาการปลอดภัยดีแล้ว สมองไม่มีอะไรสูญเสีย ขณะนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู คาดว่าน่าจะพักรักษาตัว 5-6 วัน จึงจะกลับบ้านได้

รปภ.-ตำรวจนครบาลอารักขาเข้ม

"ทีมแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอาเศษกระสุนออก ซึ่งพบว่าเศษกระสุนได้กระแทกผ่านกะโหลกศีรษะชั้นนอก ทะลุเข้าไปยังชั้นในแรงกระแทกทำให้เนื้อสมองช้ำ มีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง ซึ่งแพทย์ได้นำเศษกระสุน 3-4 ชิ้น พร้อมทั้งเอาเลือดที่ไหลใต้เยื่อหุ้มสมองออกแล้ว ทำให้นายสนธิมีอาการปลอดภัยจนเกือบปกติ" นพ.ชัยวันกล่าว
นพ.วันชัยกล่าวว่า ขณะนี้แพทย์ยังไม่อนุญาตให้เยี่ยม และไม่อนุญาตให้ปากคำตำรวจ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบกระเทือนต่อสมอง

นพ.ชัยวันกล่าวว่า เบื้องต้นนายสนธิได้ฝากให้ช่วยดูแลความปลอดภัยให้ด้วย และเชื่อในความปลอดภัยของโรงพยาบาล จึงได้ย้ำความเชื่อมั่นว่าจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลร่วมกับตำรวจนครบาลตลอดเวลา ทั้งนี้ ในส่วนของนายวายุภักดิ์ ขณะนี้อาการปลอดภัยดีไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง คาดว่าจะกลับบ้านได้เร็วๆ นี้

นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จุดที่นายสนธิถูกลอบยิงบริเวณสี่แยกบางขุนพรหม เป็นจุดที่ กทม.ได้ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดหรือซีซีทีวีไว้ในบริเวณใกล้เคียง แต่ไม่แน่ใจว่าจะครอบคลุมจุดที่เกิดเหตุหรือไม่ จึงมอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.ตรวจภาพจากกล้องซีซีทีวีแล้ว

เมียเข้าเยี่ยมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

เวลา 12.30 น. พนักงานบริษัท เอเอสทีวี-ผู้จัดการ ได้ขออนุญาตกับโรงพยาบาลวชิระให้อำนวยความสะดวกในการจัดโต๊ะลงทะเบียนเยี่ยมนายสินธิ บริเวณชั้นล่างใต้ตึกเพชรรัตน์ ซึ่งมีทั้งนักศึกษาและประชาชนทยอยเดินทางไปลงทะเบียนเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีแจกันดอกไม้จากบุคคลสำคัญส่งไปเยี่ยมบริเวณจุดลงทะเบียนจำนวนหนึ่ง อาทิ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอำนวย ตีระเมธี ประธานกรรมการมูลนิธิธรรมอิสะ และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กระทั่งเวลา 13.30 น. นางจันทน์ทิพย์ ลิ้มทองกุล ภรรยาของนายสนธิได้เดินทางเข้าเยี่ยมนายสนธิ โดยมีสีหน้าเคร่งเครียด และไม่ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด

"สนธิ-การ์ด-คนขับ"ย้ายรักษาจุฬาฯ

ต่อมาเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิขอย้ายไปรักษาอาการบาดเจ็บต่อที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ อาคาร สก. ชั้น 8 แผนกศัลยกรรม โดยเป็นการย้ายออกไปอย่างเงียบๆ ทางช่องทางลับของวชิรพยาบาล
เวลา 17.10 น. รถพยาบาลจาก รพ.มิชชั่น ได้ส่งตัวนายอดุลย์ แดงประดับ คนขับรถของนายสนธิ ไปรักษาตัวต่อที่ตึก สก. รพ.จุฬาฯ ด้วย โดยระหว่างเดินทางมีรถตำรวจ สน.นางเลิ้ง 1 คัน อารักขามาตลอดเส้นทาง

รศ.นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฝ่ายบริหาร แถลงว่า ขณะนี้ รพ.จุฬาฯ ได้รับผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คน ไว้รักษาอาการต่อในห้องไอซียู โดยญาติของผู้บาดเจ็บของทั้ง 3 คน ประสงค์ที่จะย้ายเข้ารับการรักษาที่ รพ.จุฬาฯ ล่าสุดอาการของนายสนธิ และนายวายุภักดิ์ ปลอดภัยแล้ว มีเพียงนายอดุลย์เท่านั้นที่ยังต้องตรวจร่างกายด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ซ้ำอีกครั้ง และว่าจะแถลงอาการผู้บาดเจ็บอีกครั้งในเวลา 11.00 น. วันที่ 18 เมษายนนี้

คนขับรถอาการอยู่ในภาวะวิกฤต

นพ.ฮาปรีต ซิงค์โกเวล ศัลยแพทย์โรงพยาบาลมิชชั่น กล่าวว่า คณะแพทย์โรงพยาบาลมิชชั่นได้รักษาด้วยการผ่าตัดสมอง ทรวงอก และกระดูกต้นแขนขวาของนายอดุลย์ ขณะนี้ผู้ป่วยยังนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู เนื่องจากยังอยู่ในภาวะวิกฤต ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด

"ได้ผ่าเอาเศษกระสุนทั้ง 3 จุด คือ ที่บริเวณสมอง บริเวณท้ายทอย เนื้อสมองบางส่วนได้รับความเสียหาย จึงต้องรอดูอาการอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังพบเศษกระสุนที่ทรวงอกขวาและแขนขวา ก็ได้ผ่าออกมาทั้งหมดแล้ว ซึ่งเศษกระสุนที่ได้ออกมาทั้งหมด จะประสานส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปเป็นหลักฐานต่อไป เบื้องต้นคณะแพทย์ได้รักษาอย่างดีที่สุดตามมาตรฐานการแพทย์ ส่วนที่สมองต้องดูต่อไปว่าจะบวมหรือไม่ ที่ทรวงอกพบอาการฟกช้ำของเนื้อปอด จุดที่หนักที่สุดคือ บริเวณศีรษะ แพทย์ต้องดูแลใกล้ชิด ส่วนเนื้อสมองเสียหายเท่าใดนั้น ต้องรอให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน จึงจะประเมินได้ ขณะนี้ผู้ป่วยรู้สึกตัว ลืมตาได้ แต่ไม่สามารถพูดได้เนื่องจากใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ ในการผ่าตัดผู้บาดเจ็บรายนี้ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง" นพ.ฮาปรีตกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลมิชชั่น มีการจัดกำลังตำรวจ 1 ชุด มารักษาความปลอดภัย โดยแพทย์ให้เพียงญาติของผู้บาดเจ็บเข้าเยี่ยมเท่านั้น ไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นเข้าเยี่ยมเพื่อความปลอดภัย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook