เจ้าของกระบะโผล่ยันไม่เกี่ยวยิง สนธิ

เจ้าของกระบะโผล่ยันไม่เกี่ยวยิง สนธิ

เจ้าของกระบะโผล่ยันไม่เกี่ยวยิง สนธิ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จงรัก ประชุมพนักงานสอบสวนคดียิง สนธิ เจ้าของกระบะ ที่โผล่ในวงจรปิด โผล่พบตำรวจยันบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวยิงแกนนำพธม. เผยช่วงเกิดเหตุขับกระบะมาส่งไข่ย่านบางลำภู ขับรถตามท้ายรถ สนธิ จนได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด ตกใจหักรถหลบหลังรถเมล์สาย 53

(18เม.ย.) เวลา 10.15 น. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ประธานการประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายสืบสวนและปราบปราม เพื่อแบ่งหน้าที่ตรวจสอบพยานหลักฐานและพยานแวดล้อม กรณีคนร้ายขับขี่รถกระบะก่อนจะกระหน่ำยิงรถของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณวัดเอี่ยมวรนุช เขตพระนคร เมื่อวานที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม

ขณะเดียวกันได้มี นายอนุรักษ์ พุทธซ้อน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ซอยนนทบุรี 46 ต.ท่าทราย จ.นนทบุรี ได้นำรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุดีแมค รุ่นโกลซี่รี่ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ถง 4071 กทม. ซึ่งติดไซเลนซ์ และด้านข้างติดสติกเกอร์ของอาสาสมัครหน่วยแพทย์กู้ชีพกทม. ซึ่งเป็นรถกระบะ ที่กล้องวงจรปิด จับภาพไว้ได้บริเวณสี่แยกบางขุนพรมขณะเกิดเหตุ เพื่อแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ชนะสงคราม เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายอนุรักษ์ กล่าวว่า เป็นอาสาสมัครของหน่วยแพทย์กู้ชีพ กทม. โดยวันเกิดเหตุได้ขับรถกระบะบรรทุกไข่ไก่มากับมารดาเพื่อที่จะนำไปขายที่ ตลาดบางลำพู ระหว่างนั้นขณะขับรถข้ามไฟแดงบริเณสี่แยกบางขุนพรม ตามหลังรถของนายสนธิ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดด้วยความตกใจจึงหักรถหลบไปอยู้ด้านหลังรถเม ย์สาย 53 จนกระทั่งเสียงปืนสงบจึงออกมาดูเหตุการณ์ก็พบว่ามีการนำคนเจ็บขึ้นรถพาไปหา หมอ ซึ่งระหว่างนั้นตนไม่เห็นเหตุการณ์แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวถามว่าภาพจากกล้องวงจรปิด รถกระบะที่อยู่ในที่เกิดเหตุไม่ได้มีการติดไซเลนซ์ และสติ๊กเกอร์ของหน่วยอาสาสมัคร แต่ทำไมวันนี้มีสติ๊กเกอร์ และไซเลนซ์มาติดอยู่ นายอนุรักษ์ กล่าวว่า ปกติตนจะออกทำงานช่วยเหลือสังคมในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ หากไม่ทำงานก็จะถอดไซเลนซ์ และสติกเกอร์ ออกจากรถเพื่อป้องกันการเกิดปัญหากับเจ้าหน้าที่หน่วยอาสาอื่นๆ และวันที่เกิดเหตุจึงไม่ได้มีการติดสัญลักษณ์ดังกล่าวไว้ แต่เมื่อเห็นภาพข่าวของสื่อมวลชนที่เผยแพร่ออกไปทราบว่าเป็นรถของตนจึงเข้า มาติดต่อของแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิด ขึ้น

ด้านนายกิตติพงษ์ ญาติภัตร์ รองหัวหน้าชุดหน่วยแพทย์อาสากู้ชีพที่ 21 ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานของนายอนุรักษ์ กล่าวว่า นายอนุรักษ์ ได้เข้ามาร่วมเป็นอาสาสมัครของหน่วยแพทย์กู้ชีพนานกว่า 2 ปี และปกตินายอนุรักษ์ จะเป็นคนที่เรียบร้อย มีความตั้งใจช่วยเหลือสังคมด้วยดีมาโดยตลอด ส่วนเรื่องสติ๊กเกอร์ และสัญญาลักษณ์ของหน่วยแพทย์กู้ชีพถ้าหากพวกเราไม่ได้ออกปฏิบัติหน้าที่ช่วย เหลือสังคมจะไม่นำมาติดให้เห็นเป็นสัญญาลักษณ์ เนื่องจากเกรงว่าจะไปมีปัญญหากับหน่วยอาสาสมัครหน่วยอื่นๆ อย่างไรก็ตามก็เชื่อว่านายอนุรักษ์ คงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณที่เกิดขึ้น

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook