แม่วอนตามหา "กระบะตีนผี" เฉี่ยวสาวนักศึกษาล้มคว่ำแล้วหนีไป

แม่ของนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวะศึกษาขอนแก่น วอนพลเมืองดีช่วยแจ้งเบาะแสรถกระบะตีนผี เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ลูกสาวล้มเจ็บ แล้วหลบหนีไป

(30 พ.ค.) นางมิตรา อายุ 55 ปี ชาวอำเภอแวงน้อย จ.ขอนแก่น พร้อมญาติๆ ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณจุดกลับรถบนถนนกัลปพฤกษ์ ใกล้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น จุดเกิดเหตุรถยนต์กระบะโตโยต้าสปอร์ตไรเดอร์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 9714 ไม่ทราบ หมวดอักษร เฉี่ยวชนลูกสาวคือ นางสาวสุดารัตน์ อายุ 17 ปี นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น ชั้นปีที่ 3

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะกำลังขี่รถไปยังตลาดเปิดท้ายใกล้กับจุดเกิดเหตุ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาข้างขวาหักและมีบาดแผลตามใบหน้า ซึ่งขณะนี้ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่น โดยความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

นางมิตรา แม่ของผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ภายหลังจากที่ลูกสาวฟื้นจากอาการบาดเจ็บ จึงได้สอบถามได้ความว่า ตอนเกิดเหตุลูกสาวและเพื่อนของลูกสาวได้พากันขี่รถจักรยานยนต์ไปตลาดนัดเปิดท้ายที่อยู่ภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยลูกสาวนั่งซ้อนท้าย

ขณะกำลังขี่รถผ่านจุดกลับรถ เพื่อมุ่งหน้าไปยังตลาด จู่ๆ มีรถยนต์กระบะที่มาจากฝั่งตรงข้ามได้เลี้ยวกลับรถอย่างกะทันหัน ทำให้ถูกชนเข้าที่บริเวณด้านข้างรถจักรยานยนต์ ร่างลูกสาวกระเด็นตกจากรถจักรยานยนต์ ส่วนเพื่อนที่เป็นคนขับไถลไปกับรถจักรยานยนต์ ห่างจากจุดเฉี่ยวชนประมาณ 100 เมตร

โดยหลังเกิดเหตุรถยนต์กระบะคู่กรณีได้หลบหนีเข้าไปในมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ช่วยไล่ตามไปและจดจำป้ายทะเบียนรถ แต่จดจำได้เพียงหมายเลขทะเบียนและยี่ห้อรถเท่านั้น ก่อนที่จะรีบกลับมาดูคนเจ็บและให้การช่วยเหลือ พร้อมกับแจ้งเบาะแสของรถยนต์กระบะ ที่เฉี่ยวชนให้ทราบ

แม่ของผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกเสียใจกับความไร้น้ำใจของคนขับรถยนต์ที่เป็นคู่กรณี ที่ไม่สนใจใยดี แต่กลับขับรถหลบหนีไม่ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งหากไม่มีพลเมืองดีที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเข้ามาช่วย ลูกสาวอาจจะถูกรถยนต์คันอื่นๆ ที่วิ่งตามหลังมาเหยียบซ้ำ และอาจเป็นอันตรายมากกว่านี้

เบื้องต้นตนได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่นแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหาตัวเจ้าของรถคู่กรณีได้ จึงอยากให้พลเมืองดีที่ทราบเบาะแส ช่วยกันให้ข้อมูลอีกทางหนึ่ง เพื่อให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น