พระไทยยืนยัน "เจ้าหญิง" สืบเชื้อสายราชวงศ์กัมพูชา ยังมีอยู่จริง
ความคืบหน้ากระแสข่าวเตือน "เจ้าหญิงปลอมจากกัมพูชา" สืบเชื้อสายสกุล "สีสุวัต" พระไทยยืนยันเป็นอยู่จริง เสด็จข้ามแดนมาทำบุญฝั่งไทยอยู่บ่อยครั้ง
จากกรณีที่สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย ได้ออกประกาศชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า ขณะนี้มีข่าวเป็นเท็จแพร่สะพัดในหมู่ชาวกัมพูชาในประเทศไทย เกี่ยวกับการกล่าวอ้างว่าเป็น เจ้าหญิงกัมพูชาพระองค์หนึ่งชื่อ "เจ้าหญิงสีสุวัต กุสะมะมุนีรัตนา" มาอาศัยอยู่ในประเทศไทยและกำลังจะไปพบปะชาวกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทยในช่วงปลายเดือนนี้
โดยทางสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นข่าวลวง อย่าได้หลงเชื่อ อันที่จริงพระมหากษัตริยานี พระสีสุวัต กุสุมะนุนีรัตนา เสด็จสวรรคตไปแล้ว เมื่อปลายทศวรรตที่ 70
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลภาพนิ่งประกอบ อ้างเป็นภาพของพระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ เพชรทาวี พระปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา, พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ โสมากะริทาริกา และ พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตนา แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา
ซึ่งพระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ เพชรทาวี มีศักดิ์เป็นน้าของ พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ โสมากะริทาริกา และพระองค์ เจ้าสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตนา แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และเป็นเชื้อสายราชวงศ์กัมพูชา เชื้อสายพระวงศ์สกุล "สีสุวัต" จริง และมีข้อภาพในภาพว่าเป็นเจ้าหญิงเก๊และเจ้าหญิงปลอม
ซึ่งในข้อความของการออกประกาศของสถานเอกอัคราชฑูตพระราชอาณาจักรกัมพูชา ประจำประเทศไทย ไม่เกี่ยวกับทั้ง 3 พระองค์ และสื่อมวลชนรวมทั้งโลกโซเชี่ยลบางแห่งกลับนำภาพคลิปต่างๆ ของพระองค์ไปโยงให้เกี่ยวข้องว่าเป็นเจ้าหญิงเก๊ ทำให้เกิดความเสียหาย และเข้าใจผิดว่าทั้ง 3 พระองค์นั้นเป็นเจ้าหญิงตัวปลอม
ล่าสุดในวันนี้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัด.สุรินทร์ ได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พระครูอรรถธรรมโสภิต เจ้าคณะตำบลตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ และที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดพระธาตุเสด็จ 72 พรรษา ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า ข่าวดังกล่าวที่ระบุชื่อ เจ้าหญิงสีสุวัต กุสะมะมุนีรัตนา
รวมทั้งยังมีการนำภาพของ พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ เพชรทาวี พระปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และ พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตนา แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งทั้งคู่มีศักดิ์เป็นน้าหลานกัน และเป็นเชื้อสายราชวงศ์กัมพูชาจริง ซึ่งอาจทำให้ทั้ง 3 พระองค์เสื่อมเสีย
ซึ่งทั้ง 3 พระองค์เคยเสด็จมาทำบุญที่วัดพระธาตุเสด็จ 72 พรรษาอยู่บ่อยครั้ง อาตมาก็เคยข้ามไปยังประเทศกัมพูชาก็หลายครั้ง จึงทราบดีว่าเป็นเชื้อสายราชวงศ์จริงๆ ไม่ได้หลอกลวงแต่อย่างใด ทั้ง 3 พระองค์มักจะเดินสายทำบุญอยู่แล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ และ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากมีชายแดนดินกับกัมพูชา
และสาเหตุชาวกัมพูชาบางส่วนไม่ค่อยรู้จัก เพราะเชื้อสายพระวงศ์ของกัมพูชาแตกแขนงออกไปเยอะมาก อีกทั้งไม่ค่อยได้ออกสื่อในกัมพูชา จึงทำให้ชาวกัมพูชาไม่ค่อยคุ้นเคยมากนัก ซึ่งอาจมีคนไม่หวังดีกุข่าวขึ้นมาก็เป็นได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามชาวกัมพูชาที่มาค้าขายอยู่ที่ตลาดการค้าเสรีชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถึงเรื่องราวดังกล่าว โดยการนำรูปถ่ายให้ชาวกัมพูชาที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปดู หลายคนต่างบอกว่าไม่รู้จักคนในภาพที่เป็นข่าว พร้อมพูดเป้นเสียงเดียวกันว่า เชื้อสายกษัตริย์ โดยเฉพาะเชื้อสายสกุล "สีสุวัต" ในประเทศกัมพูชา มีการแตกแขนงออกไปกันเยอะ อีกอย่างไม่มีการรายงานข่าวพระราชสำนักในกัมพูชา และนานครั้งจึงจะเห็นกษัตริย์สักครั้ง
นางเต็ง ชาว จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา บอกว่า วงศ์ตระกูลนี้มีอยู่จริง ตนได้ยินชื่อแต่คนในรูปตนไม่รู้จัก เพราะเขาไม่เคยออกหน้าออกตา ในทีวีก็ไม่มีออก ตนรู้จักแค่องค์เดียวคือกษัตริย์ นอกนั้นไม่รู้เพราะมีการแตกแขนงกันออกไปเยอะลูกหลาน แต่ตระกูลนี้มีจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ เพชรทาวี พระปนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้เสด็จมาเป็นประธานฝ่ายฆราวาส เพื่อทำพิธีเปิดถนนสวรรค์นิมิตหลวงพ่อดิง โดยมี พระสมุห์ชิง ฐานวีโร หรือ หลวงพ่อดิง เจ้าอาวาสวัดหนองป่ามหาไทย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ท่ามกลางชาวบ้านในพื้นที่ที่เดินทางมาร่วมงานจำนวนมากอีกด้วย