เหมือนฉากหนังหายนะ นาทีลมพัดเสาไฟฟ้าไล่เรียงล้มใส่ฝรั่งขี่รถ
วงจรปิดจับภาพนาทีสยอง ขณะพายุลมแรงพัดเสาไฟฟ้าแรงสูง ไล่เรียงล้มขวางทาง ทำให้ชาวเยอรมันขี่รถอยู่ได้บาดเจ็บรักษาสาหัส
จากกรณีเกิดเหตุพายุลมกรรโชกแรง ทำให้เสาไฟฟ้าแรงสูง 22,000 โวลล์ ริมถนนสายคลองโคน-ยี่สาร ล้มขวางถนนจำนวน 11 ต้น ทำให้ นายโทมัส ไรน์เนิร์น ชาวเยอรมัน อายุ 51 ปี ที่ขี่รถจักรยานยนต์มาจากเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อกลับบ้านพักในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกสายสัญญาณสื่อสารฟาดจนไหปลาร้าหัก ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวานนี้ (29 พ.ค.)
ล่าสุดมีภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้ ขณะที่ นายโทมัส กำลังขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านมาบริเวณจุดเกิดเหตุพอดี โดยพบว่าช่วงเกิดเหตุมีลมกรรโชกแรง ภาพจากกล้องยังสั่นไหว และพบเห็นเสาไฟฟ้าแรงสูงโค่นล้มลงไล่เรียงตามหลัง นายโทมัส มาติดๆ แต่สามารถขับหนีพ้นมาได้ 3 ต้น
แต่เมื่อขับขี่มาถึงเสาไฟฟ้าต้นที่ 4 ที่ล้มขวางหน้าอย่างกะทันหัน ทำให้ นายโทมัส เบรกรถเอาไว้ไม่ทันและชนเข้าอย่างจัง นายโทมัสจึงกระเด็นไปถูกสายสัญญาณสื่อสารฟาดคอจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เคราะห์ดีที่สวมหมวกนิรภัยจึงไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต
ล่าสุดนายสุวัฒน์ กัลยา ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสมุทรสงคราม ได้นำเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าในพื้นที่และใกล้เคียงรวม 8 ทีมกว่า 50 คน ใช้เครื่องจักรกลหนักปักเสาไฟฟ้าและติดตั้งระบบไฟฟ้าจ่ายกระแสไฟฟ้าทั้งระบบได้ตั้งแต่ทุ่มครึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว
ส่วนความคืบหน้าอาการบาดเจ็บของนายโทมัส ยังพักรักษาตัวในหอผู้ป่วยศัลยกรรมชาย ชั้น 3 อาคารรวมใจเอื้อ โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ทีมแพทย์พยาบาลให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสมุทรสงครามเข้าเยี่ยมอาการและรับว่าจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษา รวมถึงค่าซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยี่สาร เดินทางเข้าให้ความช่วยเหลือในการนำรถจักรยานยนต์ส่งคืนให้ที่บ้านพักในอำเภอหัวหินด้วย
นายแพทย์วัชระ จันทร์เจริญกิจ ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้ากล่าวว่าอาการของคนไข้มีอาการกระดูกไหปลาร้าข้างซ้ายหัก ส่วนอาการเจ็บซี่โครง เบื้องต้นน่าจะเป็นอาการกล้ามเนื้ออักเสบจากการถูกกระแทก แต่เพื่อความปลอดภัยได้เอ็กซเรย์ตรวจสอบแล้ว ทีมแพทย์กำลังวินิจฉัยว่ากระดูกซี่โครงหักหรือไม่ ซึ่งทีมแพทย์จะดูอาการอีก 1 วัน หากไม่พบปัญหาอะไรก็จะอนุญาตให้กลับบ้านได้