จงรัก ฟันธงคนร้ายไม่ต่ำ 5 ยิงถล่ม สนธิ

จงรัก ฟันธงคนร้ายไม่ต่ำ 5 ยิงถล่ม สนธิ

จงรัก ฟันธงคนร้ายไม่ต่ำ 5 ยิงถล่ม สนธิ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จงรัก ฟันธงคนร้ายลอบสังหาร สนธิ มีไม่ต่ำกว่า 5 คน พุ่งปมการเมือง-ส่วนตัว เป็นไปได้ทั้งคนมีสีและไม่มีสี เพราะยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ ข้องใจกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุเสียได้อย่างไรเร่งสอบถามกทม. ส่งกำลังคุมเข้มความปลอดภัย"สนธิ"ที่รพ.หวั่นก่อเหตุซ้ำ

(18เม.ย.) ที่สน.ชนะสงคราม พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) กล่าวหลังประชุมว่า ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังการชี้แจงความคืบหน้าของคดี และวางแนวทางในการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีโดยได้กำชับให้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมวัตถุพยานทั้งหมดในที่เกิดเหตุ รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ซึ่งทราบว่าก่อนหน้านี้กล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกบางขุนพรม ได้เสียไปก่อนหน้าเกิดเหตุหนึ่งวัน ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบกับทางกทม.ว่ากล้องตัวดังกล่าวเสียเพราะสาเหตุอะไร

พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะมีประมาณ 5 คนขึ้นไป และสิ่งที่จะยืนยันถึงรูปร่างลักษณะของคนร้ายได้คือพยานบุคคที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้กำชับให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งสอบสวนพยานบุคคลเหล่านี้และเบื้องต้นได้ตั้งประเด็นการลอบสังหารไว้ 2 ประเด็น คือเรื่องการเมือง และเรื่องส่วนตัว โดยในเรื่องการเมืองนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่านายสนธิ มีการขัดแย้งกับบุคคลทางการเมืองหลายฝ่าย ซึ่งจะต้องสืบสวนสอบสวนว่ามีความขัดแย้งในเรื่องดังกล่าว

ส่วนสาเหตุในเรื่องส่วนตัวก็จะต้องมีการสอบสวนโดยสวนหนึ่งคงจะต้องรอให้นายสนธิ หายจากอาการบาดเจ็บและพร้อมที่จะให้การซึ่งคงต้องฟังว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่เชื่อว่าจะนำไปสู่การลอบสังหารครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมที่จะสืบสวนขยายผลตามที่นายสนธิ เชื่อว่าจะเป็นประเด็นในการลอบสังหาร หากพบว่าไม่มีสาเหตุส่วนตัวก็คงต้องตัดประเด็นนี้ออกไป

พล.ต.อ.จงรัก กล่าวอีกว่า แม้ว่าสาเหตุการลอบสังหารจะเป็นเรื่องการเมืองตนก็ไม่มีความหนักใจอะไรเพราะถือว่าเป็นตำรวจอาชีพทำงานตรงไปตรงมาไม่เคยยุ่งเกี่ยวการเมืองเกี่ยวกับชีวิตการทำงาน ตนยึดหลัก 3 ประการ คือ ต้องมีความจงรักภักดิ์ดีต่อพระมหากษัตริย์ ปัดเป่าความเดือดร้อนของประชาชนและทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามอย่างนี้แสดงว่าเป็นคนในเครื่องแบบใช่หรือไม่ พล.ต.อ.จงรัก กล่าวว่า ในอดีตการจับกุมคนร้ายที่ผ่านมาก็เคยปรากฏว่ามีการจับกุมคนร้ายที่เป็นพลเรือนแต่ใช้อาวุธสงครามในการก่อเหตุ ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้จึงยังไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่าคนร้ายเป็นคนในเครื่องแบบหรือไม่เพราะยังไม่มีพยานหลักฐานยืนยันจนกว่าจะมีการจับกุมคนร้ายได้ แต่ในความรู้สึกนึกคิดของคนบางคนอาจจะมองว่าเป็นคนมีสีซึ่งในส่วนของพนักงานสอบสวนจะสามารถยืนยันได้ชัดเจนก็ต่อเมื่อมีพยานหลักฐานเท่านั้น

อย่างไรก็ตามก็ได้กำชับให้ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งสายสืบเข้าไปดูแลความปลอยภัยของนายสนธิ ระหว่างที่มีการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯเพื่อป้องกันไม่ให้มีการก่อเหตุซ้ำขึ้นอีก

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook