เอะใจงมหอยนาน สุดท้ายกลายเป็นศพโผล่ขึ้นจากน้ำ

 

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ร.ต.อ.วุฒิชัย ชูรัตนศุภนนท์ รับแจ้งเหตุคนหายคาดว่าน่าจะจมน้ำจึงประสานหน่วยกู้ภัยช่วยค้นหา ที่เกิดเหตุเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่กว้างประมาณ 100 เมตร ลึก 2-4 เมตร

เนื่องจากเป็นบ่อน้ำในที่ดินส่วนตัวและเป็นบ่อน้ำที่ขุดดินออกไปขายจึงทำให้น้ำตื้นลึกไม่เท่ากันบางช่วงก็ลึกมาก โดยหน่วยกู้ภัยแพร่ลงงมหาในสระน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่  นายสวง  แส้นันท์  อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 27 ม.3 ต.แม่ยม อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ สามีของ นางแสงจันทร์  ต๊ะวงศ์ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 205 ม.5 ต.ทุ่งโฮ้งอ.เมืองแพร่ จ.แพร่ ที่คาดว่าน่าจะจมน้ำ

นายสวงฯ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและนางแสงจันทร์ฯ ก็ยังคุยกันอยู่ในระหว่างที่นางแสงจันทร์ฯ ลงน้ำไปงมหอยขมเพื่อไปขายในตลาด ตนก็ยังบอกว่าเย็นแล้วน่าจะขึ้นได้แล้ว แต่นางแสงจันทร์ก็ยังไม่ขึ้น

ตนหิวน้ำเลยกลับไปดื่มน้ำที่บ้าน พอกลับมาอีกทีก็ไม่พบนางแสงจันทร์ฯ อยู่ที่ในสระน้ำแล้ว ก็ไม่ได้เอะใจคิดว่าน่าจะไปงมหอยต่อในสระน้ำข้างๆ ซึ่งมีอยู่หลายสระติดกัน แต่พอเวลาล่วงเลยมานาน จนเอะใจก็จึงมาบอกลูกชาย และพี่ชายของนางแสงจันทร์ฯ ให้ช่วยกันออกตามหา

จนมาพบรองเท้า ของนางแสงจันทร์ฯ ยังถอดอยู่ที่ข้างสระ จึงทำให้มั่นใจว่าน่าจะจมน้ำแน่นอน จึงประสานขอให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ

หน่วยกู้ภัยแพร่ใช้เวลาหลายชั่วโมง ช่วยกันค้นหาทั้งชุดประดาน้ำและปูพรมเดินค้นหาก็ยังไม่พบ จึงขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยกู้ภัยพรานพิทักษ์ร้องกวาง และหน่วยกู้ภัยสองรวมใจ เข้ามาช่วยค้นหา

จนอยู่ๆ ศพก็ลอยขึ้นมาเองเลยจากจุดที่สามีนางแสงจันทร์ฯ ชี้ว่าเห็นครั้งสุดท้ายไปไม่ไกลนัก แพทย์ชันสูตรในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด พบเพียงรอยเชือกที่คอ เนื่องจากนางแสงจันทร์ฯ ใช้เชือกมัดถุงแล้วนำหอยขมที่ได้ใส่ไว้ในถุง น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม

ซึ่งหลังพบศพก็ได้นำหอยทั้งหมดลงไปปล่อยในน้ำไว้แล้วและญาติก็ไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากไม่พบบาดแผลและร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด หลังชันสูตรแล้วจึงได้มอบศพให้ญาติบำเพ็ญกุศลต่อไป