ผกก.ราชบุรีเร่งสืบคดีฉาว สาวถูกตำรวจตบบ้องหู-หวังข่มขืน
ตำรวจ ผกก.ราชบุรี ออกโรงกล่าวถึงคดีอื้อฉาวที่สังคมกำลังให้ความสนใจ สาวโดนตำรวจตบบ้องหูบาดเจ็บ กักขังหวังจะข่มขืน ย้ำทำคดีอย่างตรงไปตรงมา
จากกรณีหญิงสาวชาวราชบุรี เป็นบุคคลากรทางการแพทย์วัย 46 ปี ชาวอำเภอปากท่อจังหวัดราชบุรี ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนและทนายความชื่อดัง หลังตนเองถูกตำรวจยศระดับ ร.ต.อ. นายหนึ่งในสถานีตำรวจภูธรปากท่อ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี หลอกใช้กลอุบายยืมรถยนต์กระบะของเธอ โดยอ้างว่าไปร่วมงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองราชบุรี และหลอกเธอเข้าไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอปากท่อ เพื่อพยายามข่มขืน
โดยที่หญิงสาวรายนี้พยายามขัดขืนจนถูกทำร้ายร่างกายจนเยื้อหูฉีกขาดและแก้วหูทะลุ มีรอยฟกช้ำหลายจุดตามร่างกาย จากนั้นได้พยายามหนีเพื่อเอาชีตรอดและเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี แต่เนื่องด้วยผู้ต้องหาเป็นตำรวจระดับ ร.ต.อ. เธอจึงหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีแถมยังถูกข่มขู่คุกคามเพื่อให้ตนเองถอนแจ้งความ เพื่อแลกกับความปลอดภัยต่อชีวิต
>>> ตำรวจราชบุรี ตบสาวแก้วหูฉีก หวังข่มขืน เหยื่อร้องขอความเป็นธรรม
ล่าสุด หญิงสาวชาวราชบุรี บุคคลากรทางการแพทย์ผู้เสียหายได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปรามเพื่อขอให้ช่วยดำเนินคดีและจับกุมนายตำรวจยศใหญ่รายนี้เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของคนมีสีในพื้นที่ จ.ราชบุรี ประกอบกับผู้กระทำผิดได้ข่มขู่พยานที่เห็นเหตุการณ์ จนเกิดความหวาดกลัว
ล่าสุดทางด้าน พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เปิดเผยถึงเรื่องความคืบหน้าของคดีว่า ทางตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี โดยเฉพาะ ทีมพนักงานสอบสวนเราได้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาและเที่ยงธรรม จากการที่ผู้เสียหายได้ร้องว่าคดีไม่มีความคืบหน้าตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอชี้แจงว่า เราได้มีการติดตามความคืบหน้าของคดีมาโดยตลอดตั้งแต่ต้น
ซึ่งเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เราได้มีการทำหนังสือชี้แจงความคืบหน้าของคดี เป็นหนังสือชี้แจงความคืบหน้าการสอบสำนวนคดีอาญา ที่ ตช 002(รบ).74/พิเศษ ลง ณ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 โดยได้เรียนถึงหญิงสาวผู้เสียหาย (ขอสงวนชื่อจริง) โดยสรุปใจความหนังสือระบุว่า
พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ขอแจ้งความคืบหน้าผลการดำเนินการของพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 ผู้ต้องหาได้เข้พบพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตรงนี้ในท้ายหนังสือทางหญิงสาวผู้เสียหายได้มีการเซ็นต์ลายมือชื่อของตนเองลงรับหนังสือไว้อย่างชัดเจน
ในเรื่องของรูปคดีตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ผลการตรวจของทางแพทย์มาเรียบร้อย เหลือเพียงผลของลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาที่ยังขาดอยู่ เบื้องต้นเราก็เร่งดำเนินการอยู่ หากได้มาเราก็จะนำมาประกอบสำนวนเพื่อส่งฟ้องศาลทันที หากผู้เสียหายกังวลในเรื่องของความไม่เป็นธรรมก็สามารถเข้ามาร้องเรียนเพิ่มเติมได้
เรายืนยันว่าทำคดีอย่างเที่ยงธรรมที่สุด ในส่วนของพวกพ้องตรงนี้ไม่มีแน่นอน ใครทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด สำหรับในเรื่องของการถูกข่มขู่คุกคามนั้นเบื้องต้นตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้เพราะเป็นเรื่องของตัวบุคคล หากผู้เสียหายถูกข่มขู่สามารถเข้าแจ้งความได้ ณ ตำรวจท้องที่ได้ทันที และในเรื่องที่มีข่าวว่าทางผู้ต้องหาเกิดก่อเหตุในลักษณะนี้ ตรงนี้อยากให้หญิงสาวที่เคยถูกกระทำสามารถเข้าแจ้งความเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหากพิสูจน์ว่าก่อเหตุจริง
พ.ต.อ.อภิชาต กล่าวอีกว่า สำหรับในคดีนี้หากผู้เสียหายสงสัยการทำคดีของพนักงานสอบสวนก็สามารถเข้ามาติดตามคดีได้ เพราะคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ทำกันอย่างระมัดระวัง พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรม และจากรายงานเบื้องต้นจาก สภ.ปากท่อ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ ตำรวจนายนี้ ในเรื่องของการพิจารณาโทษทางวินัยข้าราชการตำรวจ ทาง สภ.ปากท่อ ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยระยะเวลาในการสืบสวนข้อเท็จจริงกำหนดเป็นไปตามระเบียบฯ เช่นเดียวกัน