ย้ายด่วน! ตร. ยศร้อยเอก คู่กรณีสาววัย 46 ปี ที่ถูกทำร้ายร่างกายและหวังข่มขืน
(3 มิ.ย.61) ความคืบหน้ากรณีหญิงสาวบุคลากรทางการแพทย์วัย 46 ปี ชาวอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ถูกตำรวจยศระดับ ร.ต.อ. นายหนึ่ง ในสถานีตำรวจภูธรปากท่อ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี หลอกใช้กลอุบายยืมรถยนต์กระบะของเธอโดยอ้างว่าไปร่วมงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอยู่ริมถนนสายบายพาสทางเลี่ยงเมือง ตำบลหลักเมือง อำเภอเมืองราชบุรี เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 61 ที่ผ่านมา
และหลอกเธอเข้าไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอปากท่อ เพื่อพยายามข่มขืนโดยที่หญิงสาวรายนี้พยายามขัดขืนจนถูกทำร้ายร่างกายจนเยื่อหูฉีกขาดและแก้วหูทะลุ มีรอยฟกช้ำหลายจุดตามร่างกาย จากนั้นได้พยายามหนีเพื่อเอาชีตรอดและเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี แต่เนื่องด้วยผู้ต้องหาเป็นตำรวจระดับ ร.ต.อ. เธอจึงหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีแถมยังถูกข่มขู่คุกคามเพื่อให้ตนเองถอนแจ้งความ เพื่อแรกกับความปลอดภัยต่อชีวิต
จนเมื่อ วันที่ 1 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา หญิงสาวชาวราชบุรี บุคลากรทางการแพทย์ผู้เสียหายได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปรามเพื่อขอให้ช่วยดำเนินคดีและจับกุมนายตำรวจยศใหญ่รายนี้ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของคนมีสีในพื้นที่ จ.ราชบุรี ประกอบกับผู้กระทำผิดได้ข่มขู่พยานที่เห็นเหตุการณ์จนเกิดความหวาดกลัวจะเกิดอันตราย
ซึ่งจากการที่มีการนำเสนอข่าวและติดตามคดีอย่างต่อเนื่องจนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกสังคมออนไลน์ ทำให้ สภ.ปากท่อ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ ตำรวจนายนี้ ในเรื่องของการพิจารณาโทษทางวินัยข้าราชการตำรวจ ทาง สภ.ปากท่อ ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยระยะเวลาในการสืบสวนข้อเท็จจริงกำหนดเป็นไปตามระเบียบฯ
ล่าสุด ทางสถานีตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด ที่ ตช. 0022(รบ).715/5508 ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ถนนอัมรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ลง ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2561 เรื่อง รายงานข้อเท็จจริง กรณีร้องเรียนผ่านสื่อโทรทัศน์ เรียน บรรณาธิการ อ้างถึงหนังสือ ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ที่ 0022(รบ).715/5501 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2561ในความว่า
ตามที่อ้างหนังสือตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี แจ้งข้อเท็จจริงกรณี “ตำรวจราชบุรี ตบสาวแก้วหูฉีก หวังข่มขืนเหยื่อขอความเป็นธรรม” มาเพื่อทราบและพิจารณานำเสนอข่าวที่ถูกต้องนั้น ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ขอเรียนว่าได้มีคำสั่งที่ 255/2561 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2561 ให้ ร้อยตำรวจเอกสนธยา รองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรปากท่อ รักษาราชการแทนในตำแหน่งรองสารวัตร (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรดำเนินสะดวก ไปปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี โดยขาดจากบังคับบัญชาทางตำแหน่งเดิม ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถือ พันตำรวจเอก ณรงค์เดชศ์ ศักดิ์สมบูรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ปฏิบัติราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี
ซึ่งทางด้านคุณหมวย สาวคู่กรณี หลังทราบเรื่องได้ตั้งคำถามถึงผู้บังคับบัญชาในกรณีเหตุของตนที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า มีการถูกกระทำจริง ตั้งแต่เกิดเรื่องมาเป็นเดือนไม่มีการย้ายหรือให้ออกจากราชารการกับทางนายตำรวจรายนี้อย่างไร เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 61 ได้ทราบข่าวว่า ตำรวจคู่กรณีถูกย้ายไปยัง สภ.ดำเนินสะดวก และให้ไปปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี นอกจากนี้สำนวนคดี ตนเองได้ปรึกษาทางทนายความชื่อดัง ถึงเรื่องที่ตนเองกำลังถูกคุกคามจากทางตำรวจคู่กรณี และการลงสำนวนเพื่อดำเนินคดี
“กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้,พาผู้อื่นไปเพื่ออนาจาร ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด,กักขังหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส” เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 61
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของทางด้าน ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ได้มีการให้ทาง facebook ชื่อ ฝ่ายอำนวยการห้า ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ได้โพสต์ข้อความประชาสัมพันธ์ “ตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้ลงข่าว กรณีนางสาวสุดารัตน์ ถูก ร.ต.อ.สนธยา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากท่อ ใช้กำลังทำร้ายร่างกายเพื่อบังคับข่มขืน ซึ่งคดีผ่านมากว่า 1 เดือน แต่ไม่มีความคืบหน้าและคู่กรณีที่เป็นตำรวจได้ติดต่อมาข่มขู่ เยาะเย้ย นั้น ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ขอรายงานผลการดำเนินการ ดังนี้
- ในคดีนี้ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้ดำเนินการรับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 2 พ.ค.61 และได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ ร.ต.อ.สนธยา ผู้ต้องหาในคดีนี้ทราบว่า “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้,พาผู้อื่นไปเพื่ออนาจาร ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด,กักขังหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส” เมื่อวันที่ 8 พ.ค.61
พร้อมกับได้ดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา
- เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 61 ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้มีหนังสือแจ้งความคืบหน้าการสอบสวนคดีอาญาให้กับนางสาวสุดารัตน์ ผู้เสียหายในคดีนี้ไปแล้ว
- ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ได้กำชับให้ร้อยเวรสอบสวน เร่งรัดการทำสำนวนคดีให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ตลอดจนดำเนินการไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย ภายในกำหนดระยะเวลา ตามคำสั่ง ตร.ที่ 419/2556
- ในทางวินัย ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมี พ.ต.ท.สมบูรณ์ มูรพันธ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ปากท่อ เป็นประธานคณะกรรมการ
- ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ได้มีคำสั่ง ที่ 255/2561 ให้ ร.ต.อ.สนธยา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากท่อ ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี โดยขาดจากบังคับบัญชาทางตำแหน่งเดิม
วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังสถานีตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ซึ่งตั้งอยู่ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานล่าสุดของ ตำรวจ ร.ต.อ. คนดังกล่าว คือในตำแหน่งปฏิบัติราชการประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี แต่กลับไม่พบ เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการ ตำรวจ ร.ต.อ. คนดังกล่าวคาดว่าจะยังคงไม่เดินทางเข้ามาทำงานดังกล่าว
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ