หนุ่มลาวเอาเงินเมียไปกินเหล้าหมด กลัวโดนด่าจึงทำพาสปอร์ตปลอม สุดท้ายโดนจับ

หนุ่มลาวเอาเงินเมียไปกินเหล้าหมด กลัวโดนด่าจึงทำพาสปอร์ตปลอม สุดท้ายโดนจับ

หนุ่มลาวเอาเงินเมียไปกินเหล้าหมด กลัวโดนด่าจึงทำพาสปอร์ตปลอม สุดท้ายโดนจับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2561  ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.โกเมน สุภาพ ผู้กำการตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร  พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ ทิพย์ธนาวิวัฒ  รอง ผู้กำการตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร และชุดสืบสวนปราบปราม

นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก สารวัตร ตม.จว.มุกดาหาร ได้ทำการจับกุม MR.PHEUNG อายุ 27 ปี สัญชาติ ลาว ถือหนังสือเดินทางเลขที่ PA 0123948 ข้อหา “ ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอมและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ที่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดมุกดาหาร

ขณะเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนออกตรวจสถานีขนส่งผู้โดยสาร ตามแผนระดมกวาดล้างอาชญากรรม พบผู้ถูกจับกุมอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ จึงขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวผู้ถูกจับได้แสดงหนังสือเดินทาง

จากการตรวจสอบพบว่าผู้ถูกจับอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.2560 และจากการตรวจสอบหนังสือเดินทางโดยละเอียดพบว่ามีการนำหน้า 7 ของหนังสือเดินทางเล่มอื่นหมายเลข P1623533 มาแปะติดไว้ด้วยกาวระหว่างหน้า 6 กับหน้า 7 ในหนังสือเดินทางของ MR.PHEUNG  

จากการสอบถาม MR.PHEUNG ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และได้บอกถึงสาเหตุในการปลอมหนังสือเดินทาง ว่าเนื่องจากวันอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง จึงได้กรีดตัดหน้าหนังสือเดินทางของเพื่อน

ซึ่งมีรอยตราประทับเข้า-ออก มาติดไว้ในหนังสือเดินทางของตน เพื่อแสดงว่าตนได้เดินทางเข้า-ออกถูกต้องตามกฎหมาย และสาเหตุอยู่เกินกำหนดอนุญาต เนื่องจากผู้ถูกจับทำงานเป็น รปภ.อยู่บริษัทแห่งหนึ่งที่ กทม. ไม่มีเวลากลับบ้าน และไม่ได้ออกไปต่อหนังสือเดินทาง

จึงปล่อยให้วีซ่าขาดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และวันนี้ตั้งใจจะเดินทางกลับบ้านเพื่อทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ ก่อนที่พาสปอร์ตของตนเองจะหมดอายุ ภรรยาได้เอาเงินไห้ไปต่ออายุ

แต่ตนเองได้เอาเงินไปกินเหล้ากับเพื่อน  เลยเอาพาสปอร์ตของเพื่อนฉีกมาแปะพาสปอร์ตของตนเอง และเขียน พ.ศ. ทับตัวเดิมตนเองกลัวภรรยาต่อว่าก็เลยทำ เพื่อหลอกเมียว่าไปต่อแล้วและมาถูกจับกุมดังกล่าว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหารได้นำตัว MR.PHEUNG ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook