"สรยุทธ" เปิดความในใจสุดเศร้า นาทีสุดท้ายที่ลูกได้อยู่เคียงข้างแม่
กลายเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของอดีตพิธีกรข่าวชื่อดัง "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" ที่เพิ่งจะผ่านพิธีอุปสมบทอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์อย่างเงียบๆ มาสักระยะหนึ่ง เพื่อบวชให้กับ "คุณแม่วิชชุดา สุทัศนะจินดา" ที่กำลังป่วยหนัก แต่หลังจากลาสิกขาออกได้เพียงไม่นาน คุณแม่ก็จากไปในที่สุด
เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากจัดการพิธีงานศพของคุณแม่แล้วเสร็จ สรยุทธ ก็ได้โพสต์ข้อความและเปิดใจเล่าเรื่องราวๆ เกี่ยวกับการสูญเสียคุณแม่ครั้งนี้ ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เล่าเรื่องราวตั้งแต่ชีวิตวัยเด็ก มีเพียงคุณแม่คนเดียวที่เลี้ยงดูแลจนเติบใหญ่เป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จในสังคมไทย
>> "สรยุทธ" สูญเสียคุณแม่หลังลาสิกขาไม่กี่วัน พี่น้องในวงการร่วมอาลัย
สรยุทธ เล่าเรื่องราวผ่านข้อความว่า พ่อเสียไปตั้งแต่ยังไม่รู้ความ ตั้งแต่จำความได้ก็มีแต่แม่ที่ทำหน้าที่เป็นพ่อและแม่ไปพร้อมกัน แม่ลำบากมาตลอด ไม่มีช่วงไหนที่แม่สบาย ลำพังขายผลไม้เลี้ยงลูกๆ 3 คน แทบไม่มีเวลานอน ก่อนจะเปลี่ยนมาขายของจุกจิก
เวลาเดียวที่รู้สึกได้ว่าแม่สบายใจก็คือ การได้เห็นลูกๆ ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อถึงเวลาที่แม่ควรจะได้สบาย ลูกๆ อยากตอบแทนแม่ พาแม่ไปเที่ยวรอบโลก ปรากฏว่าแม่ก็ล้มป่วยเป็นพาร์กินสันเทียม ทุกข์ทรมานมากว่า 10 ปี เป็นสิ่งที่ทำให้เสียใจที่สุด
อดีตพิธีกรข่าวยังเล่าต่อว่า ตนไม่เคยรู้มาก่อนว่าแม่อยากให้บวช เพราะเป็นลูกชายคนเดียว แม่ก็ไม่เคยออกปากพูดเลย ก็เพิ่งมารู้เองจากญาติๆ หลังจากที่ลาสิกขาออกมาว่า แม่เคยบอกไว้ตั้งแต่ตอนที่ยังพูดได้ว่า อยากเห็นตนบวช แต่แม่ก็ไม่กล้าบอกตรงๆ เพราะเห็นช่วงนั้นตนงานยุ่งมากๆ
การบวช 33 วันที่ผ่านมานั้น ตนตั้งใจจะอุทิศให้กับแม่และเจ้ากรรมนายเวรของแม่ อยากให้แม่หายป่วยและทรมาน แม้จะแอบกลัวว่า หากเจ้ากรรมนายเวรท่านอโหสิกรรมให้แม่แล้ว แม่อาจจะจากไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ดีใจที่สุดก็คือวันที่รับกิจนิมนต์มารับบาตรและสวดมนต์ให้แม่ฟังที่โรงพยาบาล แม่ยกมือ แม่น้ำตาไหล แม้จะพูดไม่ได้ แล้วหลังจากนั้นทุกๆ 6 โมงเย็น แม่ก็จะรอให้เฟซไทม์ไปหา เพื่อสวดมนต์ให้ฟังเสมอ
กระทั่งวันที่ 3 มิถุนายน อาการของแม่แย่ลง ติดเชื้อและดื้อยาอย่างรุนแรง ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นลักษณะเช่นนี้มาหลายครั้ง แต่ก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง แต่คราวนี้ความดันเริ่มลดต่ำลง ปอดเริ่มติดเชื้อ คุณหมอยอมรับว่าครั้งนี้อาจจะไม่ปาฏิหาริย์อีกแล้ว
เหตุการณ์ในห้องฉุกเฉินในวันนั้น ตนตัดสินใจเข้าไปจับมือแม่ที่ไม่รู้สึกตัวแล้วบอกกับแม่ว่า สวดมนต์พร้อมกับลูกนะแม่ ก่อนจะก็เริ่มสวดมนต์ทำวัตรเย็นแปลอย่างช้าๆ อย่างที่เคยสวดในวิหารต่อหน้าพระ จนจบบททำวัตรเย็น ตนก็สวดบทนมัสการพระอรหันต์ 8 ทิศ ความดันของแม่ยังตกลงเรื่อยๆ ในใจก็เริ่มกลัวว่าอาจจะสวดไม่จบ
ระหว่างนั้นแม่กลับรู้สึกตัวกลืนน้ำลายอยู่พักหนึ่ง ตนจึงสวดบทถวายพรพระ พาหุง มหากาฯ กระทั่งบทภะวะสัพฯ จนจบ พี่สาวกับน้องสาวเอ่ยกับแม่ว่าสาธุ เพียงอึดใจนั้นเอง เครื่องสัญญาณชีพก็ส่งเสียงดัง ตนเหลือบตาขึ้นไปเห็นชีพจรลงมาอยู่ที่ 0 แล้ว...
ทั้งนี้ สรยุทธ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ตอนนี้แม่ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องทรมานอีกต่อไปแล้ว ขอให้แม่นอนหลับให้สบาย พร้อมกับมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ