ลำดับการหนีของ "อดีตพระพรหมเมธี" จากชายแดนไทย ลัดเลาะประเทศเพื่อนบ้านบินไปเยอรมนี
จากกรณี พระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรือ อดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีเงินทอนวัด หลบหนีไปยังประเทศเยอรมนี และถูกกักตัวไว้ ที่สนามบินนานาชาติ แฟรงก์เฟิร์ต ก่อนจะยื่นเรื่องขอเป็นผู้ลี้ภัยนั้น
>> เยอรมนีให้ความคุ้มครอง “อดีตพระพรหมเมธี” หลังยื่นคำร้องขอลี้ภัย
ล่าสุด (5 มิ.ย.) เว็บไซต์ "อีจัน" ได้เปิดเผยเบื้องหลังการติดตามจับกุม อดีตพระพรหมเมธี ซึ่งพบว่ามีการหลบหนีออกจากประเทศไทยผ่านทางชายแดน จ.นครพนม ก่อนจะเดินทางไปที่ สปป.ลาว, กัมพูชา และขึ้นเครื่องบินที่เวียดนาม เพื่อไปเยอรมนี
22 พ.ค. อดีตพระพรหมเมธี มีกิจนิมนต์ต้องเดินทางไปที่ จ.อุตรดิตถ์,จ.พิษณุโลก และ จ.เชียงใหม่
24 พ.ค. ตำรวจตรวจค้นกุฏิภายในวัดและมีหมายจับ ทำให้อดีตพระพรหมเมธีเปลี่ยนใจไม่เดินทางไปที่ จ.เชียงใหม่ แต่เดินทางมาที่ จ.นครพนม โดยขออาศัยนั่งรถยนต์ของ “สีกา จ.”
รถตู้ของสีกา จ.ชาว สปป.ลาว ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางรับอดีตพระพรหมเมธี ข้ามไปยังแขวงคำม่วน สปป.ลาว ซึ่งระหว่างข้ามพรมแดนอดีตพระพรหมเมธีไม่ได้ลงจากรถยนต์ตู้
>> "สีกา จ." ศิษย์พันธุ์แท้ เผยเส้นทางหนี "อดีตพระพรหมเมธี"
26 พ.ค. อดีตพระพรหมเมธี ออกจากโรงแรมดงไซย์ ท่าแขก สปป.ลาว ออกไปยังประเทศกัมพูชา โดยพบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมบันทึกภาพไว้ได้
จากนั้นชุดสืบสวนประสานทางการประเทศกัมพูชา พบว่าอดีตพระพรหมเมธี ใช้หนังสือเดินทางราชการ หมายเลข OF 11607503 เข้าประเทศกัมพูชา
และออกจากกรุงพนมเปญ ไปยังโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม โดยขึ้นเครื่องบินโดยสารของสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 971
2 มิ.ย. อดีตพระพรหมเมธี เดินทางสนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน หลังจากจองตั๋วเครื่องบินต่อเนื่อง โดยขึ้นเครื่องบินจากสนามบินโฮจิมนท์ ไปยังสนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อต่อเครื่องไปยังประเทศเยอรมนี
ทั้งนี้ จากข้อมูลของชุดสืบสวนทั้งหมด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงประสานตำรวจสากล ให้ควบคุมตัวอดีตพระพรหมเมธี โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม. , พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รองผบก.ป. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. และคณะอัยการ เดินทางไปประเทศเยอรมนี เพื่อสอบปากคำและนำตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย
5 มิ.ย. มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถนำตัวอดีตพระพรหมเมธี กลับมาดำเนินคดีได้ เนื่องจากผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอลี้ภัย ต่อมาสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ประเทศเยอรมนี ได้ส่งคำร้องดังกล่าวไปยังสำนักงานดูแลผู้อพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธ์สาธรณรัฐเยอรมนี (BAMF)