คลังตามรีดภาษี ซานติก้าผับนรก ไม่มีกม.ยกเว้น

คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ออกมาแล้ว ให้ซานติก้าผับต้องเสียภาษีสรรพสามิตสถานบริการในอัตรา10% ของรายได้

เมื่อวันที่ 19 เมษายน แหล่งข่าวกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีสถานบริการซานติก้าผับต้องเสียภาษีหรือไม่ ที่มี นายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน มีมติเป็นเอกฉันท์ออกมาแล้ว ให้ ซานติก้า ผับ ต้องเสียภาษีสรรพสามิตสถานบริการในอัตรา10% ของรายได้ ซึ่งคณะกรรมการได้ส่งผลสอบให้ นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาดำเนินการต่อไปแล้ว

แหล่งข่าวคนเดิม ระบุถึงเหตุผลสำคัญที่คณะกรรมการฯเห็นว่าซานติก้าผับต้องเสียภาษีสรรพสามิต เนื่องจากที่ผ่านมากรมสรรพสามิตมีการใช้ข้อระเบียบปฎิบัติต่างๆ ในการดำเนินการจัดเก็บภาษีจากสถานบริการเป็นปกติ ดังนั้น ถือว่าซานติก้าผับต้องเสียภาษีสรรพสามิตอย่างชัดเจน ไม่มีเหตุผลอะไรที่กรมจะไม่จัดเก็บภาษีจากซานติก้าผับ ไม่ว่าจะมีการจดทะเบียนสถานบริการหรือไม่ ก็ต้องเสียภาษี ดังนั้น ประเด็นที่กรมสรรพสามิตอ้างว่าซานติก้าผับไม่ได้จดทะเบียนเป็นสถานบริการจึงไม่ต้องเสียภาษี จึงไม่สามารถนำมาอ้างได้ ซึ่งประเด็นนี้ยิ่งทำให้ซานติก้าผับมีความผิดมากขึ้น ในฐานะไม่ให้ข้อมูลข้อเท็จจริงในฐานะผู้ประกอบที่ต้องเสียภาษี ซึ่งกรมสรรพสามิตต้องดำเนินการให้เกิดความชัดเจน

"หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับรมช.คลังว่า จะมีคำสั่งให้กรมสรรพสามิตดำเนินการอย่างไร แต่ในทางปฎิบัติกรมสรรพสามิตต้องเก็บภาษีทันทีตามหน้าที่ โดยไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสั่ง" แหล่งข่าวกล่าว และว่า ส่วนจะมีการเก็บภาษีย้อนหลังกับซานติก้าผับ หรือจะตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ฐานละเว้นปฎิบัติหน้าที่ไม่จัดเก็บภาษีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรมช.คลังว่า จะดำเนินการอย่างไร โดยในส่วนคณะกรรมการถือว่าปฎิบัติหน้าที่สิ้นสุดแล้ว

ก่อนหน้านี้ นายพฤฒิชัย ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดเก็บภาษี ซานติก้า ผับ หรือไม่ จะถือเอาคำตัดสินของคณะกรรมการชุดที่มี นายสถิตย์ เป็นหลัก หากตัดสินว่าต้องเก็บภาษี ก็ต้องดำเนินการตามนั้น ซึ่งเรื่องนี้มีผลกระทบกับสถานบริการเป็นจำนวนมาก เพราะปัจจุบันมีสถานบริการที่เปิดบริการในลักษณะเดียวกับซานติก้าผับหลายแห่ง ที่ไม่เสียภาษี ขณะที่มีสถานบริการที่เสียภาษีถูกต้องเพียง 28แห่งเท่านั้น