"ฝ่ายรับก็ข่มขืนได้" บทเรียนใหม่จากเรื่องฉาว "พระขืนใจเณร"

"ฝ่ายรับก็ข่มขืนได้" บทเรียนใหม่จากเรื่องฉาว "พระขืนใจเณร"

"ฝ่ายรับก็ข่มขืนได้" บทเรียนใหม่จากเรื่องฉาว "พระขืนใจเณร"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สิ่งที่หลายคนคิดเกี่ยวกับการข่มขืน คงหนีไม่พ้นการที่ฝ่ายหนึ่ง ที่มักมีพละกำลังมากกว่า กระทำกับอีกฝ่าย ที่มีแรงน้อยกว่า แต่หลังจากสื่อหลายสำนักรายงานข่าวเกี่ยวกับ พระสงฆ์ข่มขืนเณร โดยที่เณรเป็นฝ่ายรุก ทำให้คนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่า การเป็นฝ่ายรุกจะตกเป็นผู้ถูกกระทำได้อย่างไร

เมื่อไม่นานมานี้ เณรรูปหนึ่งได้เปิดเผยต่อสถานีโทรทัศน์ว่า ตัวเองถูกพระระดับเจ้าอาวาสรูปหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ข่มขืน โดยอ้างว่า พระสงฆ์ที่ข่มขืนตัวเองเริ่มจากการชักชวนให้ไปอยู่วัดเดียวกัน พร้อมเสนอค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าจ้างอีก 1,000 บาท หลังจากนั้นจึงเริ่มจับที่ของสงวน พร้อมขู่ไม่ให้ขัดขืน และได้สำเร็จความใคร่ด้วยปาก ยังไม่จบเพียงเท่านั้น หลังจากเณรล้างตัว พระได้ให้เณรไปรออีกห้อง แล้วขู่อีกครั้งว่าอย่าบอกใคร แล้วร่วมเพศกับเณร โดยที่เณรเป็นฝ่ายรุก

>> เป็นไปได้หรือไม่ ถ้าผู้ชายถูก “ล่วงละเมิดทางเพศ”

หลังจากมีการรายงานเรื่องนี้ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมาก แสดงความเห็นไปในเชิงประณามการกระทำดังกล่าว แต่บางส่วนก็รู้สึกสงสัยว่า การเป็นฝ่ายรุกจะตกเป็นผู้ถูกกระทำได้จริงหรือ

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ให้ความเห็นว่า แม้เณรเป็นฝ่ายรุก ก็อาจเป็นผู้ถูกข่มขืนได้ เพราะการกระทำดังกล่าว ไม่ได้เกิดจากการตัดสินใจของเณรเอง แต่เกิดจากการยั่วยุ หรือบังคับใจ ดังนั้นการเป็นฝ่ายรุก แต่เป็นผู้ถูกกระทำ จึงเป็นไปได้ 

ด้านศาสตราจารย์ณรงค์ ใจหาญ จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นว่า การจะเรียกว่าเป็นการข่มขืนนั้น ตรงพิจารณาจากข้อเท็จจริงว่า พระมีการบังคับใจเณรหรือไม่ ซึ่งจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่สอบสวนเพิ่มเติมให้ชัดเจน แต่ถ้าหากเณรมีอายุไม่เกิน 15 ปี ไม่ว่าจะเต็มใจมีเพศสัมพันธ์ด้วยหรือไม่ พระสงฆ์ก็มีความผิดอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี ทนายเดชา เสริมว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเณรรูปดังกล่าวอายุเกิน 15 ปีหรือไม่ ดังนั้นต้องพิจารณาว่า ความสัมพันธ์นี้เป็นการจำยอมหรือสมยอม

เมื่อถามว่า ทั้งเณรและพระอยู่ในฐานะที่เกี่ยวข้องกับศาสนา จะใช้กฎหมายเท่าเทียมกับคนธรรมดาหรือไม่ ทนายเดชาตอบว่า ในทางศาสนา เพียงเท่านี้ก็ถือว่าปาราชิก (พ้นสภาพพระสงฆ์) แล้ว ไม่ต้องจับสึกก่อน ขณะเดียวกัน กฎหมายบังคับใช้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าอยู่ในฐานะใด

เมื่อปี 2560 มีการรายงานว่า ผู้หญิง 3 คนได้ข่มขืนชายหนุ่มวัย 23 ปีในแอฟริกาใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า อาจเกี่ยวข้องกับกระบวนการค้าน้ำอสุจิ ส่วนเมื่อปี 2555 ผู้หญิงชาวออสเตรเลียได้บุกรุกเข้าไปบ้านชายคนหนึ่ง ก่อนที่จะใช้ปากตัวเองกระทำต่อฝ่ายชาย โดยที่ฝ่ายชายไม่ยินยอม

>>  สาวออสซี่สุดหื่นบุกข่มขืนผู้ชายถึงบ้านพัก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook